คุณนันท์ ครับ
ไม่ได้อยาก spoil คุณนันท์ไปให้ยิ่งกว่านี้ เพราะเชื่อว่าคุณนันท์จะไม่มีวันยอมให้ใครทำเช่นนั้นได้ แต่อยากเรียนว่า การณีการแปลหนังสือเพียงเล่มเดียวของคุณนันท์นี้ เมื่อมันไม่ใช่แค่เพียงการแปลเพราะเหตุผลเชิงการค้า แต่เป็นการแปลด้วยความศรัทธา ด้วยจิตวิญญาณ แล้ว ความเคลื่อนไหวที่คึกคัก มีพลังก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนทำธุรกิจสำนักพิมพ์ เขียนและแปลหนังสือดีๆ ออกมาตั้งมากมายหลายเล่ม แต่กลับไม่ค่อยได้ซาบซึ้งศรัทธาสักเท่าไหร่ ในสิ่งที่เขียน และหรือที่แปลนั้น มันก็เข้าข่ายอย่างที่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เคยเขียนกลอนชื่อ "เพียงความเคลื่อนไหว" เอาไว้ตอนหนึ่งว่า "...นกอยู่ฟ้านกหากไม่เห็นฟ้า..ปลาอยู่น้ำย่อมปลาเห็นน้ำไม่..ไส้เดือนไม่เห็นดินว่าฉันใด..หนอนย่อมไร้ดวงตารู้อาจม.."..อะไรที่มันออกมาจาก "ข้างใน" นั้น มันมีพลังมหาศาลเสมอ
ผมเองต้องทำงานท้าทายกับการยอมรับ และการปฏิเสธ อยู่ตลอดเวลา ไปบรรยาย หรือไปพูด ครั้งหนึ่งๆ แม้เพียงไม่กี่นาที หรือแค่ครึ่งชั่วโมง ก็ต้องเผชิญกับทั้งคำ "สรรเสริญ" และ คำ "ตำหนิ" ไปพร้อมๆ กัน ผมจึงได้ยึดถือภาษิตของชาวแอฟริการเผ่าหนึ่งที่ว่า.."ฉันจะไม่หยิบไม้ท่อนนั้นขึ้นมาไว้ในมือ เพราะถ้าฉันหยิบมันขึ้นมา มันก็จะต้องมีปลายทั้งสองข้างของท่อนไม้นั้น ติดขึ้นมาด้วย (เปรียบได้กับ "คำชม" และ "คำติ") ฉันจะปล่อยวางท่อนไม้นั้นไว้อย่างนั้นแหละ"..
ซึ่งก็ตรงกับที่โชปราได้บอกไว้ในเรื่อง "การปล่อยวาง" และก็ตรงกับที่คำพระท่านพร่ำสอนเรามาตลอด
แต่ก็นั่นแหละครับ หลายครั้งมันก็มีหวั่นไหวบ้าง เมื่อเผลอไปใส่ใจกับการวิพากษ์วิจารณ์ การยอมรับ หรือความคิดเห็นของผู้อื่นมากจนเกินไป ประเด็นมันจึงอยู่ที่เราจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน เท่านั้นครับ
|
ชื่อผู้ตอบ :
วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ |
ตอบเมื่อ :
10/10/2008 |