สมาธิภาวนา เจริญพระชนมพรรษา มหาราชันย์

กำหนดการจัดงาน
“สมาธิภาวนา เจริญพระชนมพรรษา มหาราชันย์”
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2554
...ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ (อาคาร บี) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
จัดโดย พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) วัดธรรมมงคล ร่วมกับ สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพลังจิตตานุภาพ และ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด
-----------------------------------------
07.00 น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมลงทะเบียนเพื่อรับหนังสือสวดมนต์พิเศษ
08.30 น. พระสงฆ์ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมกันที่โถงกิจกรรม ชั้น 2
09.00 น. - พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) ประธานกล่าวนำบูชาพระรัตนตรัย
- ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ เครืองาม (กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า) เปิดกรวยและ
จุดเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- นายศิริธัช โรจนพฤกษ์ จุดเทียนบายศรี 9 ชั้น
09.10 น. ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวรายงาน
09.20 น. พระธรรมมงคลญาณ กล่าวสัมโมทนียกถา “อานิสงส์ของการปฏิบัติสมาธิภาวนาและผล
ที่จะพึงเกิดขึ้น” เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
09.55 น. พระธรรมมงคลญาณ นำสวดสาธยาย “พระปริตร”
10.45 น. พระธรรมมงคลญาณ นำนั่งสมาธิ
11.15 น. - ถวายภัตตาหารเพลพระเถรานุเถระ
- ผู้เข้าร่วมกิจกรรม รับประทานอาหารกลางวัน
12.30 น. ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ เครืองาม บรรยายประวัติความเป็นมา ความหมาย และอานิสงส์
ของบทสวดมนต์ “มหาสมัยสูตร ”
13.00 น. พระธรรมมงคลญาณ นำสวดสาธยาย “มหาสมัยสูตร”
14.00 น. พระธรรมมงคลญาณ นำนั่งสมาธิ
15.00 น. ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ บรรยายประวัติความเป็นมาความหมายและอานิสงส์
ของการสวด “รัตนสูตร และ โพชฌังคปริตร”
15.15 น. พระธรรมมงคลญาณ นำสวดสาธยาย “รัตนสูตร และโพชฌังคปริตร”
16.00 น. พระธรรมมงคลญาณ นำนั่งสมาธิ และแผ่เมตตา
17.00 น. ผู้เข้าร่วมงานรับการพรมน้ำมนต์และรับขวดน้ำมนต์ไว้เป็นสิริมงคล
17.30 น. จบกิจกรรม / ผู้เข้าร่วมงานเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
*หมายเหตุ ช่วงเวลา 9.00-10.00 น. จะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง11 และถ่ายทอดเสียงทาง
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและถ่ายทอดสดทาง DDTV และ DTV ตลอดงาน
(แต่งกายชุดขาวสุภาพ)ดูเพิ่มเติมที่เว็บ พลังจิตตานุภาพ



*ห้องประชุมรองรับผู้คนได้ก่วาหมื่นคน*
เป็นการสมาธิภาวนา เจริญพระชนมพรรษา (เป้าหมาย120ปี)มหาราชันย์

ชื่อผู้ส่ง : แฟนพันธ์แท้ ถามเมื่อ : 20/06/2011
 


ผล งานของพระเทพเจติยาจารย์
1. สร้างวัด 11 แห่งในประเทศไทย
2. สร้างวัดไทยในประเทศแคนาดา 6 แห่ง
3. สร้างวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่ง
4. สร้างสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)ที่จังหวัดนครราชสีมา
5. สร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3000 กว่าแห่งทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายที่ 7000 แห่ง
6. สร้างโรงพยาบาลจอมทอง
7. สร้างที่ว่าการอำเภอจอมทอง
8. สถาบันประถมศึกษาจอมทอง
9. สร้างพระมหาเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย วัดธรรมมงคล
10. สร้างพระหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดธรรมมงคล
11. สร้างสถาบันพลังจิตตานุภาพในประเทศไทยและประเทศแคนาดา

สำหรับประเทศไทย ถึงปี พ.ศ. 2547 สามารถผลิตครูได้กว่า5,000 คน และ 5 ปีกว่า สำหรับประเทศแคนนาดา โดยหลวงพ่อได้บินไปสอนเองเป็นภาษาอังกฤษ ผลิตครูที่เป็นชาวต่างชาติล้วน ๆ ในรุ่นแรกมีผู้สนใจเรียนเพียง 24 คน โดย 24 คนที่ได้บอกต่อกันทำให้รุ่นที่สองเพิ่มเป็น 200 กว่าคน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกรุ่น เมื่อนักศึกษาครูสมาธิชาวแคนนาเดี่ยน เรียนจบภาคทฤษฏี หลวงพ่อก็จะพามาธุดงค์ที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ทุกปี ปัจจุบันมีศูนย์สอนครูสมาธิอยู่ 6 แห่งในแคนนาดาคือ ที่ เอ็ตมอนตัน แคลการี แองการา โตรอนโต แวนคูเวอร์ ฟอร์ดแมคเคอรี ซึ่งกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 10 แห่ง

นับว่าหลวงพ่อได้เสียสละเพื่อประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา และส่วนรวมโดยมิได้เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยแม้อายุจะ 90 ปี(พศ. 2552) แล้ว
หากสนใจอ่านประวัติอย่าง ละเอียดของหลวง พ่อ หาอ่านได้ที่วัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101 พระโขนง กทม.

อ่าน: 3954....สงวนลิขสิทธิ์ © ๒๕๔๐-๒๕๕๓​ โดย สถาบันพลังจิตตานุภาพ. สถาบันพลังจิตตานุภาพ วัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 02-311-3903, 02-741-3552 Fax. 02-332-4145.
.
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/06/2011
อนุโมทนา สาธุครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 20/06/2011
พลังของนำ้หยดหนึ่งนั้น น้อยกระจิริด
ส่วนพลังของมหาสมุทรนั้นมีอเนกอนันต์
พลังรักในเชิงปฏิบัติของคนๆหนึ่งอาจมีปริมาณจำกัด
แต่พลังรักของคนเรือนพันเรือนหมื่นนั้น ไร้ขีดจำกัด


ศ.ดร.รัชนี อุดมแสงเพชร


ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 21/06/2011
ขอเชิญร่วมสร้าง Dhamma Nuclear เป็นภูมิคุ้มกันโลก
จากเหตุการณ์ ความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ โรคภัยไข้เจ็บ หวัดใหญ่สายพันธฺใหม่
หรือความแตกแยกของคนในสังคม ซึ่งล้วนแต่ส่งผลกระทบ
ต่อจิตใจ และบั่นทอนความสุขที่เคยมีให้ลดน้อยลง
เกิดปัญหารุมเร้า ก่อให้เกิดความท้อถอย เหนื่อยล้า
สภาพจิตตกต่ำ หาทางออกไม่เจอ จนบางครั้งถึงกับฆ่าตัวตายไปก็มี

ทุกปัญหาแก้ได้ ด้วยสมาธิ!


พระเทพเจติยาจารย์
(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินุธโร)

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 23/06/2011
ทุกปัญหาแก้ได้ ด้วยสมาธิ!


มีทางแก้อื่นที่สรรหาได้(ชั่วคราว) ล้วนเป็นทางแก้ที่เลี่ยงการสะสม

วิริยะบารมี


ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 23/06/2011
สมาธิไม่ใช่เรื่องของศาสนา แต่เป็นเรื่องของคนทั้งโลก

ความหมายของสมาธิ

สมาธิ คือ อาการที่ใจตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว อย่างต่อเนื่อง หรือ อาการที่ใจหยุดนิ่งแน่วแน่ ไม่ซัดส่ายไปมา เป็นอาการที่ใจสงบรวมเป็นหนึ่งแน่วแน่ มีแต่ความบริสุทธิ์ผ่องใส สว่างไสวผุดขึ้นในใจ จนกระทั่งสามารถเห็นความบริสุทธิ์นั้นด้วยใจตนเอง อันจะก่อให้เกิดทั้งกำลังใจ กำลังขวัญ กำลังปัญญา และความสุขแก่ผู้ปฏิบัติในเวลาเดียวกัน


*การทำสมาธิเกี่ยวเนื่องอย่างไรกับการทำธุรกิจ?
อันที่จริงแล้วการทำสมาธินั้นเกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่างในการดำเนินชีวิตของเราเลยครับ เพราะว่าการทำสมาธิจะช่วยในเรื่องของ การตัดสินใจ ได้เป็นอย่างดี

สมาธิ กับ วิทยาศาสตร์การแพทย์
สมาธิช่วยทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้มากขึ้นสามารถรักษาโรคร้ายแรงเรื้อรัง
นักเขียนที่เคยกินยาแก้เครียดมาเกือบจะตลอดชีวิตเมื่อนั่งสมาธิ ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาอีกต่อไป ผู้กำกับการแสดง และดาราภาพยนต์ฮอลลีวู้ด ก็นั่งสมาธิ ทำให้ลดความกดดันจากอาชีพและความเป็นคนดังมีชื่อเสียง และทำให้มีความสุขมากขึ้น รู้ตัวมากขึ้น มองเห็นสิ่งต่างๆ มากขึ้น พัฒนาบุคลิกภาพให้สง่างามและดูมีอำนาจมากขึ้น มองเห็นตัวเองได้มากขึ้น และรู้ว่าควรแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองได้อย่างไร เพียงแต่นั่งเงียบและทำให้จิตใจสงบเท่านั้น


TIME Magazime พาดหัว ไว้อย่าง น่าทึ่งว่า…


นักวิทยาศาสตร์ ก็ศึกษาวิจัย เรื่องสมาธิ
แพทย์ ก็เชียร์ ให้นั่งสมาธิ
ชาวอเมริกัน นับสิบล้านคนก็ นั่งสมาธิทุกวัน
ถามว่า… นั่งกันไปทำไม? ตอบว่า… ก็มันดีน่ะสิ

http://tripteam.exteen.com/20110418/meditation

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 24/06/2011
ท่านอาจารย์ดอกเตอร์เจมส์ ดับเบิลยู. แอนเดอร์ซัน (Dr. James W. Anderson) และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยเคนทัคคี เลคซิงทัน สหรัฐฯ ทำการศึกษาโดยให้กลุ่มตัวอย่างฝึกสมาธิแบบ 'TM' หรือทรานเซนเดนทัล เมดิเทชั่น (trancendental meditation)

วิธีนี้กล่าวกันว่า นำมาเผยแพร่โดยอาจารย์ฤาษีจากอินเดีย ให้บริกรรม "มันตรา (mantra - ภาษาไทย = "มนตร์")" เช่น "อา-อีม" ฯลฯ ไปเรื่อยๆ คราวละ 20 นาที ทำอย่างนี้วันละ 2 ครั้ง

...

ผลการศึกษาพบว่า การฝึกสมาธิเป็นประจำทุกวันมีส่วนช่วยลดความดันเลือดได้แก่

•ลดความดันเลือดตัวบน หรือความดันในช่วงที่หัวใจหดตัว (systolic blood pressure) ได้ 4.7 หน่วย
•ลดความดันเลือดตัวล่าง หรือความดันในช่วงที่หัวใจคลายตัว (diastolic blood pressure) ได้ 3.2 หน่วย
...

อาจารย์แอนเดอร์ซันสรุปไว้ว่า การลดความดันเลือดจากการฝึกสมาธิทุกวันช่วยลดอัตราตาย (โอกาสตาย) จากโรคดังตาราง

...


อัตราตาย (โอกาสตาย) จากโรค ลดลงร้อยละ
หัวใจ+ระบบไหลเวียนเลือด (cardiovascular) 12-15%
เส้นเลือดสมองแตก-ตีบตัน (stroke) 15-20%


...

กลไกในการลดความดันเลือดจากสมาธิมีหลายอย่าง ทว่า... กลไกอย่างหนึ่งที่อาจารย์แอนเดอร์ซันกล่าวไว้คือ ชีวิตคนเรามักจะหมกมุ่นกับเรื่องเครียดๆ ซ้ำซากคล้ายๆ กับการ "พายเรือในอ่าง"

ยิ่งคิดยิ่งวน ยิ่งวนยิ่งคิด... เรื่องเล็กเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ เปรียบคล้ายพายุหมุนน้อยๆ ที่โตขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นพายุทอร์นาโด

...

ทีนี้เมื่อเราหันมาฝึกสมาธิทุกวัน... การได้ใส่ใจ จดจ่ออยู่กับสมาธิช่วย "หยุด" กระบวนการคิดแบบ "พายเรือในอ่าง"

เมื่อหยุดพายเรือ หรือหยุดหมกมุ่นกับเรื่องเครียดๆ... จิตใจคนเราจะมีโอกาสได้พักผ่อนบ้าง เจ้าพายุทอร์นาโดเลยหมดเรี่ยวหมดแรง กลายเป็นพายุหมุนขนาดเล็ก และแผ่วเบาลงไปเรื่อยๆ

...

ความเครียดที่ดูเหมือนจะมากมายได้มีโอกาสลดลงบ้าง ความดันเลือดและความดันทุรังที่มีอยู่เลยอ่อนแรงลง

เรียนเสนอให้พวกเราหันมาฝึกสมาธิ เพื่อป้องกันหรือเสริมการรักษาโรคความดันเลือดสูงกัน

...

ฝึกสมาธิกันแล้ว อย่าลืมหัดมองโลกในแง่ดีกันบ้าง ซึ่งเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการหัดแสดงความชื่นชมคนอื่น โดยเฉพาะคนรอบข้างให้ได้อย่างน้อยวันละครั้ง จะชมเป็นคำพูด หรือจะเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้

ทว่า... ถ้าเขียนแล้ว อย่าเก็บไว้คนเดียว หรือขยำกระดาษทิ้ง ให้บอกคนที่ถูกชมให้รับรู้ความปรารถนาดีจากเราด้วย

...

การฝึกสมาธิช่วยลดความดันเลือด ส่วนการฝึกแสดงความชื่นชมคนอื่นช่วยลดความดันทุรัง

ความดัน 2 อย่างนี้ทำลายโลกได้มากพอๆ กันเลย ต่างกันที่ความดันเลือดทำลายคนได้คราวละ 1 คน ส่วนความดันทุรังนั้นทำลายคนได้คราวละหลายคน ถ้าลดได้ทั้งสองอย่างจะช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้น และช่วยลดวิกฤต "โลกร้อน" ได้มาก

...

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

http://www.gotoknow.org/blog/health2you/178466
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 26/06/2011
ความดันเลือดทำลายคนได้คราวละ 1 คน
ส่วนความดันทุรังนั้นทำลายคนได้คราวละหลายคน
ถ้าลดได้ทั้งสองอย่างจะช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้น
และช่วยลดวิกฤต "โลกร้อน" ได้มาก

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 01/07/2011
เมื่อจิตมีพลังมากพอ
จิตก็จะมีเมตตาปราถนาดีต่อกัน
จะช่วยกันสร้าง สันติภาพสันติสุขให้โลกได้


พระเทพเจติยาจารย์
(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินุธโร)
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 10/07/2011
อยู่ในบรรยากาศของการสวดมนต์-ภาวนา

รู้สึกได้ว่า ทุกอย่างนั้น เป็นเรื่องดีดี ได้หมด

ไม่ว่าใคร จะเป็นรัฐบาล โลก กำลังจะพลิก-หงาย-ตะแคงคว่ำ

ขอนำ บทอฐิษฐานจิตพิเศษ มาฝากกัน(ในวันนั้น)

.....ขอกุศลผลบุญอันนี้ จงสำเร็จขึ้นแด่ พระสยามเทวาธิราช

เทพยดาผู้รักษาชาติไทย ให้มีความสุข
สงบ
สันติ
มีความสามัคคีกัน

ตลอดกาลนิรันดร์เทอญ!

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 12/07/2011


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code