ศิลปะแห่งอำนาจ
การกระทำของเธอหรือสิ่งที่เธอทำนั้น
ขึ้นอยู่กับว่าเธอเป็นคนเช่นไร
คุณภาพของสิ่งที่เธอทำ
ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสิ่งที่เธอเป็น
สมมุติว่าเธอต้องการให้ความสุขกับใครสักคน
เธอกระตือรือร้นที่จะทำให้คน ๆ นั้นมีความสุข นี่เป็นความคิดที่ดี
แต่ถ้าตัวเธอไม่มีความสุข เธอย่อมไม่อาจทำเช่นนั้นได้
การทำให้ใครสักคนมีความสุข เธอจำเป็นต้องมีความสุขเองเสียก่อน
การกระทำและการเป็นนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันอยู่
ถ้าเธอเป็นไม่ได้ เธอย่อมทำไม่สำเร็จ

ศิลปะแห่งอำนาจ
(ติช นัท ฮันห์)
ชื่อผู้ส่ง : tik ถามเมื่อ : 16/12/2010
 


ความสุขเกิดขึ้นได้เมื่อเราตระหนักรู้ว่าเรามีหนทาง
เมื่อเรารู้ว่าเรากำลังไปที่ใด
หากเธอไม่รู้สึกว่าเธอกำลังอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง
หากเธอไม่รู้ว่ากำลังเดินทางไปที่ไหน
เธอจะเป็นทุกข์ หลงทางและสับสนใจ
ความสุขคือความรู้สึกว่าในทุกขณะเธอกำลังอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง
เธอไม่จำเป็นต้องไปถึงจุดหมายปลายทาง เพื่อจะมีความสุข
เธอมีความสุขได้ ณ ที่นี่ ในขณะนี้


การอยู่บน “หนทางที่ถูกต้อง” คือการใช้ชีวิตในทุกขณะอย่างมั่นคง
การใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีสติในทุกขณะนั้นเป็นไปได้เสมอ
สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอ และผู้คนรอบตัวมีความสุข
ถึงแม้ว่าเธอยังไม่ได้ “ลงมือทำ” อะไรให้พวกเขามีความสุข
เพียงเธอเดินอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง และความสุขที่ได้ทำเช่นนั้น
เธอจะเป็นคนที่น่าคบหา เป็นคนสดชื่อ มีความกรุณา
ผู้คนต่างได้รับประโยชน์จากการอยู่ใกล้ๆ เธอ
ลองมองที่ต้นไม้ในสนามหน้าบ้านสิ
ดูเหมือนต้นไม้จะไม่ได้ทำอะไรเลย
ต้นไมเพียงยืนหยัดอยู่ตรงนั้นอย่างแข็งแรง สดชื่น และสวยงาม
เพียงเท่านั้นทุกคนก็ได้ประโยชน์จากมันแล้ว
นั่นคือความมหัศจรรย์ของการเป็นอยู่ตรงนั้น
ถ้าต้นไม้เป็นน้อยกว่าต้นไม้ เราทุกคนคงเดือดร้อน
หากต้นไม้สามารถเป็นต้นไม้ที่แท้จริงได้
ที่นั่นย่อมมีความหวัง มีความเบิกบาน


เมื่อใดที่เธอสามารถเป็นตัวเองได้อย่างแท้จริง
ความรักได้เกิดขึ้นแล้ว การกระทำได้เกิดขึ้นแล้ว
การกระทำนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่กระทำ
และการไม่กระทำคือการฝึกฝนที่จะเป็น…


…ความสุขคือการรับรู้ว่าเรากำลังช่วยเหลือ
และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
เมื่อเธออยู่บนวิถีทางอันถูกต้อง
และเธอเบิกบานกับทุกย่างก้าวบนวิถีทางของเธอ
เธอก็เป็นเธออย่างแท้จริงแล้ว
เธอไม่จำเป็นต้องพยายามเป็นคนอื่น
เธอเป็นคนที่เธอต้องการเป็นอยู่แล้ว ด้วยการฝึกไม่กระทำ
นี่คือศิลปะของการเป็นอย่างแท้จริง

ศิลปะแห่งอำนาจ
(ติช นัท ฮันห์)
ชื่อผู้ตอบ : tik ตอบเมื่อ : 16/12/2010
ขอบคุณค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 17/12/2010
ชอบเล่มนี้เหมือนกันครับ
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ตอบเมื่อ : 17/12/2010
คุณ tik ครับ ขอบอกว่าที่คัดมาเนื้อๆ ทั้งนั้นเลย
โดนเลยครับ .. ขอบคุณครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 17/12/2010
ความสุขคือความรู้สึกว่าในทุกขณะเธอกำลังอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง
เธอไม่จำเป็นต้องไปถึงจุดหมายปลายทาง เพื่อจะมีความสุข
เธอมีความสุขได้ ณ ที่นี่ ในขณะนี้

ความสุขคือการรับรู้ว่าเรากำลังช่วยเหลือ
และเป็นประโยชน์ต่อสังคม


เธอไม่จำเป็นต้องพยายามเป็นคนอื่น
เธอเป็นคนที่เธอต้องการเป็นอยู่แล้ว ด้วยการฝึกไม่กระทำ
นี่คือศิลปะของการเป็นอย่างแท้จริง


.................ชอบอันนี้ที่สุด!

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/12/2010
ผมก็ชอบข้อความที่คุณแฟนพันธุ์แท้ชอบครับ แบบว่าโดนใจมาก
ความเห็นส่วนตัวของผม ผมว่า การ “เป็น” นี่สำคัญมากจริง ๆ เหมือนในกระทู้ สนทนากับพระเจ้า 3 เลยขออนุญาตคัดลอกมา (ส่วนหนึ่ง)

สนทนากับพระเจ้า 3

การมี” ไม่ได้ก่อให้เกิด “การเป็น” แต่อย่างใดเลย แต่เป็นอย่างอื่นต่างหาก
ตอนแรกเธอต้อง “เป็น” สิ่งที่เรียกว่า “ความสุข” (หรือ “ความรู้” หรือ “ความเฉลียวฉลาด” หรือ “ความเห็นอกเห็นใจ”
หรืออะไรก็ตามแต่) ก่อน จากนั้นเธอจึงจะ “ทำ” สิ่งนั้นๆจากความเป็นนั้นๆของเธอ
แล้วในไม่ช้าเธอจะพบว่าสิ่งที่เธอกำลังกระทำอยู่นั้น จะเหนี่ยวนำเอาสิ่งที่เธอต้องการจะ “มี” นั้นๆมาสู่เธอ
วิธีที่จะขับเคลื่อนขบวนการสรรค์สร้างนี้ (จริงๆแล้วมันก็คือ “ขบวนการแห่งการสร้างสรรค์”) ก็คือการมองหาสิ่งที่เธอต้องการจะ “มี”
แล้วถามตัวเองว่า เธอน่าจะ “เป็น” อย่างไรถ้าเธอ “มี” สิ่งนั้นๆแล้ว จากนั้นเธอก็เดินหน้าเพื่อให้ ”เป็น” สิ่งนั้นๆ
แต่ด้วยความเข้าใจผิด เธอจึงได้กระทำสวนทิศทางของกระบวนการแห่งการสร้างสรรค์ของเอกภพ “เป็น – ทำ – มี”
ที่แท้จริงนี้มาโดยตลอด แล้วเธอก็ได้กำหนดให้มันเป็นทิศทางที่ถูกต้องสำหรับเธอไปแล้ว และก็ใช้งานมันในทิศทางนี้มาตลอด
คำอธิบายหลักการของกระบวนการนี้อย่างสั้นๆ ก็คือ
ในชีวิตเธอ เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย

ทำประหนึ่งว่าเธอเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วเธอจะได้มันมา อะไรที่เธอแสดงออกมาประหนึ่งว่าเธอเป็นเช่นนั้นจริงๆ เธอก็จะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ชื่อผู้ตอบ : tik ตอบเมื่อ : 20/12/2010
ขอขีดเส้นใต้ (สภาวะแห่ง) "การเป็น" ด้วยคนครับ

เป็น "ความสุข" เป็น "ความว่าง" เป็น "ความรัก" เป็น "ความรู้" เป็น ... ฯลฯ
เมื่อเรา "เป็น" สิ่งใด (สภาวะใด) ก็ตามอย่างแท้จริง ตัวตนของเราย่อมหายไป

ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 20/12/2010
แต่ละขณะสมบูรณ์และเปี่ยมเต็มในตัวเองอย่างที่เป็นอยู่แล้ว การเห็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในแต่ละขณะ เราจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปได้ ในตอนนี้ ขณะเวลาของเธอเป็นอย่างไร มีความสุข กังวลใจ สบายใจ หรือท้อใจ แม้อารมณ์ของเราแปรปรวนขึ้นลง แต่ทุกขณะก็ยังเป็นไปอย่างที่แต่ละขณะเป็นเท่านั้น การปฏิบัติของเรา ความปรารถนาของเราคือ การอยู่กับปัจจุบันขณะและยอมให้ทุกอย่างเป็นไป ถ้าเธอกลัว ก็จงเป็นความกลัว และเมื่อนั้นเองเธอจะหายกลัว

ชาร์ลอตต์ โจโกะ เบค
จากหนังสือ “ง่าย ๆ สไตล์เซน” หน้า 186

ชื่อผู้ตอบ : tik ตอบเมื่อ : 24/12/2010
แค่รับรู้ความรู้สึก ความเป็นไปเหล่านั้น ด้วยความว่าง(เปล่า)จากความคิด
ระแวดระวัง .. อย่ายอมให้ความคิดที่สมองกระทำการต่อสิ่งที่รับรู้นั้น
อาการแปรปรวนต่างๆ ก็จะไม่เกิด หรือหากกำลังเกิดอยู่ก็จะค่อยๆ สงบหายไป
ความสมบูรณ์และเต็มเปี่ยมในตัวเองก็จะกลับมาอีกครั้ง
เพราะเรากลับมา เป็นหนึ่งเดียวกับความว่าง ที่การแบ่งแยกเป็นตัวเป็นตนของเราได้ยุติลง
และถ้าเราดำรงความสงบอยู่ถายในได้เพียงพอ
เราจะเกิดความรู้ชนิดใหม่ ที่ต่างจากความคิดด้วยสมอง
นั่นคือ ธาตุรู้หรือปัญญาได้เข้ามากระทำการแทน

. . .

ขอเสริมความเห็น จากข้อความดีๆ ของของคุณ tik ข้างบน
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 25/12/2010
"เพราะเรากลับมา เป็นหนึ่งเดียวกับความว่าง ที่การแบ่งแยกเป็นตัวเป็นตนของเราได้ยุติลง
และถ้าเราดำรงความสงบอยู่ถายในได้เพียงพอ
เราจะเกิดความรู้ชนิดใหม่ ที่ต่างจากความคิดด้วยสมอง
นั่นคือ ธาตุรู้หรือปัญญาได้เข้ามากระทำการแทน"

ขอบอกว่า "โดน" มาก ๆ เลย

ขอบคุณคุณนันท์ครับ


ชื่อผู้ตอบ : tik ตอบเมื่อ : 25/12/2010
ธาตุรู้หรือปัญญา

ธาตุรู้....หากให้ความหมายว่า เป็นการแปลความ/การสื่อสารของตัวเรา
กับความจริงของสิ่งแวดล้อมภายนอก ข้อมูลจากทุกศาสตร์ช่างเชื่อมโยงกันหมด

วันนี้ได้ข้อมูลเพิ่มจากกัลยาณมิตรผู้ชักชวนให้เรียนรู้"กายการุณา"
(ซึ่งก็ยังไม่สามารถหาเวลาเข้าร่วมได้)ว่า
การสื่อสารของคนเรานั้นใช้ภาษาพูดได้ผลเพียง 7%
ที่เหลือเป็นการสื่อสารออกมาจากภายใน93%

ทำให้เชื่อมโยงไปถึงทฤษฎีหรือผลการวิจัยว่าด้วยองค์ประกอบที่
ทำให้สินค้าขายได้ คงไม่เป็นเรื่องบังเอิญ......ที่ตรงกันได้
ขออนุญาตนำมาลงอีกครั้งค่ะ

ขายได้เพราะบทเจรจาการขาย 7%
ขายได้เพราะบุคลิคภาพและน้ำเสียง38%
ขายได้เพราะความเชื่อว่าสินค้าดีและเป็นประโยชน์กะผู้ซื้อ55%

บุคลิคภาพและน้ำเสียง รวมทั้งความเชื่อ
เป็นเรื่องราวที่ออกมาจากภายใน

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 25/12/2010
...การกระทำและการเป็นนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันอยู่ ....

....การกระทำนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่กระทำ
และการไม่กระทำคือการฝึกฝนที่จะเป็น…

จริงๆแล้วก็มีเหตุการณ์ที่แฟนพันธ์แท้ได้"สังเกตุเห็น"
การเชื่อมโยง....ที่ดูภายนอกเป็น
...การกระทำที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่กระทำ...
ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่แห่งนี้(หนังสือ 7กฏฯ)
ซึ่งคนที่เค้าเกี่ยวข้องโดยตรง เค้าอาจมองเป็นเรื่องธรรมดา
(หรืออาจมองยังไม่เห็น อิอิอิ)
ไว้เหตุการณ์สิ้นสุด ซึ่งไม่เกินเดือน มีนาคม 2554
คงมาเขียนเล่าทั้งหมดได้


เจตนาของการเขียนเล่าก็คือ
การที่เรามา(หรือมองหา) แนวทาง"กฏแห่งการพยายามให้น้อย"นั้น
มีตัวอย่างให้เห็นจริงๆ ในภาคสนาม
และสำคัญ
ใช้คำว่า


มาถูกทางแล้ว!
ได้ชัวร์!
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 08/01/2011
จงมีชีวิตอยู่ในพื้นที่ของพระเจ้า แล้วเหตุการณ์ต่างๆจะเป็นดังพร
ได้เวลาแล้วที่เธอจะกลับสู่พื้นที่ของพระเจ้ามากกว่าที่เคย
มันจะนำความสงบสุขยิ่งใหญ่สู่จิตใจเธอ
จากจิตใจที่สงบนั้น ความคิดดีดีจะพรั่งพรู

สนทนากับพระเจ้า1
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 09/01/2011
การอยู่บน “หนทางที่ถูกต้อง” คือการใช้ชีวิตในทุกขณะอย่างมั่นคง
การใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีสติในทุกขณะนั้นเป็นไปได้เสมอ
สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอ และผู้คนรอบตัวมีความสุข
ถึงแม้ว่าเธอยังไม่ได้ “ลงมือทำ” อะไรให้พวกเขามีความสุข
เพียงเธอเดินอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง และความสุขที่ได้ทำเช่นนั้น
เธอจะเป็นคนที่น่าคบหา เป็นคนสดชื่อ มีความกรุณา
ผู้คนต่างได้รับประโยชน์จากการอยู่ใกล้ๆ เธอ


.....................
ช่วงนี้มีแต่ ภาพของบุคคล+สิ่งแวดล้อม
ที่เรียกได้ว่าเป็น หนังสด ฉายให้ดูเป็นประจำ

ขอบคุณจักรวาล

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 10/01/2011
หนังสดเลยเหรอ
อย่าลืม เส้นกับลูกชิ้นด้วยล่ะ .. ฮา
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 11/01/2011


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code