กระดาษตัดตะเกียบ ทำได้อย่างไร
ผมเคยเห็น การนำกระดาษบางๆมาตัดตะเกียบหรือดินสอไม้
ไม่ทราบว่าทำได้อย่างไร????
ผมอยากจะลองทำเองที่บ้าน แต่ทำไม่เป็น


แล้วผมจะนำไปตัดอย่างอื่นได้หรือไม่

ขอบคุณครับ
ชื่อผู้ส่ง : ผู้อ่าน ถามเมื่อ : 07/09/2008
 


ขอตอบ....ตามการบอกเล่าที่ได้รับฟังมาค่ะ
เป็นการใช้พลังจิต(ซึ่งรับการฝึกมาแล้วอย่างดี)ร่วมด้วยประกอบกับเทคนิคการใช้แรงของข้อมือ
ซึ่งกลุ่มคนที่ศึกษาศาสตร์พลังจิตยุคแรกๆ นิยมทำกัน....ซึ่งมีแนวโน้มทำเพื่อโชว์(จุดประสงค์เพื่อบอกว่าพลังจิตมีจริง) แต่ในกลุ่มคนศึกษาเพื่อนำศาสตร์พลังจิตมาใช้เพื่อเกิดประโยชน์มองว่าเป็นการใช้ไปในทางทำลายล้างไม่เกิดประโยขน์อันใด เมื่อเทียบกับพลังที่ต้องใช้ไป และที่สำคัญตะเกียบเป็นอุปกรณ์ที่ถือว่ามีคุณประโยชน์กับมนุษย์อย่างเราๆกันอยู่

คนกลุ่มหลังจึงเน้นฝึกจิตให้เกิดประโยชน์ในด้านอื่นๆแทนเช่น
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นโทษ และเสริมสร้างศักยภาพส่วนบุคคล

ซึ่งไม่ว่าฝึกจิต จะทางโลกหรือทางธรรม
มันคือ

การทำสมาธิค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 08/09/2008
ไม่ทราบโดยลึกซึ้งว่าเป็นอย่างไร เข้าใจเหมือนคุณแฟนพันธุ์แท้ว่า เป็นเรื่องการแสดงความสามารถ จากการนำพลังจากจิตใต้สำนึก ที่มีอยู่อีก 90% ออกมาใช้ นอกจากนี้ยังมีการแสดงการยกคนด้วยนิ้วมือ โดยคน 4 คน ช่วยกัน เป็นต้น

ทราบว่าบุคคลที่สอนเรื่องนี้มาร่วม 20 ปีแล้วคือ รศ.รตอ.สรพล สุขทรรศนีย์ ซึ่งไปศึกษามาจากประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันตั้งเป็นสถาบันชื่อ สถาบันวิจัยค้นคว้าวิชาการสั่งจิตใต้สำนึก หรือลองเข้าไปดูได้ที่ http://www.sangjit.net/index.html

ดูจากข้อมูลในเวบไซด์ มีคนไปฝึกกันเยอะเหมือนกัน เห็นบอกว่าเด็กๆ ฝึกให้มีสมาธิเรียนเก่ง กล้าแสดงออกได้ ถ้าอยากรู้จริงๆ คุณผู้อ่าน ต้องไปลองดูด้วยตนเองแล้วละครับ จะได้มาเล่าสู่กันฟัง
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 08/09/2008
ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่า ผู้ที่เคยเข้าหลักสูตร "การสั่งจิตใต้สำนึก" นี้มาแล้ว ได้สามารถนำไปประยุกต์ ปรับใช้ในการทำงาน และการดำเนินชีวิต ได้สักแค่ไหน เพียงใด เท่าที่เคยเห็น ก็มีแต่คนที่ฝึกไว้โชว์การตัดตะเกียบด้วยกระดาษ เป็นความสนุกครึกครื้นในหมู่เพื่อนฝูง หรือในงานสังสรรค์เท่านั้น

วิทยากรด้านนี้บางท่าน (ไม่ใช่ คุณสรพล) ถึงกับโชว์การสะกดจิตคนในห้องสัมมนา (ต่อหน้าต่อตาผม) โดยสะกดจิตให้ทำเป็นแม่ไก่ คนถูกสะกดจิตก็ถึงกับนั่งยองๆ กระโดดไปมา กระพือปีก (แขน) ทำกิริยาอาการคล้ายแม่ไก่จริงๆ พร้อมส่งเสียงกะต๊ากๆ ไปด้วย บางคนถูกสะกดจิตให้เป็นลิง เขาก็จะทำท่าทางและส่งเสียงร้องเป็นลิงไปเลย ภายหลังกลับมาอยู่ในภาวะปกติ ลองถามดู เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้ทำอะไรลงไปเมื่อสักครู่นี้ วิทยากรคนนั้นบอกกับเราว่าเขาเลือกสะกดจิตเป็นบางคน โดยพิจารณาว่าใครน่าจะเป็นคนจิตอ่อน เพราะบางคนเขาก็ไม่สามารถสะกดจิตได้ เพราะจิตแข็ง แต่สุดท้ายก็สรุปได้เพียงว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" ซึ่งเรารู้มาเป็นพันปีแล้ว ไม่ได้บอกวิธีที่จะนำไปประยุกต์หรือปรับใช้ได้ในชีวิตจริง ลงท้ายก็หันเข้าเรื่องการทำสมาธิในทางพุทธ (อย่างที่คุณแฟนพันธุ์แท้ว่า) การสะกดจิตนั้นก็ถือว่าเป็นการแสดงโชว์อย่างหนึ่งให้ดู เท่านั้นเอง

แอนโธนี่ รอบบิ้นส์ นักพูดปลุกใจชื่อดังชาวอเมริกันนั้น ถึงกับสะกดจิตคนจำนวนมากพร้อมๆ กัน และพาผู้เข้าสัมมนาจำนวนสามสี้พันคน เดินลุยถ่านติดไฟ (ไม่มีเปลวเพลิง และไม่ทราบว่าระยะทางยาวกี่เมตร) ได้เลยทีเดียว แต่ก็ไม่เคยมีใครเก็บสถิติว่าผู้คนที่เคยผ่านการลุยถ่านติดไฟมานับแสนคนนั้น ได้นำไปประยุกต์ปรับใช้เพื่อสร้างสำเร็จในชีวิต และการทำงานกันได้สักกี่คน แต่มีคนไทยสามสี่คนที่เคยไปเป็นลูกศิษย์รอบบิ้นส์กลับมาเป็น Coach นักพูดปลุกใจได้เลยทีเดียว และมีอยู่คนหนึ่ง นำกิจกรรมลุยถ่านติดไฟมาใช้ด้วย

เด็กไทยคนหนึ่งชื่อ "วิน เอี่ยมอ่อง" เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งชื่อว่า "มายาจิต" เขาเคยออกทีวี สะกดจิตคนในห้องส่งหลายสิบคน ซึ่งเขาขอให้ยืนขึ้น จากนั้นก็สะกดจิตให้ทุกคนล้มลงบนที่นั่งพร้อมๆ กันได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เขายืนยันว่านี่ไม่ใช่การสะกดจิต แต่มันเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นการทำงานกับคลื่นสมองของผู้คน เขาบอกว่าเขาเพียงนำศาสตร์ทางด้านจิตวิยา มาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ด้านสมองสมัยใหม่ (Neuro Science) เท่านี้ เขาก็สามารถควบคุมความคิดและจิตใจของผู้คนได้แล้ว!

ก็เล่าสู่กันฟังครับคุณผู้อ่าน ระยะหลังไม่เห็นถามเรื่องหนังสือหนังหาเลยนะครับ คิดถึงคุณอยู่เหมือนกัน

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 10/09/2008
ช่วงนี้ แอบไปอ่านหนังสือเตรียมสอบครับ
ถ้าไม่เข้าใจเรื่องอะไรเอาเข้ามาถามในนี้ไม่ได้
ต้องเอาไปถามอาจารย์ที่คณะครับ

ผมเข้าใจว่าคนที่เอาแนวทางของ แอนโธนี่ รอบบิ้นส์
เคยได้ยินว่า เป็น คุณศุภกิจ รุ่งโรจน์ เจ้าของ พิสซ่าลอยฟ้า
แล้วอีกคนหนึ่งที่เคยได้ยินเป็น คนแปลหนังสือของ แอนโธนี่ รอบบิ้นส์ นั่นแหละครับ ผู้พัน อนันท์

ขอบคุณอาจารย์ที่คิดถึงครับ

ตอนนี้เวลาว่างก็ไปเอา เดี่ยว 7 มาดู
แล้วก็ทำให้สงสัยว่า โน๊ต อุดมเค้าทำไปได้อย่างไร
เป็น พรสวรรค์ หรือ พรแสวง
แล้วถ้าผมอยากทำบ้างต้องทำอย่างไร
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 10/09/2008
เป็น "พรสวรรค์" ครับ เป็นพรสวรรค์ที่ต้องใช้พรแสวงเพื่อฝึกฝนให้ชำนาญ คนที่ไม่มีพรสวรรค์ก็อาจฝึกฝนได้ แต่ฝึกให้ตาย ก็ได้แค่ "พอใช้ได้" ไม่มีทางที่จะ "เป็นเลิศ"

เอ่อ..นึกไงถึงอยากจะเดี่ยวไมโครโฟนกับเขาบ้าง? ไม่ฝึกตัดตะเกียบแล้วเหรอ? (ฮา)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 11/09/2008
ก็พอดีว่าไปดูเดี่ยว 7 แล้วมาอ่านในกระทู้ตอบของอาจารย์
ทำให้ผมนึงย้อนไปสมัยเรียนกับอาจารย์ที่ Manpower ครับ(ตอนนั้นอายุ 12 ครับ โกงอายุตอนสมัครเรียนด้วย...อิอิ....เพราะกฎการสมัครเค้าบอกว่าต้อง 15 up)
ตอนนั้นผมอยากจะ talk show เป็น และคนที่ talkshow ที่เป็นกิจจะลักษณะเลยในประเทศไทยก็มี 2 คนคือ อ.จตุพล (thaitalk+ฮาลอยตัว) กับ โน๊ตอุดม (เดี่ยวไมโครโฟน) เพราะของ อ. ทินวัตน์ ท่านก็เลิกไปนานแล้ว แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ยัง talkshow ไม่ได้ครับ
ใครกรณีของ อ.จตุพล ก็เป็นพรสวรรค์ เหมือนกับโนตอุดมหรือเปล่าครับ
เหมือนกับผมเคยฟัง ไม่แน่ใจว่าในทีวีหรือเปล่า ว่า อ.จตุพล ท่านฝึก ๆ และ ฝึก หนัก (เพราะเด้กๆท่านเป็นคนเงียบๆ....ตามที่ท่านให้สัมภาษณ์)
ถ้าสมมติว่า อ.จตุพล คือมาจากการฝึก ดังนั้นในระดับของ อ.จตุพล ก็แค่"พอใช้" แต่จริงๆก็เป้นระดบัพอใช้ที่ยอมรับได้ อย่างน้อยก็มีคนยอมรับถึงเป็นพันๆ จนถึง thaitalk 6
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 11/09/2008
โอ้โฮ แสดงว่าตอนนั้นคุณผู้อ่านตัวโตกว่าอายุจริง หรือมิฉะนั้น เจ้าหน้าที่ของผมก็ตาโตที่ได้เห็นเงินคุณ จนลืมดูหน้าตาของคุณไป แต่ไม่เป็นไร เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว คงไม่มีใครไปร้องเรียนว่าผมหลอกเด็ก (ฮา)

กรณีของคุณจตุพล ก็เป็นเรื่องของพรสวรรค์ครับ และเป็นพรวรรค์ที่ต้องใช้พรแสวงในการฝึกฝนให้ชำนาญ

ผมอยากให้คุณผู้อ่านลองไปอ่านกระทู้เรื่อง "ต้นแบบ จุดแข็ง ความถนัด อัจฉริยะ พรสวรรค์ : คนละเรื่องเดียวกันหรือไม่? ในเว็บบอร์ดนี้ดู น่าจะทำให้คุณผู้อ่าน "แกะรอย" พรสวรรค์ของตนเองได้

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 14/09/2008
ไม่ได้หลอกเด็กหรอกครับ
แต่มีบ้างอย่างที่ผมยังนึกเสียดาย.....
คือแม้จะเป็นคอร์สที่จัดที่ manpower เองก็ไม่ค่อยได้สัมผัสใกล้ชิด อ.วสันต์ซักเท่าไร จำได้ว่า อ.อยู่แค่ 2วัน คือวันแรกและวันสุดท้าย ส่วนวันอื่นก็จะเป็น อ.อุสมาน ลูกหยี อ.สมาน งามโขลน อ.การุณ กูใหญ่ (อีกท่านหนึงตัวสูงๆ ผมจำชื่อไม่ได้ มันหลายปีแล้ว จำได้ว่ามีคำว่า วุฒิ อยู่ท้ายชื่อ ) ซะเป็นส่วนมากแล้วก็ อ.สุขุม ซักวันนึง ถ้าถามใจผมจริงๆ อยากได้ฝึกวิทยายุทธ์กับเจ้าสำนักมากกว่าครับ เพราะที่ผมสมัครเรียนแม้จะอายุไม่ถึงก็เพราะเป็นสถาบันของ อ.วสันต์ นักพูดในดวงใจผม แต่มันก็ผ่านมาแล้วครับ

อย่างไรก็ตามมาถึง ณ วันนี้ ขอขอบพระคุณ อ. ทุกท่าน ของ manpower มากครับ


อืมม อ.วสันตครับ ผมเคยไปฟัง talkshow รายการเส้นทางนักขาย(ซึ่งผมชอบมาก...เพราะฟรี) ไม่ทราบว่า อ. ยังบรรยายอยู่หรือเปล่าครับ หรือเค้ายังมีจัดอยู่หรือเปล่าครับ
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 15/09/2008
วิทยากรตัวสูงๆ นั่น คือ อ.สุรวุฒิ ดุษฎีเมธากุล ครับ พาครอบครัวลูก 2 เมีย 1 ย้ายไปตั้งรกรากที่ประเทศแคนาดา นานหลายปีแล้วครับ

รายการเส้นทางนักขาย ก็ยังมีออกอากาศอยู่ที่ช่องเนชั่นแชแนล เคเบิลทีวี เพียงแต่เขาไม่ได้จัดกิจกรรมพูดแบบที่คุณผู้อ่านเคยไปฟังนั่นอีกแล้วครับ (ตอนนั้นเขาอยู่ที่ช่อง 11) แต่แหม น่าเสียดาย คุณผู้อ่านน่าจะเข้ามาทักทายกันหน่อย แอบไปฟังเงียบๆ ไม่เข้ามาเสวนาต้าอ้วยกันบ้างเลย

ความจริง เมื่อมาพิจารณาแรงบันดาลใจ ความหลังฝังใจ และการเฝ้าคิดวนเวียนในสิ่งที่เป็นความหวัง ความฝัน ที่ไม่เคยหายไปจากจิตใจ แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี ของคุณผู้อ่านแล้ว ผมก็นึกสังหรณ์ว่า หรือนี่ก็เป็นสิ่งที่คุณอาจจะเกิดมาเพื่อที่จะเป็น? เพียงแต่อาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพื่อปรับแต่งให้มันสอดคล้องกับความเป็นจริงของเรามากขึ้น เพราะเมื่อพูดเรื่อง "การพูด" มันก็มีหลายเหลี่ยม หลายมุม หลายมิติ เลยทีเดียว ดั่งกรณีตัวของผมเอง ฝังใจมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยอยู่บ้านนอก ไปอ่านชีวประวัติของอับราฮัม ลินคอล์นเข้า ตั้งปณิธานไว้เลยว่าจะต้องเป็นทนายความ (ก็ได้เป็น) จะต้องเป็นนักคิด นักพูด (ก็น่าจะหลงตัวว่า ได้เป็นเช่นกัน) จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันแบบ "ตลกลึก" (ก็น่าจะใกล้เคียง) จะต้องเป็นนักการเมือง (พยายามแล้ว แต่เข้ากับวงการเขายังไม่ได้เลย) จะต้องรักความเป็นธรรม จะต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อความยุติธรรม เพื่อหมู่คนผู้ยากไร้ (นี่คือเหตุผลว่าตอนเรียนธรรมศาสตร์ ไม่เคยเข้าห้องเรียนเลย เอาแต่เดินขบวน เป็นผู้นำนักศึกษา ถูกจับติดคุกคดีการเมืองอยู่สองสัปดาห์ ตอน 6 ตุลา 19) ซึ่งในประการหลังนี้ ก็ยังอยู่ในขั้นพยายามเท่านั้น ยังไม่ได้ทำอะไรที่จะจัดได้ว่าเป็นชิ้นเป็นอัน

กล่าวโดยสรุป แม้จะทำไม่ได้ถึงหนึ่งในล้านของอับราฮัม ลินคอล์น แต่การที่มีเขาเป็นต้นแบบ มันก็ทำให้ผมมีทักษะ และคุณสมบัติ ไปในแนวเดียวกับเขา (ที่สำคัญ ผมเป็นโรคซึมเศร้าอยู่บ้างเล็กน้อย แบบเขาเปี๊ยบเลย นี่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจะเลียนแบบเขาไปเสียทุกอย่างหรือเปล่า นี่ก็ภาวนาว่าอย่าให้ต้องถูกลอบยิงแบบเขาเลย!) ดังนั้น ในประการนี้ ที่จะบอกกับคุณผู้อ่านก็คือ อย่าเลียนแบบใคร จะยึดถือผู้ใดเป็นต้นแบบก็ได้ แต่ก็อย่าไป "ยึดติด" เพราะถึงที่สุดแล้ว เราก็ไม่สามารถเป็นได้แบบเขาเปี๊ยบ เราก็จะต้องเป็นไปในแบบของเราเท่านั้น

เอาใจช่วยให้คุณผู้อ่าน "ค้นพบ" ตัวเอง เพื่อจะได้ "สร้างสรรค์" ตัวตนของตัวเองให้เป็นเลิศในแบบของคุณเองครับ

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 16/09/2008
ขอบพระคุณครับ อ.วสันต์ ผมเข้าไปอ่าน กระทู้ของ อ.ด้านบนแล้ว (ต้นแบบ จุดแข็ง ความถนัด อัจฉริยะ พรสวรรค์ ) ดีมากเลยครับ ได้เห็นภาพมาก

เมื่อก่อนผมเคยไปดูรายการก่อนที่จะเป็นสภาโจ๊ก ที่สตูดิโอ แต่พอมาเป็นสภาโจ๊กแล้วไม่ได้ไปดูเลย อ่ออ ช่วงแรกๆที่ดูรายการสภาโจ๊ก ผมไปรู้สึกว่าเห็น อ.อุสมาน ลูกหยี ตอนนั้นคู่กับ คุณณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แต่ตอนนี้ คุณณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ไปเป็นโฆษก แล้ว แต่ อ. อุสมาน หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ อย่างไรก็ตามผมยังชอบที่จะศึกษาศาสตร์แห่งการพัฒนาตัวเอง แต่ข้อเสียของผมคือ ประยุกต์เข้ามาใช้ในชีวิตได้น้อยกว่าที่อ่านมามาก ดังนั้นหนังสือที่ผมอ่านมา ก็ยังเป็นเพียงแค่รู้เพื่อประดับสมอง อย่างไรก็ตามก็ต้องสู้ต่อไปครับ
ส่วนรายการเส้นทางนักขาย ผมไปเมืองหลายๆปีที่แล้ว น่าจะตอนผมอยู่ มัธยม ซึ่งก็นานแล้ว ซึ่งเป็นงานที่ผมได้เจอตัวจริงของนักพูดที่ผมประทับใจเยอะมากๆ
คงได้มีซักวันที่ผมจะได้พบ อ. อีกครั้งนะครับ
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 16/09/2008
อุสมาน ลูกหยี กำลังทำตามความศรัทธาของเขา (เขาเป็นมุสลิม) คือตั้งใจว่าจะมีภรรยาให้ครบ 4 คนให้ได้ (ฮา) ตอนนี้ มีไป 2 คนแล้ว (ฮา ด้วยความตาร้อน!)

ส่วนณัฐวุฒิ ไสเกื้อ ไม่ว่าจะพิจารณาจากสถานะ "รุ่นน้อง" หรือ "ลูกศิษย์" ต้องขอเรียนว่า เป็นผู้ที่น่าผิดหวังมากที่สุด ผมกำลังกลับไปทบทวนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ดูว่า ฆ่าลูกศิษย์ตายเนี่ย จะมีรอลงอาญามั้ย? ถ้ากฎหมายเปิดช่อง ไทยรัฐอาจมีพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง (ฮา)

ถ้าได้มีโอกาสพบกัน ก็จะยินดีเช่นกันครับคุณผู้อ่าน ยังติดค้างคุณเรื่องอยากไปฟังบรรยายสด ผมไม่ได้จัดหลักสูตร Public อีกเลยครับ


ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 16/09/2008
ช่วยด้วย ผมสอบตกวิชาฟิสิกส์โดยผมต้องแก้คือการที่ผม ต้องตัดตะเกียบด้วยกระดาษ ใครมีวิธ๊ ส่งคำตอบผ่าน.. m-loso@hotmail.com หรือ 087-823846X
ชื่อผู้ตอบ : คนโง่ในกะลา ตอบเมื่อ : 27/10/2008
ช่วยด้วย ผมสอบตกวิชาฟิสิกส์โดยผมต้องแก้คือการที่ผม ต้องตัดตะเกียบด้วยกระดาษ ใครมีวิธ๊ ส่งคำตอบผ่าน.. m-loso@hotmail.com หรือ 087-823846X
ชื่อผู้ตอบ : คนโง่ในกะลา ตอบเมื่อ : 27/10/2008
แต่เท่าที่รู้นะค่ะ ดิฉันเคยนำกระดาษหนึ่งแนมาพับครึ่ง
แล้วเหวี่ยงตัดไปที่ตรงกลางของตะเกียบที่เพื่อนถืออยู่ มานแตกออกจากกัน เกิดจากกดข้อที่3ของนิวตัน แรงกิริยา เกบแรงปฎิกิริยา
ชื่อผู้ตอบ : อีฟ ตอบเมื่อ : 14/08/2009
ตามที่ดูนะครับ คนอืนก็ทำได้นะครับ เราทำให้จิตเราคิดว่ากระดาษคือ ( มีด ) ที่คม ตัเกียบคือ ( แตง ) ที่อ่อน นะครับเห็นเขาว่างั้นนะ
แต่ผมลองทำไม่ได้อ่า เพราะจิตเราไม่สงบ
ชื่อผู้ตอบ : uboncity ตอบเมื่อ : 15/02/2011
ตามที่ดูนะครับ คนอืนก็ทำได้นะครับ เราทำให้จิตเราคิดว่ากระดาษคือ ( มีด ) ที่คม ตัเกียบคือ ( แตง ) ที่อ่อน นะครับเห็นเขาว่างั้นนะ
แต่ผมลองทำไม่ได้อ่า เพราะจิตเราไม่สงบ
ชื่อผู้ตอบ : uboncity ตอบเมื่อ : 15/02/2011
พาความกล้า หนีหน้าความกลัว
ชื่อผู้ตอบ : ครูกระบี่ ตอบเมื่อ : 21/08/2011


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code