• 
• 
• 
• 
• 

ปล่อยเวลาให่ว่างเปล่า.....เพื่อก้าวไปข้างหน้า ใครที่แรงบันบาลใจขึ้นๆ ลงๆ เชิญทางนี้ค่ะ (คัดลอกจากเรื่องราวของผู้คนที่ส่งมาลงในหนังสือของ แจ๊ค แคนฟิลด์) ความสุขของฉันเป็นผลมาจาก การเลิกทำตามแผนงานที่ "ควรกระทำ" ซึ่งฝ่ายบริหารมอบให้ และทำในสิ่งที่ฉันรู้สึกดี สำหรับฉันแล้ว ฉันนึกจินตนาการถึงความสำเร็จในเวลาเพียงไม่กี่นาที และการ ทานอาหารอย่างสบายใจในวันที่แสนงดงามแห่งฤดูใบไม่ผลิ พร้อม นกน้อยทั้งหลาย ยิ่งหายใจลึกๆ การเชื่อมต่อกับสิ่งชี้นำจากภายในของพววกเราทุกคน ก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น ด้วยทุกลมหายใจเข้าออก และทุกๆ การหายใจ ปล่อยให้คำตอบมาหาคุณ ในเวลาที่ถูกต้อง คุณไม่สามารถบังคับให้ วิธีแก้ปัญหา หรือความคิดดีดี มาหาคุณได้ แต่คุณสามารถสร้างพื้นที่ว่างไว้ให้มันได้! จงเลือกที่ผ่อนคลายกับเป้าหมายที่คุณได้พยายามมามากแล้ว (หาจุดสมดุลของความมุ่งมั่นปรารถนา&การปล่อยวาง) ขอให้คุณผ่อนคลายเกี่ยวกับมัน แล้วปล่อยให้มันเป็นไป จงเลือกที่จะพักมันสักอาทิตย์นึง ผ่อนคลายแล้วปล่อยให้จักรวาล จัดการกับมันซักระยะ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณควรจะหยุดพักเมื่อใด เมื่อใดที่คุณจะรู้สึกดีที่ จะทำสิ่งนั้น คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการได้รับแรบันดาลใจ มันจะมีขึ้นมีลง อยู่เสมอๆ คุณจะพบว่าคุณได้รับแรงบันดาลใจอยู่หลายวัน และจากนั้นคุณอาจ เพียงแค่ต้องการผ่อนคลายกับหนังสือ และเรื่องต่างๆ จงไว้วางใจว่าคุณจะได้รับแรงบันดาลใจอีกครั้ง กำหนดเวลาเกี่ยวกับ แรงบันดาลใจนั้น ไม่ใช่ธุระของคุณ สิ่งนี้เป็นหน้าที่ของ จักรวาล! ถ้าคุณรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจจากความอุดมสมบูณร์แห่งหนึ่ง ให้ กระทำสิ่งนั้น ลุยเลย! คำแนะนำต่างๆ นั้นเป็นสิ่งที่น่ารับไว้ แต่ต้องเป็นคำแนะนำที่นำมามา ซึ่งความเบิกบาน และความรู้สึกถูกต้องจากส่วนลึกของตัวคุณเสมอ คุณมีอิสระที่จะฟังใคร และรับฟังสิ่งใด คุณมีอิสระที่จะฟังใคร และรับฟังสิ่งใด!!! หลักการของสิ่งที่ชี้นำคุณจากภายใน จะชี้ทิศทางของสิ่งที่ดีที่สุดให้ คุณเสมอ ยิ่งคุณรับฟังเร็วเท่าใด คุณก็จะเบิกบานเร็วขึ้นเท่านั้น คุณ สามารถไว้ใจจากคำแนะนำภายในของคุณได้ สิ่งนี้ไมใสมารถจะทำให้คุณตกต่ำได้ (ข้อควรระวังในการอ่าน........อันนี้เป็นความรู้มือสองนะคะ) ชื่อผู้ส่ง : แฟนพันธุ์แท้ ถามเมื่อ : 01/09/2010   โลกแห่งจิตใจ มีอะไรหลายอย่างสำเร็จเสร็จสิ้นลงไป อย่างน่าชื่นใจ บ่อยครั้งที่มีค่ามากเป็น 100 เท่าของเวลาและพลังงาน ที่เราทุ่มเทออกไปในโลกภายนอก เชคติ กาเวน(จินตนาการสร้างสรรค์) ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 06/09/2010 การพูดว่า "ฉันไม่รู้" ก็คือโอกาสที่ดีสำหรับความคิดสร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ อาจอธิบายได้ดีที่สุดว่า เป็นการปล่อยวางจาก ความแน่นอน ดังนั้นการพบกับภูมิปัญญา ในความไม่แน่นอน ก็เปิดโอกาสให้เราได้ พบประสบการณ์อย่างที่เราต้องการ ลอล่า เบอร์แมนฟอร์ตแกง (ดีที่สุดในแบบของคุณเอง) ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 06/09/2010 "การปล่อยวางจากความแน่นอน" นั้น .. เมื่อมองในระดับความคิด จะรู้สึกว่าต้องใช้ความกล้าหาญอย่างยิ่ง ใช้ความไว้วางใจในชีวิตอย่างยิ่ง เพราะเป็นการลุกขึ้นมาก้าวพ้นความกลัว (ที่ความคิดสร้างขึ้นมาเอง) หลายศาสนาและความเชื่อ สอนให้เราใช้เทคนิค เชื่อมั่น ศรัทธาในพระเจ้า จักรวาล ฯลฯ ส่วนพุทธศาสนา สอนให้เห็นซึ่งความเป็น อนิจจัง หรือเห็นสภาวะความแปรปรวนเปลี่ยนไปขององค์ประกอบทั้งหลายในสิ่งนั้นๆ ที่เกิดตลอดเวลา และความเป็น อนัตตา ความไม่มีอะไรเป็นตัวเป็นตนของตนเองหรือสิ่งนั้นๆ จริงๆ สักอย่าง แต่เกิดจากการผสมองค์ประกอบสารพัด (อันแปรปรวนเปลี่ยนไปตลอดเวลา) อย่าหลงไปจับยึดไว้ เพื่อให้เราเข้าถึงปัญญา ที่หยั่งเห็นถึงความไม่แน่นอน เพื่อก้าวสู่อิสรภาพที่แท้จริง (แบบถาวร) และด้วยใจอันเป็นอิสรภาพ จากความยึดติด ความวิตก ความกลัวนี้เอง ที่จะกลับนำพาเราไปสู่เป้าหมายที่พึงประสงค์อย่างไหลลื่นและง่ายดาย ขออนุญาตเสริมมาดังนี้ครับ ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 07/09/2010 ความไว้วางใจในสิ่งที่ไม่รู้ เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่มองไม่เห็นและ มีพลังมาก จงพัฒนาความวางใจแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรม มาให้คุณประจักษ์ได้ด้วยประสาทสัมผัสของคุณเอง ไม่ว่าสถานการณ์หรืออุปสรรคจะเป็นเช่นไร พอคุณร่างความฝัน หนทางจะชัดเจนขึ้นทันที จักรวาลจะขานรับและทำงานกับคุณ ศรัทธาเป็นสิ่งที่ไปไกลกว่าประสาทสัทผัส เพื่อสร้างสำนึกทาง จิตวิญญาณอันเป็นจุดที่เราวางใจ แม้ว่าความถี่ที่สั่นสะเทือนจะเร็วมาก จนมันอยู่เหนือความสามารถของประสาททั้งห้า จะเน้นย้ำอย่างไรก็ไม่พอกับความสำคัญของการทำสมาธิ การทำ สมาธิเป็นหนทางหนึ่งที่เรารับรู้ถึงการติดต่ออย่างรู้ตัวกับพระเจ้า และขจัดความสงสัย ต่อให้คนอื่นมาชี้นำคุณ คุณก็จะไม่สงสัย นี่คือสิ่งที่ประกอบกันขึ้นเป็นศรัทธา! Wayne W. Dyer ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 07/09/2010 จงทำตัวทำใจให้สบาย ไปกับสิ่งที่ไม่อาจรู้ให้ได้ เอ็ทค์ฮาร์ท โทลเลอ ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 08/09/2010 ไม่ได้เข้ามาทักทายคุณนันท์ซะนานเลย คุณนันท์สบายดีนะคะ เข้ามาอ่านวันนี้นับว่าโชคดีม๊ากมาก พี่แฟนพันธ์แท้ อธิบายเรื่องนี้ได้ดีมากค่ะ "จงทำตัวทำใจให้สบาย ไปกับสิ่งที่ไม่อาจรู้ให้ได้" เยี่ยมไปเลยค่ะ ขอบคุณพี่แฟน และ คุณนันท์มากนะคะ ชื่อผู้ตอบ : ต้นอ้อ ตอบเมื่อ : 09/09/2010 สบายดีครับ หวังว่าคุณต้นอ้อสบายดีเช่นกันนะครับ ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 09/09/2010 Sawadee and Big smile kha everyone @ Nantbook ..... eii eii ... ö ) ชื่อผู้ตอบ : 1kha ตอบเมื่อ : 10/09/2010 ฝึกฝนให้ชินกับความไม่รู้ คุณจะเห็นคุณค่าของความคิดสร้างสรรค์ และโอกาสความเป็นไปได้มากว่าความรู้ เปรียบเทียบระหว่างการถูกดึงเข้าหา กับการผลักดัน และลองเสี่ยงดู เปรียบเทียบระหว่างความขี้เกียจกับความอดทน ลอล่า เบอร์แมนฟอร์ตแกง และเชื่อในจังหวะที่เหมาะสม ทำในสิ่งที่คุณต้องการ และดูจากสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ *คุณดึงดูดโอกาสให้เข้ามาหาตัว โดยดูเหมือนแทบไม่ต้องใช้ความ พยายามเลยใช่หรือไม่??? *คุณสามารถผ่านพ้นปัญหาและวิกฤตต่างๆ ได้อย่างสบายๆ กว่าเดิมหรือไม่???? ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 10/09/2010 อ้าววว! ลงชื่ออ้างอิงผิดที่ค่ะ ขออภัยเจ๊า! ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 10/09/2010 เป็นเรื่องเหลือวิสัยที่จะนำศรัทธามาอยู่ในที่ซึ่งมีความสงสัย (เกี่ยวกับพระเจ้า) จนกว่า.... คุณจะ...ละทิ้ง..แนวคิดของการรู้จักพระเจ้าโดยผ่านถ้อยคำ หรือประสบการณ์ของคนอื่น ศรัทธาไม่อาจได้รับการยืนยันหรือตรวจสอบ ได้จากข้อมูลภายนอก คุณต้องพากเพียรด้วยเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะรู้จักความถี่ที่ เร็วกว่า..สูงกว่า..ของพลังงานทางจิตวิญญาณ โดยผ่านเครื่องมือของตัวคุณเอง นั่นคือ! การติดต่อด้วยประสาทสัมผัสที่มีอยู่ในตัวคุณ เมื่อคุณรู้จักศรัทธา คุณจะเข้าถึงคำตอบทางจิตวิญญาณมาพิชิต ปัญหาใดก็ตามที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตคุณ Wayne W. Dyer ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 11/09/2010 ความไว้วางใจ แก่นสำคัญของทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งที่แทรก เจืออยู่ในทุกสรรพสิ่ง เป็นทั้งห้วใจ และแรงขับเคลื่อน ทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม ซึ่งวัดผลได้ คำนวณได้ ประเมินได้ หากจะถามว่าอะไรคืองานหมายเลขหนึ่งของผู้นำ (องค์กร ครอบครัว สังคม ประเทศ) คำตอบที่ง่ายก็คือ ........ การจุดประกายความวางใจ เพื่อช่วยช่วยปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และขีดความสามารถ ในตัวคน ให้ทำดีที่สุด สุดความสามารถ ในสภาพแวดล้อม และความวางใจสูงสุด ที่ทำให้บุคคลต่างเผ่าพันธ์ ต่างความคิด ความเชื่อ ภูมิหลัง ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว และมีประสิทธิภาพ เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และสังคม !!! พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 12/09/2010 ความตึงเครียดไม่ได้เกิดจากแรงภายนอก แต่มันเป็นผลที่เกิดขึ้นจากความอ่อนแอ ในการเชื่อมโยงกับ..การชี้นำ ภายในตัวคุณ ซึ่งความอ่อนแอนี้เกิดขึ้นจากความเชื่อว่าคุณคือสิ่ง อัตตาของคุณกำหนดให้ อันที่จริงแล้วคุณคือความสงบสุข และความปิติยินดี รายการที่บ่งบอกว่าเกิดความอ่อนแอ ในการเชื่อมโยงกับ..การชี้นำ ภายในตัวคุณ *มันจำเป็นที่เป็นฝ่ายถูกต้อง มากกว่าที่จะรู้สึกเป็นสุข *ชัยชนะคือทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อแพ้ จะเกิดความเครียด *ชื่อเสียงเกียรติยศ มีความสำคัญมากกว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณ กับต้นกำเนิด *ความสำเร็จจวัดจากจำนวนเงินและทรัพย์สมบัติ ไม่ใช่จากความรู้สึก เป็นสุข และความปิติยินดี *การอยู่เหนือผู้อื่น มีความสำคัญมากกว่าความเมตตากรุณา Wayne W. Dyer ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 12/09/2010 ความงดงามของการเริ่มต้นวัน จากแหล่งกำเนิดนั้นคือ การเข้าถึงแหล่งพลังงาน พร้อมด้วยสติปัญญา และความสามารถ ในการสร้าง ถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้ ความไม่แน่นอนของสิ่งต่างๆ จะไม่ก่อให้เกิดความกลัว และความสงสัย ในสติปัญญาที่หยั่งถึงซึ่งความไม่แน่นอนนั้น คุณจะมีอิสรภาพ จากอดีตของคุณ จงเต็มใจไปจากสิ่งที่รู้ สู่สิ่งที่ไม่อาจรู้ ที่ซึ่งอาณาจักรแห่งความเป็นไปได้ในทุกสิ่ง จะพร้อมยอมต่อจิตใจของจักรวาล! ดีพัค โชปรา(ดีวีดี) ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 13/09/2010 จิตวิญญาณเป็นแหล่งกำเนิดของการบรรลุทุกๆสิ่งในชีวิต การมองหาจากสิ่งภายนอก เพื่อใช้จัดการกับสิ่งที่อยู่ข้างใน จะพบว่า..... สิ่งภายนอกเป็นเพียงการกระตุ้นเร้า...แต่ไม่ใช่คำตอบ ประสบการณ์ภายนอก ให้ความแกร่ง ความชัดเจน แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหา ดีพัค โชปรา(ดีวีดี) ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 14/09/2010 เราเป็นเรือที่แล่นไปในเวลากลางคืน กระแสน้ำที่หนุนนำพาเรา ให้แล่นไปสู่รุ่งอรุณคือ.........ธรรมะ แล้วเราเป็นเรือที่ไหลผ่าน การปรากฏรูปขึ้นของทุกๆสิ่ง เราได้พบกระบวนการสรรค์สร้าง ผ่านทางจิตวิญญาณของเราเอง 7กฏด้านจิตวิญญาณ เพื่อความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม(ดีวีดี) ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 16/09/2010 ในความยินดี ในการให้และรับของคุณนั้น คุณได้คงรักษาความอุดมสมบูรณ์ของจักรวาล ที่ได้มอบไว้ ให้เกิดการหมุนเวียนในชีวิตคุณ ความอุดมสมบูรณ์ แสดงออกได้โดยผ่านทางวัตถุ แต่ปราชญ์ในสมัยโบราณรู้ดีว่า สิ่งที่หมุนเวียนอย่างแท้จริง คือ จิตสำนึก สิ่งนี้สะท้อนผ่านทางสัมพันธภาพของบุคคล คุณอาจจะให้เงินแก่ใครบางคนได้ แต่นั่นไม่เหมือนกับการมีสัมพันธภาพ การมีสัมพันธภาพนั้นคุณต้องมอบตัวคุณออกไป คุณต้องรู้สึกเห็นคุณค่า ให้ความสำคัญ และเข้าใจในคนอื่น กฎแห่งจิตวิญญาณทุกข้อนั้น เกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่มองไม่เห็นนี้ โดยเฉพาะ "กฎแห่งการให้และการรับ" ข้อนี้ 7กฏด้านจิตวิญญาณ เพื่อความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม(ดีวีดี) ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 18/09/2010 ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ เยี่ยม !!! "การมีสัมพันธภาพนั้นคุณต้องมอบตัวคุณออกไป คุณต้องรู้สึกเห็นคุณค่า ให้ความสำคัญ และเข้าใจในคนอื่น" ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 19/09/2010 ช่วยเตือนใจได้ดีครับ.................คิดถึงทุกคนเลย ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ตอบเมื่อ : 20/09/2010 ในการจะทำให้การไหลเวียนของการให้และรับ คงมีอยู่ และมีชีวิตชีวา คุณต้องเปิดตัวเอง ออกสู่การรับให้เป็น การมีคววามเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ที่หยั่งรากลึกอยู่ในทุกวัฒนธรรม เชื่อมโยงกับกฏแห่งการให้นี้ การรู้สึกถึงคุณค่า และการสำนึกรู้คุณระหว่างกันและกัน สร้างความเชื่อมโยง ที่เราต้องดำรงรักษาไว้ ประสบการณ์ของการสำนึกรู้คุณนั้น จะนำพาเขา เข้าสู่กฏแห่งการให้และรับ ถ้าคุณได้รับพร ที่จะอำนวยสิ่งดีดีให้ชีวิต ก็จงเรียนรู้ที่จะตั้งจิตอวยพร ให้ทุกๆคนได้รับสิ่งดีดีในชีวิต 7กฏด้านจิตวิญญาณ เพื่อความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม(ดีวีดี) ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/09/2010 ว่าด้วยความรัก ใน"Freedom from the Known" ของ กฤษณมูรติ : "...เมื่อปราศจากความรักแล้ว ชีวิตของคุณก็ไม่มีความหมาย... ...คุณไม่อาจมีความรักได้ถ้าไม่มีความงาม แต่ความงามจะมีได้เมื่อจิตและใจของคุณรู้ชัดว่าความรักคืออะไร... ...จิตสามารถเข้าถึงความรักได้โดยปราศจากระเบียบกฏเกณฑ์ ปราศจากความคิด ปราศจากการข่มใจ ปราศจากหนังสือ ครู หรือผู้นำใดๆ ...ดังเช่นเมื่อเราเข้าถึงความงามของอาทิตย์ยามอัสดง... ...สิ่งที่จำเป็นมากคือความรักที่จะทำ (passion) ที่ปราศจากความมุ่งประสงค์ ที่มิใช่ผลของการผูกมัดหรือความผูกพัน มิใช่กามราคะ ผู้ที่ไม่รู้ว่า passion คืออย่างไร จะไม่อาจรู้จักความรักได้ เพราะความรักจะเข้ามาสู่ชีวิตได้ก็ต่อเมื่อมีการละตัวตนลงอย่างสิ้นเชิง... ...จิตที่แสวงหามิใช่จิตที่รักอย่างดื่มด่ำ การเข้าถึงความรักโดยปราศจากการแสวงหานั้นเป็นหนทางเดียวที่จะพบและเข้าถึงคามรักได้... ...ความรักเป็นอะไรที่ใหม่ สดใส และทรงชีวิต ไม่มีอดีตและอนาคต อยู่เหนือความยุ่งเหยิงของคว่มคิด... ...จิตที่ไร้เดียงสาเท่านั้นที่รู้ว่าความรักคืออะไร... " ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 20/09/2010 การเข้าถึงความรักโดยปราศจากการแสวงหานั้นเป็นหนทางเดียวที่จะ พบและเข้าถึงความรักได้... อันนี้น่าจะช่วยเตือนใจผู้คนที่เสาะแสวง(แบบโหยหา) และสั่นสะเทือน คลื่นแห่งความยุ่งเหยิง............ได้ดีอย่างยิ่ง ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/09/2010 สวัสดีครับคุณนีโอ .. ยอดเยี่ยมเลยครับคุณนพรัตน์ ผมมีมาฝากเหมือนกัน มีคนบอกว่าให้ FALLING IN LOVE WITH EVERYTHING IN EVERY MOMENT OF YOUR LIFE . . ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 20/09/2010 มี Tips for better life มาฝากเพิ่มเติมค่ะ "FORGIVE EVERYONE FOR EVERYTHING" ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 21/09/2010 ความสุขที่ขึ้นต่อคนอื่นนั้น เปราะบาง แตกหักง่าย,หยาบ และไม่ยั่งยืน สุขมากก็มีโอกาสพลิกเป็นทุกข์ได้มาก แต่สุขที่เกิดจากการเดินช้า เพราะหายใจอย่างมีสตินั้น ให้ความชุ่มเย็นและไม่ขึ้นต่อใครเลย นอก จากตัวเราเอง คนที่มีความสุขโดยไม่ต้องขึ้นต่อคนอื่นนั้น ไม่มีทางเลยที่จะไปแย่งชิง เอาความสุขมาจากคนอื่น เพราะความสุขนั้น ผลิบานอยู่แล้วในตัวเขา ตลอดเวลา ขอให้เรากลับมาหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขในตัว เรา เสียแต่ วินาทีนี้เถิด น่าเสียดายค่ะที่จำที่มาไม่ได้ ตั้งใจลอกมาแล้วส่งให้เพื่อนที่เค้ายังร้อนรนอยู่ในวังวนความรักที่ไม่ สมหวัง และน่าจะสกิดใจสำหรับผู้ใดที่ยังวัดคุณค่าของตัวเองจาก จำนวนผู้ชายที่มารุมรัก ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 21/09/2010 คุณแฟน เขียนเรื่องนี้แบบ องุ่นเปรี้ยว มะนาวหวาน หรือเปล่าเนี่ย อิ อิ ชื่อผู้ตอบ : คนขอนแก่น ตอบเมื่อ : 22/09/2010 แว่วมาว่าจะเจอข่าวดีปีหน้านา ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 22/09/2010 ไม่ค่อยแน่ใจตัวเองเลยว่า องุ่นเปรี้ยว มะนาวหวาน หรือเปล่า แต่ที่มั่นใจอย่างยิ่งยวดคือไม่เคยวัดคุณค่าของตัวเองจาก จำนวนผู้ชายที่มารุมรัก คุณคนขอนแก่นไม่เชื่อก็ท้าให้มาสืบประวัติได้นิ(ทั้งในที่นี่และที่อื่นๆ) เพราะไม่เคยอวดอ้างจำนวนคนรุมรักเลย ไหนจะคนมาแอบรักอีก มาตั้งหน้านับกัน.......คงจะเป็นลมซะก่อนน่ะ เพราะ...มันคงนับไม่ไหว อิอิ ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 22/09/2010 เข้าทางน้องแล้วพี่แฟนพันธ์แท้ น้องเก็บความลับมานาน ho ho ho กระจองงองเจ้าข้าเอ๊ย หนึ่งในจำนวนคนที่มารุมรักพี่แฟนฯ ใส่เรย์แบนสีชาเทห์ หน้าหวาน หุ่นเพรียว จนครั้งหนึ่งทำให้ชาวบานเค๊าสับสนว่า นี่หรือคุณพี่แฟนพันธ์แท้ฯ เค๊าเป็นทอมบอย หรือพี่แฟนฯเป็นผู้ชายที่ผ่าตัดแล้ว แต่คุยๆกันทางโทรศัพท์ก็เป็นเสียงผู้หญิงนี่น่า เอ หรือว่าวงการพยาบาลเขาผ่ากล่องเสียงแบบเหมือนหญิงขั้นเทพ นี่คือการย้อนความทรงจำขุดอดีต เมื่อสอง สาม ปีมาแล้ว ที่ตอนนั้นหนึ่งยังไม่เคยเจอหน้าพี่แฟนฯ พี่แจง และเพื่อนคนอื่นๆ เราเลยขอดูรูปกันผ่านทางอีเมล์ เพื่อรู้จักหน้าตาทุกๆคน พี่แจงส่งรูปมากับลูกสาวสองคน น่ารัก สดใสมาก ผ่าน ไม่มีประเด็น ส่วนพี่แฟนส่งรูปผ่านอีเมล์มา ผลลัพธ์ทำให้น้องเกิดอาการงง ถึง งงมากที่สุด เหตุเพราะว่า พี่แฟนฯ เพิ่งเริ่มใช้อีเมล์แบบแนบรูปเป็น พี่สาวเลยส่งรูปคุณหมอหนุ่ม หน้าหวานนนนมากมาให้น้องดูแทน ทำให้น้องปักใจไปแล้วว่า พี่แฟนฯคือ ผู้ชายข้ามเพศ ทอม ผู้หญิงข้ามกำแพง หรือเรียกชื่อสมมุติอะไรก็ได้ แต่ทำไมเวลาคุยกันเสียงเป็นผู้หญิง ดัดเสียงเก่งจริงๆ แฟนฯคลับนันท์บุ๊ค นี่คือที่มาของการตั้งต้นนับหนึ่งของจำนวนคนรุมรักพี่แฟนฯ 555555 เป็นอีกหนึ่ง Behavior ของพี่สาวที่น้องไม่เอาไปเป็นตัวอย่าง ฮา เพราะทำให้ชาวบ้านอยู่ในห้วงกังขาอยู่หลายเดือน (ฮาไม่ออก ) คิดถึงเสมอนะคะพี่แฟน 5555 น้องหนึ่งเอง ปล พิมพ์ไปขำไป ขำไม่หยุด 55555 .. thanks for the good time :O) ชื่อผู้ตอบ : 1kha ตอบเมื่อ : 24/09/2010 อ่านแล้วไม่ค่อยแน่ใจ... ตกลงคนที่รุมรักคุณแฟนฯมากมายนี่เป็นบรรดาผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่คะ (55555) ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 24/09/2010 มันจะไปกันใหญ่แล้วล่ะ ตั้งใจให้ข้อมูลเกทับ ใครบางคนที่บังอาจมาว่าเรา องุ่นเปรี้ยว มะนาวหวาน .....ก็เท่านั้นเองค่ะ อิอิ ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 24/09/2010 ไปเที่ยวมา 2-3 วัน มีคนแถวนี้กลายเป็นองุ่นเปรี้ยว ที่มีคนเข้าใจผิดมารุมรักเพราะคิดว่าเป็นมะนาวหวานไปแล้วเหรอ .. ฮา ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 26/09/2010 คำตอบ   ชื่อผู้ตอบ   E-mail   Security Code