ผลกระทบต่อบุคคลอื่น เมื่อคุณคือผู้เชื่อมโยง
เรื่องนี้เป็นการทดลองที่เห็นผลทันตาที่อยากแชร์ค่ะ
พอดีกำลังอ่านเรื่องราว การลดอัตตาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทรงคุณค่าแทนความสัมพันธ์ไร้ค่า
........มีภารกิจที่ต้องเยี่ยมคนไข้ที่นอนรักษาในโรงพยาบาล บังเอิญเป็นโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ ปํญหาที่ต้องรับรู้ร่วมกันคือ"ที่จอดรถ"
ก็จึงใช้วิธีเยี่ยมตอนเย็นเกือบค่ำ แล้วก็มีเหตุฝนก็มาตก(ปรอยๆ) วนแล้วหลายรอบ จึงตัดสินใจจอดในที่ห้ามจอด ปิดประตูรถอย่างรวดเร็วกะจะเยี่ยมไม่เกิน 30นาที ทันใดก็มีเสียงคุณยามตะโกนลั่น
"จอดไม่ได้นะ!! จอดไม่ได้!!!"
ไม่ตะโกนเปล่ายังเดิน รี่มายังบริเวณแถวๆนั้น ซึ่งมีผู้เร่วมชะตากรรม อีก 2คัน ทั้ง 2คันมีคนนั่งในรถเข้าใจว่าจอดเพื่อหยุดคุยโทรศัพท์(ในที่ห้ามจอด) ดูการแต่งตัวแล้วคงเป็นนักศึกษาแพทย์
ขณะที่คุณยามเดินมาเคาะกระจก 2คันดังกล่าว(ด้วยความโมโห)พลางบ่นเสียงดังลั่น
"พวกผมทำตามหน้าที่ ...บอกจอดไม่ได้ๆ ก็ยังพูดไม่รู้เรื่อง"

ในช่วงเวลาเดียวกันที่คุณยามยุ่งกับรถยนต์ 2คันนั้น ตัวเองก็สปีดการเดินเพื่อมาเอารถออกไปให้เร็วที่สุด นึกในใจเดินมาไม่ถึงเราอย่างแน่นอน.......แล้วก็พบว่าช้าไปแล้ว.... ต้องเปิดกระจกออกมา"เจรจา"

ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะเป็นลักษณะ...รู้แล้วนะ!!! กำลังจะย้ายไม่เห็นรึไง???
............อยากลองการส่งถ่ายพลังงานความถี่สูง 13 วินาทีของ
คุณนายลีนน์ แกรบฮอร์น ดู.......ก็เลยเตรียมจะพูดว่า "ขอโทษทีพอดีฝนมันตก แล้วกะจะจอดแป๊ปเดียวจริงๆ"

ด้วยความรู้สึกสัมผัสไม่ทันได้จับว่ามันเป็นกี่วินาที.....ประโยคที่เตรียมไม่ทันได้พูดเลย
คุณยามถามก่อน"จะมาเยี่ยมคนไข้เหรอ??"
"มา!มา! คุณถอนมาจอดตรงนี้เลย" (เป็นที่จอดวีไอพีของอาจารย์หมอ ที่ทำงานเฉพาะช่วงกลางวัน)

.....เวย์น ไดเออร์....บอกเรื่องนี้ว่า
ขอให้คุณพิจารณาถึงความสำคัญของการรับรู้ถึงผลกระทบของตัวคุณที่มีต่อผู้อื่น และเตือนคุณเสมอว่า เมื่อคุณยกระดับพลังงานของคุณจนถึงระดับที่กลมกลืนกับแหล่งกำเนิด คุณจะกลายเป็นเครื่องมือ หรือช่องทางนำไปสู่สันติสุขได้ การกระทำในลักษณะนี้ได้ผลในทุกๆที่ .....ดังนั้น ....จงเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานที่ถ่วงดุลให้กับผู้คนที่มีพลังงานในด้านลบ
ซึ่งคุณจะต้องเผชิญหน้าด้วยเสมอในชีวิตของคุณ

เมื่อคุณรู้สึกว่าเชื่อมโยงอยู่กับผู้อื่นและส่งผ่านพลังงานที่เกิดจากความสัมพันธ์ที่ทรงคุณค่านั้นออกไป บุคคลอื่นจะตอบสนองการกระทำของคุณด้วยความเมตตา

และพร้อมที่จะออกนอกเส้นทางของเขาเพื่อช่วยเหลือคุณ
ชื่อผู้ส่ง : แฟนพันธุ์แท้ ถามเมื่อ : 19/09/2008
 


ดีจังและขอบคุณครับ ว่าแต่คุณรปภ.(เมื่อก่อนผมก็เคยเรียกว่า "ยาม" แกบอกผมกลับว่า รปภ. ครับ ไม่ใช่ ยาม . . จ๋อยเลยครับ) แกไม่เข้าใจผิด เห็นว่าหน้าตาอาวุโส เลยคิดว่าเป็นอาจารย์หมอ นะครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 20/09/2008
ถ้าจะเป็นอย่างนั้น......ก็ไม่ใช่เรื่องหน้าตาอาวุโสอย่างแน่นอน(แค่ยืนยันก็เพียงพอ ไม่ต้องถึงกับนั่งหรือนอนยัน)
คงเป็นที่คุณ รปภ.นัยน์ตามีแววสัมผัสอัจฉริยภาพว่าไม่ธรรมดา.....ไม่อย่างนั้นจะเคยมีอาจารย์หมอเดินมาถาม"ใครนะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับEQ ได้ดีที่สุดน่ะ".....อิอิ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/09/2008
ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแฟนพันธ์แท้ รู้สึกว่าคุณจะอ่านหนังสือแนวนี้มากจริงๆ ถึงตั้งนามแฝงว่าแฟนพันธ์แท้ ขนาดผมอ่านหนังสือแนวนี้มากแบบสุดสุดยังไม่แน่ใจพอที่จะตั้งชื่อทำนองนี้เลย ถ้าคุณแฟนพันธ์แท้อ่านเล่มไหนที่ผมยังไม่เคยอ่านช่วยเอามาแชร์กันใน เว็บนี้ด้วยนะครับ แล้วคุยกันใหม่ครับ
ชื่อผู้ตอบ : นิก ตอบเมื่อ : 20/09/2008
ชื่อนี้.....ไม่ได้เกิดขึ้นดังที่คุณเขียนค่ะ
มันเป็นความรู้สึกแรกที่มีต่อผู้เขียน(รวมทั้งผู้แปลฯ)ตลอดจนผู้คนอื่นๆที่อาจมีที่ทำให้เกิดหนังสือเล่มนี้รวมทั้งพื้นที่ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเค้าเพียงเล่มเดียวเนี่ยค่ะ

พอเวลาต่อมาก็รู้สึกเขินเหมือนกัน ที่ต้องมาใช้ชื่อนี้น่ะ......รับรองว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับการแซวของคุณหรอกนะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/09/2008
ผมชักรักทั้งรปภ. และหมอแถวนั้นจริงๆ ช่างเป็นคนมีน้ำใจ ให้กำลังใจแก่ผู้อาวุโส จริงๆ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 20/09/2008
ถ้าไม่ตรงกับที่ผมเขียน ต้องขอโทษด้วย ส่วนพื้นที่นี้คงไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อ หนังสือเล่มนี้เพียงเล่มเดียวแน่ แต่เป็นหนังสือแนวนี้ทุกเล่มครับ
ชื่อผู้ตอบ : นิก ตอบเมื่อ : 20/09/2008
เห็นด้วยกับคุณแฟนพันธ์แท้ที่บอกว่า บุคลากรทางการแพทย์ต้องอ่านผลงานของดีพัค โชปรา รวมทั้งผู้ป่วยทุกโรค ทุกคน ถ้าได้รู้ว่าร่างกายของพวกเขาสามารถเปลี่ยนไปได้โดยใช้จิตสำนึกของเขาเองแล้ว คาดว่าวงการแพทย์คงตกงานเหมือนกันครับ
เจอคนอีกคนหนึ่งซึ่งเก่งมาก(อาจจะมากกว่าดีพัค โชปรา) คือคุณ มาร์ธา ไฮแอท ซึ่งบอกว่าทุกเซลล์ในร่างกายมีความสำนึกรู้ ดังนั้นถ้าเราสามารถสื่อสารกับจุดที่ผิดปกติในร่างกายของเราให้มันทำงานตามจุดมุ่งหมายที่มันเกิดขึ้น(จุดมุ่งหมายคือการสร้างสรรค์ไม่ใช่ทำลาย) คือตัวเราเองเนี่ยก็มีจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์เหมือนกัน ดร.เวย์น ถึงบอกให้เราให้ความรักและช่วยเหลือผู้อื่น เช่นกันทุกเซลล์ในร่างกายก็มีจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ ถ้าเราปรับจิตให้สำนึกรู้และสื่อสารกับมัน ว่าจุดมุ่งหมายมันคือเพื่อสร้างสรรค์ได้ ทุกส่วนจะเป็นปกติสุขครับ
เช่นกัน ต้นไม้ ดอกไม้ทั้งหมด ต่างทำหน้าที่สร้างสรรค์ของมัน และมันไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย มีแต่มนุษย์ที่มีอัตตา ทำให้ขัดขวงพลังงานของการสร้างสรรค์(หรืออำนาจแห่งเจตนารมณ์ ตามที่ ดร.เวย์น ไดเออร์ว่าไว้)
ชื่อผู้ตอบ : นิก ตอบเมื่อ : 20/09/2008
11-23 ตุลาคม เจอกันที่งานมหกรรมหนังสือ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตนะครับ
ชื่อผู้ตอบ : นิก ตอบเมื่อ : 20/09/2008
น่าอิจฉาคนกรุงเทพฯจังค่ะ
แต่ก็ลงไปทำธุระ 8-9ตุลาเหมือนกัน ...ไม่รู้ว่าจะทนอยู่ต่อได้รึเปล่า??
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 27/09/2008
ถ้ามากรุงเทพฯ แล้วมีเวลาและไม่รังเกียจที่จะให้เลี้ยงข้าวสักมื้อ หรือกาแฟสักแก้ว ก็บอกนะครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 27/09/2008
ผมว่า meeting เล็กๆ ที่งานหนังสือดีมั๊ย ไปหากาแฟ ทานแล้วนั่งคุยกันครับ เป็นกัลยนมิตร แปลว่ามิตรที่ดีต่อกันครับ ผมก็อยากเห็นตัวจริง ของกูรูทุกท่านใน board นี้ คิดว่าคงจะสนุกกับการสนธนาแน่นอนครับ

ผมว่าคุณนิกรู้เรื่องหนังสือดีกว่า พนักงานสำนักพิมพ์ต้นไม้บางคนซะอีก เพราะผมเคยอยากรู้เนื้อหาหนังสือบางเล่ม ที่ขายในงาน พอถามแล้ว แกก็ งงๆ ต้องไปตามคุณวันชัย .....ทำไมไม่ตามคุกกี้ก็ไม่รู้!! (~รมณ์เสีย)
คุณนิกถ้าจบปริญญาตามที่ต้องการแล้ว ลองไปสมัครงานที่สำนักพิมพ์ต้นไม้ดูซิครับ เพราะเท่าที่ลองอ่านกระทู้ที่คุณpost ดุแล้ว น่าจะสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ อีกทั้งมีใจรักทางด้านนี้ ถ้าเช่นนั้นก็เป็นนักแปลไปเลยครับ แล้วผมจะมีหนังสือดีให้ติดตามอ่าน และผมจะเป็น _lmi คุณครับ
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 27/09/2008
คุณผู้อ่านจะมีสมาธิมานั่งคุยรื้อ? กลัวว่าจะมัวชะเง้อคอไปทางบูธ สนพ.ต้นไม้ (ฮา)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 27/09/2008
อยู่ลพบุรี แต่ก็อยากไปเจอหน้าทุกคนเหมือนกันครับ ว่าจะเอาลิงไปฝาก ........มีใครจะเอาไหม ....5 5 5
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 29/09/2008
ความจริงผมก็ผูกพันกับลิงของเจ้าพ่อศาลพระกาฬเหมือนกัน เพราะเคยอยู่ลพบุรี ที่ อ.ป่าหวาย พอจำความได้ ตอนเด็กๆ เรียนหนังสือจนจบชั้นประถมสาม ที่โรงเรียนเจียกเกื้อกูลวิทยา ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว (จากการไปสำรวจเมื่อหลายๆปีก่อน) เคยกลับไปลพบุรีอยู่อีก 2 หน ตอนช่วงวัยรุ่น คุณนิติพงษ์ ห่อนาค แกชวนผมและกลุ่มเพื่อนไปเที่ยว อวดบ้านและครอบครัวของแกครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 29/09/2008
ว้าว....คนบ้านเดียวกันนี้เอง คุณนิติพงษ์ ห่อนาค แกเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนพิบูลวิทยาลัยครับ แต่คงจะห่างกับผมอยู่หลายสิบปีอยู่ครับ
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 30/09/2008
ผมเคยได้ฟัง โต้วาทีครั้งหนึ่งของ อ.วสันต์
อ.ท่านบอกว่า คนแก่ หรือผู้สูงวัยมักจะมีลักษณะดังนี้
ชอบของขม ชมสาวสวย ช่วยศาสนา บ้าของเก่า เล่าความหลัง

ถ้าจะวิเคราะห์ เฉพาะ "เล่าความหลัง" ตรงนี้มีผู้สูงวัยหลานคนเลย
5555 แซวเล่นนะครับ อย่าถือสาหาความเลยนะครับ

คุณ นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) จะไปวันไหนครับ ลงวันแน่นอนมาเลยครับ
พวกเราจะได้ไปเจอกัน
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 30/09/2008
จริง ๆ แล้วมีแก่แค่คนเดียวครับไม่ใช่ผมหรอก เพราะผมเพิ่งยี่สิบจะปลายๆ แค่นั้นเอง....
- ก็อยากไปครับแต่คงจะต้องวันอาทิตย์เท่านั้นครับเพราะต้องทำงานถ้าระบุได้จะแจ้งให้ทราบครับ ขอบคุณครับ
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 30/09/2008
ตกลงคุณนีโอ ได้รับหนังสือสวดมนต์รึยังคะ?
หากยัง น่ากลัวจะหายระหว่างทาง

จะส่งให้ใหม่ค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 30/09/2008
ยังไม่เห็นเลยครับ....ก็ยังรออยู่ทุกวันเลย ไม่รู้ว่าติดน้ำท่วมหรือเปล่า...เอางัยดีครับ..
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 01/10/2008
จะส่งให้อีกรอบค่ะ
ถ้าซ้ำ คุณนีโอเก็บไว้มอบให้คนที่จะได้รับประโยชน์....คนต่อไป ดีมั้ย? แต่คงวันวันพรุ่งนี้ค่ะ วันนี้ต้องดูแลวิทยากรที่เชิญมาอีก 1วัน
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 01/10/2008
ขอบคุณครับ
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ตอบเมื่อ : 01/10/2008
ผมนี่ครบคุณลักษณะ ที่คุณผู้อ่านบอกมาเลยครับ แถมเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ยังวัยรุ่น มิน่าเพื่อนๆ ถึงได้บอกว่า ผมเป็นพวกแก่ก่อนวัย

ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 02/10/2008
ถ้าเป็นแบบนี้....หลังจากอ่านPracticing The Power Of Now และ
Ageless Body Timeless Mind .......ก็แสดงว่ายังไม่ถึงขั้น"ตระหนักรู้"......อิอิ

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 02/10/2008
Ageless Body Timeless Mind ยังวางนิ่งสนิทมาตั้งแต่วันซื้อเลยครับ เพราะผมมัวแต่ใช้หลักข้อ Timeless Mind อยู่ครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 02/10/2008
ความกระตือรือล้นก่อนไปซื้อมา
กับหลังซื้อมาแล้วนี่

ช่างแตกต่างกันจังเลยเนาะ!
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 03/10/2008
คุณนันท์ครับ ถ้าต้องการใช้คำพูดให้มีพลัง คำว่า "แก่ก่อนวัย" นั้น ขอให้เปลี่ยนเป็น "ใบหน้ามีวิสัยทัศน์" จะดีกว่านะครับ ผมเองใช้กับตัวเองบ่อยๆ สมองไม่ค่อยมี ขอให้ใบหน้ามี ผมก็ภูมิใจแล้ว (ฮา อย่างคนมีใบหน้ามีวิสัยทัศน์)

แสดงว่าคุณแฟนพันธุ์แท้ ก็มีอาการเช่นว่านี้เหมือนกัน..before & after (อาการก่อน และหลังซื้อหนังสือ)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 03/10/2008
ต้องเปลี่ยนตำแหน่ง คนรู้ใจ....เป็นคนรู้ทันค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 04/10/2008
ถ้าเป็นตอนวัยรุ่นๆ คงต้องบอกว่า "ท่านอาจารย์ คิดได้ . . งัย" ชอบจริงๆ ครับ "ใบหน้ามีวิสัยทัศน์" น่า(หน้า)เกรงขาม ขึ้นเป็นกอง

ผมยังมีความกระตือล้นเท่าเดิมอยู่ครับคุณแฟนพันธุ์แท้ ถึงแม้จะเป็นพวกใบหน้ามีวิสัยทัศน์ กว่าความเป็นจริง หนังสือมันหนามาก และผมเป็นพวกไม่ชอบอ่านขาดตอน มันทำให้ต่อภาพรวมได้ไม่ค่อยติดครับ

ว่าแต่คุณแฟนพันธุ์แท้อ่านจบแล้วหรือยังครับ มาเล่าสู่กันฟังก่อนก็ได้นะครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 04/10/2008
กำลังอ่าน"พลังแห่งจิตปัจจุบัน"อยู่ค่ะ
มันอ่านง่ายก็จริง แต่ก็ต้องอ่านช้าๆเหมือนกัน
ยังสงสัยคุณนีโอ อ่านเร็วได้ไง ไป2รอบละ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 04/10/2008
เหมือนกันครับ หนังสือแบบนี้ ผมอ่านช้ามาก บางทีอ่านไป 2 ประโยค นิ่งไป 2 นาที จึงอ่านต่อได้

คุณนีโอ อาจมีเวลาอ่านมากกว่า ก็เป็นได้ แต่บางคนชอบอ่านรอบแรกเร็วๆ เพื่อเอาภาพรวมแล้วตามเก็บซ้ำอีกทีก็มี
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 05/10/2008
ได้เว้นวรรค....ไปสแกนดูเนื้อหา ร่างกายที่เหนืออายุขัย จิตใจที่ไร้กาลเวลา

ก็ทำให้ตะลึงเรื่อง อายุของโชปราค่ะ
กดเครื่องคิดเลขออกมาแล้วเป็น 62ปี
ก่อนหน้านี้ เวย์น ไดเออร์ ก็จะอ้างในหนังสือของเค้าตลอด ว่าเป็นเพื่อนสนิท ก็คิดว่าคงเป็นเพื่อนต่างวัยมากๆ(คงเป็นเพราะโชปรา มีเส้นผมที่ยังมากมายอยู่) นึกไว้ตอนแรกคิดว่าคงซัก 50ต้นๆ

เคยเจอผู้หญิงคนนึงอายุ 58ปี มาจากประเทศออสเตเรีย(ในงานสัมนานักขายนานาชาติที่สิงคโปร์) เธอพูดหัวข้อ สุขภาพของนักขาย ดูจากบุคลิคภาพ ความกระตือรือร้น และตัวบ่งชี้ที่สำคัญคือผิวพรรณเหมือนจะซักไม่เกิน 38ปี(ตอนนั้นตัวเองอายุ 38ปีพอดี ก็รู้สึกว่าถ้าเรา58ปีจะเป็นไงเนี่ย????)

ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี่ มีหมอเวชกรรมสังคม(ผู้หญิง)ท่านนึงที่มาอบรม พลังจิตอัศจรรย์ ก็มีการคุยกันสนุกสนานถูกคอ ก็เกิดอาการอยากรู้ว่าเป็นรุ่นพี่ หรือรุ่นน้อง หรือรุ่นเดียวกัน พอบอกว่าระหัส มหา'ลัยขึ้นต้นด้วย 21......ก็เกิดแรงบันดาลใจอยากจะเสร็จภาระกิจอื่นๆเพื่ออ่านเล่มนี้เร็วๆ (หมอคนนี้นินทามากคงไม่ได้...เพราะเดี๋ยวเค้าเข้ามาในwebsite นี้แน่นอน....อย่างน้อยก็มาร่วมกิจกรรมหนังสือส่งต่อ)

หากอาจารย์วสันต์ มาอ่านเข้า กรุณาหยุดความคิด และการแกะร่องรอยหาความจริงไม่ว่าจะเป็นอาชีพหลัก....และอายุตามเข็มนาฬิกา กันอีกเลย เพราะ พวกเราทุกคนกำลังมุ่งไปสู่การ

"เข้าถึง"ซึ่ง

.........ร่างกายที่เหนืออายุขัย
จิตใจที่ไร้กาลเวลา.........
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 05/10/2008
-ผมเป็น ประเภทเสือปืนไว ครับ พอได้ยินใครพูดถึงหนังสือเล่มไหนจะพยายามรีบไปหามาอ่านทันที
- ถูกของคุณนันท์ครับ ผมจะอ่านรอบแรก และ อ่านซ้ำเพื่อเก็บรายละเอียด ( เหมือนวิธีการอ่าน โชค ดวง ความบังเอิญ คุณกำหนดได้ )ซึ่งตอนอ่านซ้ำเนี้ย จะพบกับข้อความหรือหัวข้อที่ เตะตา ใหม่ ๆ อยู่ตลอด เหมือนการผจญภัย ครับ
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 06/10/2008
Dear Khun FanPantae,

Take it easy! Don't worry about that.It's a Joke!!(haaa!)

ชื่อผู้ตอบ : Vason Pongsupradit ตอบเมื่อ : 06/10/2008


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code