ติดต่อคุณแฟนพันธ์ุแท้ครับ
คุณแฟนพันธ์ุแท้ครับ มีเรื่องสอบถามครับ
ติดต่อที่mail nuttalin@yahoo.com หน่อยครับ
ชื่อผู้ส่ง : nut ถามเมื่อ : 06/10/2010
 


สอบถามกันที่ตรงนี้ก็ได้นะคุณน้อง
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 06/10/2010
คำถามคุณ nut จะขอตอบที่นี้นะคะ
เพื่อเป็นการยืนยันว่า ผลดีของการสวดมนต์น่ะ
พูดในที่สาธารณะได้น่ะค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 07/10/2010
บทสวดมหาจักรพรรดิ์ เขียน(หรือฟื้นฟู..อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ)
โดยหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ถูกต้องแล้วค่ะ
ประสบการณ์การสวดบทนี้......ก้อแบบที่เขียนไว้ในกระทู้ พลานุภาพ
ของบทสวดมหาจักรพรรดิ์ นั่นเลยค่ะ....ลองกลับไปอ่านดู

มีผู้รู้บอกไว้ว่าผู้คนที่สวดมนต์แล้วมีเรื่องหวือหวา...พวกนี้ฤาษ๊เก่าค่ะ
ก็ถ้ามันจะเกิดหวือหวาอิทฤทธิ์(มันก็ไม่ได้ผิดอะไรง่ะ......เพียงแต่ว่าพูดไป/เขียนไป...อาจเจอแรงต้านเอาได้จากคนที่เค้า..ไม่มีวันเข้าใจ)

บทสวดแต่ละบทเค้าคงมีคลื่นส่ง(ทางจิตวิญญาณ)แตกต่างกันไป
แต่ส่วนใหญ่ไม่ว่าของศาสนาไหนจะคล้ายกันคือ

....มันเป็นการสนทนากับพระเจ้าค่ะ.!

แม้ว่าจะไม่ได้สนทนาแบบเป็นเรื่องเป็นราว กับเทพองค์ใหญ่ เหมือน
นีล โดนัลด์ วอลซ์ ที่เขียนออกมาเป็นหลักคำสอนเป็นเล่มๆ

อาจเป็นการสนทนาสั้นๆ, เป็นวลี , เป็นคำตอบ,เป็นคำถาม ผ่านคน
แปลกหน้า ในช่วงเวลาสำคัญๆหรือฉุกเฉิน ในยามที่ตัวเราต้องการ
คำตอบ หรือถ้าเป็นคำถามแปลกๆ จากคนแปลกหน้าเพราะเค้าต้องการ
ให้เราทบทวนการตัดสินใจ(ที่อาจผิดพลาดไป)

หากคุณ nut อยากลองสังเกตุว่าสวดแล้ว..ตัวเราสามารถเชื่อมโยงกับ
สิ่งที่มองไม่เห็น.....ได้หรือไม่
เวทีทดสอบที่ง่ายและน่าตื่นเต้นคือ สถานที่ ที่ไม่มีใครรู้จักเรา
รวมทั้งที่ ที่เราไม่รู้จักใครๆ เช่น ตามสถานที่สาธารณะ(สถานีรถไฟฟ้า,
ในเรือข้ามฟาก,ที่รอผู้โดยสารสนามบิน,และถ้าเป็นต่างแดนที่มีผู้คน
ต่างชาติต่างภาษาอันนี้ก้อจะชัดมากๆๆ)

ในสถานที่ดังกล่าว จะมีคนแปลกหน้ามาใส่ใจ หยิบยื่นความช่วยเหลือ
แบบประหลาดๆ จนเรางง..ถึงงงมากๆๆๆๆๆ
ถ้าคุณ nut อ่าน "รวยซะให้เข็ด" ก็จะเป็นบทที่คุณแซนดี้ ฟอสเตอร์เขียน

เดี๋ยวก็เห็น..เดี๋ยวก็ไม่เห็น

นั่นแหล่ะค่ะ!

ใช่เลย!

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 08/10/2010
. . ก็ถ้ามันจะเกิดหวือหวาอิทฤทธิ์(มันก็ไม่ได้ผิดอะไรง่ะ......เพียงแต่ว่าพูดไป/เขียนไป...อาจเจอแรงต้านเอาได้จากคนที่เค้า..ไม่มีวันเข้าใจ) . .

ขอแสดงความเห็นด้วยครับว่า ไม่ผิดอะไรง่ะ .. รวมทั้ง อาจเจอแรงต้านเอาได้จากคนที่เค้า ..ไม่มีวันเข้าใจ

แต่บางทีอาจไม่ใช่แรงต้าน แต่เป็นแรงเตือน จากคนที่เข้าใจ . .
ว่าให้ระวัง จะหลงไปยึดไปติด ต่อคำ หรือผลของคำว่า อิทธิฤทธิ์ จากกรรมวิธีใดๆ ก็ตาม ที่เป็นแค่เครื่องมือเบื้องต้น จนลืมเป้าหมายที่แท้จริง ในการปฏิบัติกรรมวิธีนั้นๆ ครับ

ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 08/10/2010
ก็อาจมีได้ทั้ง 2 ช่องทาง ทั้งแรงเตือน..และแรงต้าน(ที่แอบอ้างว่าเป็นการเตือน)

คลื่นความถี่ หรือพลังงานที่กำกับมานั้น....มันต่างกัน
ถ้าจะขอ อวดอุตริก็ต้องบอกว่า
คลื่นรับ-คลื่นส่ง ที่สงบ พอประมาณ

เค้าจะแยกแยะ...กันได้น่ะ!


ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 08/10/2010
"..เมื่อจิตใจในขณะแห่งความดับนั้น
ไม่อ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง ไม่หวาดระแวง ไม่สะดุ้ง
. . . . . . .

โลกบริสุทธิ์ ในขณะเช่นนี้ . .
ความชั่วไม่มีอยู่ ความดีนั้นไม่เผาผลาญ"

ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 08/10/2010
สถานการณ์เริ่มต้นในกระทู้นี้ เข้าใจว่า
ยังหวาดระแวง และยังสะดุ้ง...อยู่

ไม่ยังงั้นคงจะไม่เลี่ยงสอบถามในช่อง....ส่วนตัวน่ะ!

อิอิ

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 08/10/2010
ในมุมมองส่วนตัว หากเป็นเรื่อง .... จะหลงไปยึดไปติด
แฟนพันธ์แท้กลับมองว่า ช่วงเวลาที่ข่าวสาร และความช่วยเหลือที่
....ผ่านใครบางคนมาแบบชั่วคราว(ช่วงเวลาล้ำค่า..แต่ว่าไม่ยั่งยืน) ใน
สถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นกลับกลายเป็นบทเรียนว่า นี่คือเหตุการณ์
พิเศษ...ยึดติดไม่ได้(หมายถึงตัว ผู้ส่งข่าวสาร)


หมายถึงยึดที่ตัวบุคคลไม่ได้
เคยสงสัยตัวเองว่าเจอเหตุการณ์ประมาณนี้...จะลืมขอบคุณทุกทีเลย
ทำไมไม่ขอบคุณ(หลายครั้งหลายครา) ,ทำไมไม่ขอเบอร์โทรฯ
เผื่อวันข้างหน้าจะได้ตอบแทนน้ำใจไมตรีที่มีให้
ทำไมเบลอๆ..และเอ๋อๆๆ ยังงี้นะ

คำตอบก็คือ

ก็เพราะความเป็นจริง กับ....การรับรู้ทางโลกที่มองเห็นได้ด้วยตา

มันคนละเรื่องกันนะสิ!




ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 08/10/2010


"คุณต้องเข้ามาอยู่ในวิถีและมณฑลแห่งพลังให้ได้เสียก่อน ธรรมะจัด
สรร หรือ synchronicity ก็จะเกิดขึ้นเอง"
แต่จากประสบการณ์ผม(ข้อความของคุณอัฐพงศ์) พบว่า แม้เราจะไม่
ได้อยู่ใน "วิถีและมณฑลแห่งพลัง" อะไร เแต่ภาวะ synchronicity นี้
เกิดขึ้นเป็นปกติในชีวิตของเราอยู่แล้ว เพราะมันเป็นวิธีปกติที่จักรวาล
จะช่วยเหลือ ชี้ทาง และนำทางเรา ถือเป็น Ordinary Magic เพียงแต่
หลายครั้งเราไม่ทันสังเกต มองไม่ออก (หรือไม่ได้สนใจให้ความ
สำคัญ) เวลาที่มันผุดขึ้นในชีวิต


แต่การ "อยู่ในวิถีและมณฑลแห่งพลัง" จะช่วยเรื่อง synchronicity ได้ในแง่ที่ว่า มันช่วยปรับจูนเครื่องรับสัญญาณ (ตัวเรา) ให้รับข้อความที่ถูกส่งมาได้ดีขึ้น (ให้ปัญญาวิจารณญาณในการแยกแยะและอ่านสัญญาณ / ลดการอุดตันของท่อรับส่งสัญญาณ / ให้พลังชีวิต ฯลฯ) มันไม่เชิงเป็นการเพิ่ม "จำนวน" ของ synchronicity แต่จะเป็นลักษณะของการช่วยลดอุปสรรคในการรับ synchronicity ให้น้อยลง มากกว่า

ผมคิดว่าองค์ประกอบสำคัญอีกอย่างตรงนี้คือ ที่สุดแล้วให้เราวางใจใน
กระบวนการของชีวิต วางใจมากพอที่จะละวางตัวตนอันจำกัด (และเป้า
หมายที่ขับเคลื่อนออกมาจากระดับนี้) ของเรา เพื่อให้ "ฟ้า" เป็นผู้นำ
ทาง เป็นภาวะของการ surrender อีกรูปแบบหนึ่ง

จุดหมายสูงสุดของเรื่องราวตรงนี้ อาจเป็นเรื่องของการเข้าสู่
"การเดินทางอย่างปราศจากจุดหมาย"


..............วางใจมากพอที่จะละวางตัวตนอันจำกัด .......

....การ อยู่ในวิถีและมณฑลแห่งพลัง จะช่วยเรื่อง synchronicity ได้
ในแง่ที่ว่า มันช่วยปรับจูนเครื่องรับสัญญาณ (ตัวเรา) ให้รับข้อความที่
ถูกส่งมาได้ดีขึ้น ...แยกแยะและอ่านสัญญาณ ลดการอุดตันของท่อ
รับส่งสัญญาณ .....

ข้อความที่คัดลอกมาจากกระทู้เก่าๆ
น่าจะเสริมความเข้าใจที่คุณ nut กำลังหาๆ อยู่น่ะ


ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 10/10/2010
คัดมาจากกระทู้ไหน ? .. มีด้วยเหรอ ผมจำไม่ได้เลยว่าเคยอ่านมาก่อน

แต่ขอบอกว่ามันชัดเจนแจ่มแจ๋วดีแท้ครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 11/10/2010
คัดมาจากกระทู้.....มณฑลแห่งพลัง.....ของคุณนิกค่ะ
โพสไว้เมื่อ 25เมษา 2552

หากเราเฝ้าดู(อย่างละเอียดถี่ถ้วน) และเลือกทบทวนในแต่ละครั้งของ
การบอกสัญญาณเพื่อการเกิด synchronicity

เพื่อลดการอุดตันของท่อรับส่งสัญญาณ .....ในครั้งใหม่
เพื่อให้เข้าถึง Ordinary Magic
เราคงจะได้เขียนบทใหม่เพิ่มจากคุณ แซนดี้ ฟรอสเตอร์

ว่า

เดี๋ยวก็เห็น...เดี๋ยวก็เห็นอีก!.....และเดี๋ยวก็เห็นอีกแล้ว!

การทบทวนเพื่อลดท่ออุดตันของท่อรับส่งสัญญาณ โดยหยิบเอา
เหตุการณ์เดิมๆ มาพิจารณา..ทีละมุมเพื่อการนี้

มันไม่ใช่อาการยึดติดวิธีการ.....หรือติกแงกแบบไปไหนไม่ได้
แต่เป็นไปเพื่อ "พัฒนา" การเปิดรับสัญญาณค่ะ


ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 11/10/2010
ผมเข้าใจว่า ตอนนี้มีพระที่สืบทอดคำสั่งสอนของ หลวงปู่ดู่
และเผยแพร่ บทสวดนี้ไว้ คือท่าน หลวงตาม้า
หลวงตาม้าท่านเป็นศิษย์ หลวงปู่ดู่ มาหลายๆปี จนมาตอนหลัง
หลวงตาม้าจึงบวช ....สามารถหารายละเอียดของหลวงตาม้าได้จาก google ครับ

หลวงตาม้า ท่านทำพระแจก ซึ่งพระของท่าน ทำตามตำหรับเดียวกับ
หลวงปู่ดู่ ซึ่งตามคำพูดของหลวงปู่ที่บอกว่า พระของหลวงปู่ดู สามารถใช้กำ ในการนั่งสมาธิจะช่วยให้นั่งสมาธิได้ ดีขึ้น

พระองค์นี้ท่านแจกฟรีครับ ลงชื่อรับได้ที่เว็บของ หลวงตาม้าได้เลย
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 21/10/2010
อย่างที่คุณผู้อ่านบอกครับ คุณแฟนพันธ์แท้ และท่านอื่นๆ
ถ้าสนใจขอจากหลวงตาม้า
ให้รับนอกจากพระแล้ว ให้ขอหนังสือใครจะใหญ่เกินกรรม ในนั้นจะมีบอกรายละเอียดการสวด การใช้ และให้ขอลูกแก้ว ด้วยนะครับ การใช้งานลูกแก้วจักรพรรดิ์ มีในหนังสือครับ เป็นลูกแก้วธรรมดาแบบที่เด็กเล่นกันแหละครับ แต่ผ่านพิธีมาแล้ว ที่ต้องการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับคุณแฟนพันธ์แท้ เพราะตอนแรกไม่แน่ใจ เห็นไม่เกีั่ยวกับเวปครับ
ชื่อผู้ตอบ : nut ตอบเมื่อ : 21/10/2010
ได้รับทั้งหนังสือ และพระ(พร้อมสร้อยร้อยด้วยลูกปัดสีสวย)
จากมือของหลวงตาม้าเลยค่ะ ที่ถ้ำเชียงดาว...เมื่อปีที่แล้ว

คุณผู้อ่านมีบทสวดนี้ด้วยเหรอคะ??
หากดูบทอธิษฐานให้ดี....จะเหมือนการ โปรแกรมจิต ในหนังสือที่คุณ
อรทัย เทพวิจิตร รวบรวมตำราจากทางตะวันตก(ฝึกจิตฝึกสมาธิ เพื่อ
ความสำเร็จ...ที่เคยส่งให้ไป)

ประสบการณ์ความหวือหวา....ของผู้คนอื่นๆที่ใช้บท อธิษฐานจิตก็มี
มากมายนะคะ(ตามที่ขอให้เล่าทางเมล)

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 25/10/2010
เพิ่มเติมสำหรับคุณ nut ค่ะ
มีโอกาสได้อ่าน "มณฑลแห่งพลัง" ของคุณวิศิษฐ์ วังวิญญู
เพื่อทำความเข้าใจ ข้อความที่คุณอัฐพงศ์เขียนไว้ข้างต้น

เข้าใจว่ายังงี้(ผิดถูกอย่างไร..ขออภัย) คนที่เค้าเข้าถึงOrdinary Magic
คือคนที่ผ่านการฝึกสติ ในระดับที่คนเค้าเรียก วิปัสสนา
ส่วนการส่วดมนต์ เป็นการฝึกในระดับสมถะ รับรู้ Magic แบบชั่วครั้งชั่วคราว

ยังไงก็ตามได้ยินอยู่บ่อยๆ(จากผู้รู้)ว่า การฝึกสมถ(จะช่องทางไหนก็ตาม)
ให้เข้มแข็งก่อน ที่จะเลื่อนฝึก วิปัสสนา เป็นเรื่องจำเป็น และสำคัญ


ก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราวนี่.....มันก็น่าตื่นเต้นแล้วเนาะ
ผู้คนหรือ กลุ่มคนที่เรียกว่า "มีบุญสัมพันธ์" กะเรา เค้าจะ

ปรากฏตัว!

กิจกรรม หรือ กิจการใด ที่เราไปยุ่งด้วย เค้ายินดีที่จะช่วยเหลือ
และสนับสนุน....แบบไร้เงื่อนไข
ต่อให้เค้าไม่มีความจำเป็นใดๆ ในบริการหรือสินค้ารดังว่า
และที่แย่กว่าคือ ก่อนหน้านี้เคยต่อต้าน หรือถึงกับ รังเกียจเดียจฉันท์
ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ถ้ากลุ่มเหล่านี้เรามี


มีบุญสัมพันธ์

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 31/10/2010
เสียงมีอานุภาพ!

ในทางทฤษฎีแล้ว คลื่นความคิดและมิติด้านจิตวิญญาณที่เราไม่รู้จัก
อยู่ในช่วงคลื่นที่สูงกว่าที่จะสามารถคำนวณออกมาได้ด้วบความรู้
ในขณะนี้

เสียง(สวดมนต์) เป็นคลื่นสั่นสะเทือนเพียงอย่างเดียวที่เราสามารถ
เปล่งออก และเปลี่ยนแปลงมันได้ด้วยอวัยวะของเรา
คลื่นความถี่อื่นล้วนอยู่เหนือความสามารถของเราที่จะนำมาใช้เพื่อ
เปลี่ยนแปลงอนาคตของเรา

จงสนใจคำพูดและเสียงเเพราะมันสามารถดึงดูดอิทธิพลทั้งในด้านบวก
และลบ เข้ามาในชีวิตของคุณ

เสียงที่กลมกลืนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตอยู่ในสภาพสมดุล
และสร้างสรรค์ได้มากที่สุด

เวย์น ไดเออร์
(หน้า146 บรรทัดที่ 5-11 ใน Manifest Your Destiny)

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 02/11/2010


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code