พลานุภาพ ของบทสวดมหาจักรพรรดิ
แฟนพันธ์แท้ กับ พี่อิ๋ว รู้จักบทสวดมนต์นี้ เมื่อเดือน ตุลาคม 2552
จากพี่คนหนึ่งซึ่งตัวเองได้ตั้งฉายาว่าเธอเป็น"หญิงอัศจรรย์"
เธอผู้นี้มีประสบการณ์ดีดี กับบทสวดดังกล่าวมากมาย โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง ในการใช้ประกอบกิจกรรม "กด ATM จาก จักรวาล"

พี่อิ๋วเธอเป็นผู้กระจายบทสวดดังกล่าวไปทั่วภาคเหนือ และไปทุกๆที่ ที่มีคนรู้จัก
และรวมทั้งญาติท่านนึงซึ่งอยู่ที่ประเทศ ออสเตอเลีย(เมืองซิดนีย์ค่ะ...อาจเคยเดินชนคุณหนึ่งรึเปล่า??)
เรื่องราวปาฎิหาริย์นั้นพึ่งเกิดเมื่อ 2-3สัปดาห์ที่ผ่านมาค่ะ
พี่สาวท่านนี้ได้เดินทาง ร่วมกับสามี(ซึ่งเป็นแพทย์รักษาโรคหัวใจในโรงพยาบาล ในเมืองซิดนีย์)
จาก อเมริกา แวะพักที่ญี่ปุ่น ในขณะที่เครื่องบินโดยสาร กำลังลงจอดที่สนามบินที่เมืองโตเกียว นั้นมีพายุแรงมาก ทัศนวิสัยดังกล่าวนักบิน
ไม่สามารถนำผู้โดยสารลงจอดสนามบินได้ ในครั้งแรก
จึงต้องบินวน รอเวลาเพื่อให้ปัญหาดังกล่าวคลี่คลาย เครื่องร่อนลง
ครั้งที่ 2 ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะลงจอดได้ นักบินได้ตัดสินใจบินวนรอบๆ
สนามบินเป็นเวลาร่วม 1 ชั่วโมง ตามประสบการณการเดินทางพี่สาว
ท่านนี้เกิดเกรงกลัวว่า เชื้อเพลิงที่ใช้ในการบินใกล้หมด และนักบินจำเป็นต้องใช้ความพยายามลงจอดให้ได้ในครั้งที่ 3
ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นปัญหาของพายุลมแรงยังไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลาย
พี่สาวท่านนี้ ได้เริ่มอาราชธนา เทวดาในอากาศ และต่อด้วยบทสวด
มหาจักรพรรดิ และก็เป็นเรื่อง บังเอิญ ที่ต่อจากนั้นไม่นาน นักบิน
สามารถ นำผู้โดยสารทั้งลำลงจอดสนามบินดังกล่าวด้วยความ
ปลอดภัย ตอนเดินลงบันไดของเครื่องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า หลัง
เครื่องฯลงจอดอย่างปลอดภัย เธอเห็นปรากฎการณ์บางอย่าง
ซึ่งตัวเธอยังอยู่ในอารมณ์ตื่นตนก จึงไม่มั่นใจตัวเอง จึงขอให้สามี
ช่วยมองดูปากฎการณ์ดังกล่าว และถามสามีว่า
"เธอมองเห็น อะไรมั้ย??"
"เห็นเป็น......"
"ไม่ต้องบรรยายหรอก เดี๋ยวถึงโรงแรมที่พัก ช่วยวาดรูปที่เห็นให้ฉันดูด้วย"
สามีนับถือศาสนาคริตส์นิกาย คาทอลิก
พี่สาวท่านนี้นับถือศาสนาพุทธ สวดมนต์เป็นประจำ
พอมาถึงโรงแรมที่พัก นายแพทย์ท่านนี้ได้วาดรูป สิ่งที่เห็นบนท้องฟ้า
ที่สนามบินเมืองโตเกียว

วาดออกมาแล้วเป็นเครื่งทรงมงกุฎ พระมหาจักรพรรดิค่ะ

ซึ่งเป็นปรากฎการณ์เดียวกันที่เธอนั้นได้เห็นก่อนหน้านั้น

ชื่อผู้ส่ง : แฟนพันธุ์แท้ ถามเมื่อ : 13/04/2010
 


เดี๋ยวน้องจะสวดบ้างค่ะพี่แฟน หากพี่อิ๋วหรือพี่แฟนส่งบทสวดมาให้ อิอิ
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 20/04/2010
ส่งให้ใหม่วันนี้ค่ะ(แปลว่าเคยส่งให้เมื่อ 6เดือนที่แล้ว...อิอิ)

คลื่นเสียงที่เกิดจากบทสวดดังกล่าว มีผู้คนที่เค้าถนัดเรื่องของการสัมผัส
บอกว่าเป็นคลื่นที่ใกล้เคียง คลื่นคอสมิค(คลื่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์)เลยค่ะ

ประสบการณ์ส่วนตัวช่วงเริ่มสวด ก้อมีเหตุการณ์แปลกๆมากมายเหมือนกัน(ในเรื่องผู้คน) คือเล่าไปก็เหมือนงมงายง่ะ
ไม่น่าเชื่อว่าเรียนวิทยศาสตร์มา......อะไรประมาณนี้
เหมือนที่เคยพูดกันบ่อยๆเนอะ

ไม่ลอง....ไม่รู้!

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/04/2010
อ้าว พี่ส่งมาหกเดือนที่แล้วเหรอคะ ขอโทษค่ะ เปิดเมล์วันนี้ได้รับแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะ
จะเอาไว้สวดมนต์บนเครื่องบิน ยิ้มแฉ่ง
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 20/04/2010
คลื่นคอสมิคที่ว่ากันเนี่ย
ตัวเองก้อ ลองเชื่อมโยงข้อมูลจาก"พลังไร้รูป" เค้าบอกว่า
คลื่นของความเมตตา คือคลื่นความถี่สูงสุด(ของมนุษย์)
ซึ่งถือว่าเข้าใกล้คลื่นคอสมิคมาก
คลื่นที่ตรงข้าม......(ต่ำสุด) เป็นคลื่นอาฆาตพยาบาท...รองต่ำสุด..เป็นเรื่องริษยาน่ะ.....ต่อจากนั้นก้อเป็น..คลื่นความโกรธ
(ซึ่งอันนี้ก็จัดเรียงเหมือนกันกับที่ อับบราฮัม ฮิกส์ บอกเอาไว้แบบ...เป๊ะ!)

เรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้น(ไม่เล่าก็ไม่เห็นภาพเนอะ...แต่จริงๆอยากเล่าจนใจจะขาด..อิอิ)
พี่แฟนพันธ์แท้มีลูกค้าท่านนึงเป็นคนพูดน้อยมาก มนุษยสัมพันธ์ก็
ต้องบอกว่าอยู่ในระดับ......ตามสไตล์คนเก่งทั่วไปน่ะ เด็กเกียรตินิยม
ตอนทำงานก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับต้นๆของประเทศ...อะไรแบบเนี่ยะ
วันที่ซื้อประกันวันแรก อาจารย์ท่านนี้กับภรรยา ได้เปิดห้อง Conference ให้ไปพรีเซนต์เป็นเรื่องเป็นราว จากนั้นตลอดเวลากว่า 10ปี ที่ดูแลกันเราก็จะเกร็งๆ น่ะ ของขวัญ/ของชำร่วย ที่จะต้องให้กันตามวาระต่างๆ
ถ้าเป็นไปได้จะใช้วิธีฝากให้(แบบไม่ต้องเจอตัว) เพราะไม่แน่ใจว่า
อารมณ์ไหน

อยู่มาวันหนึ่งจะต้องไปพบ อาจารย์หมอท่านหนึ่งซึ่งเป็น
รุ่นน้องและทำงานอยู่ภาควิชาเดียวกัน ก้อบังเอิญต้องมา"จ๊ะเอ๋"(แบบจะหลบก็หลบไม่ทันแล้ว)

สิ่งที่ประหลาดที่สุด(แม้แต่พยาบาลแถวๆนั้น ยังต้อง "เมาท์" กัน ว่านี่เกิดอะไรขึ้น????)

คืออาจาย์ท่านนี้เข้ามาทักทาย กูลีกูจอ ตามหาคุณลูกค้า ที่แฟนพันธ์ต้องการไปพบ
เท่านั้นไม่พอบอกผู้ช่วยแถวๆนั้นให้จัดเก้าอี้เพื่อนั่งรอ
แล้วหันมาบอกว่าคุณนั่งรอแป๊ปเดียว..เดี๋ยวเค้ากำลังจะมา(ด้วยน้ำเสียงที่เมตตามากกก)

แฟนพันธ์แท้ ตื่นเต้นจนลืมขอบคุณน่ะ
ที่ตื่นเต้นก้อคือ..นี่เป็นเหตุการณ์แปลกๆ 1 ใน3 เหตุการณ์ ซึ่งเกิดขึ้นติดๆกันมา 2-3 วันหลังสวดมนต์บทเนี่ยค่ะ

แล้วมันเกี่ยวกับ....พลังคอสมิค หรือ พลังของความเมตตามั้ยเนี่ย???

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/04/2010
ขอให้คุณปรับความถี่ของคุณให้ตรงความถี่ของพระเจ้า
แล้วคุณจะได้รับรู้ถึงความเหลือเฟือที่อยู่เหนือความสงสัยทั้งปวง

....ความถี่ของพระเจ้า???
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/04/2010
การสวดมนต์เป็นเหมือนการเชื้อเชิญ และการร้องขอด้วยความเคารพ
เพื่อให้โลก(จักรวาล) แสดงความเมตตาออกมา


James Redfield(สัมผัสที่ 10)
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 23/04/2010
ช่วงก่อนสงกรานต์แฟนพันธ์แท้ได้รับการขอความช่วยเหลือ
จากคุณลูกค้าให้เป็น....พยานบุคลคล.......ในศาลคดีฟ้องหย่า
ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะอยู่ระหว่าเดือน มิถุนา-กรกฎา ที่กำลังจะมาถึงนี้
ซึ่งแฟนพันธ์แท้รับปาก และเราก็ซักซ้อม/ทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ
ที่เกิดขึ้นเมื่อ7ปีกว่าๆที่ผ่านมา ซึ่งคุณลูกค้าบอกเดี๋ยวใกล้ๆ นัดเจอ
ทนาย อาจต้องลำดับให้ชัดเจนอีกที

ก่อนจากกัน ได้ถามคุณลูกค้าว่า.....เคยแผ่เมตตาให้กันบ้างมั้ย??
(ว่ากันตามทฤษฏีนั่นแหละ)
คุณลูกค้าตอบว่า ทำจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เรื่องยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี
ไปนั่งวิปัสสนา กี่ครั้งต่อกี่ครังนับไม่ถ้วน ได้ยกกุศลผลบุญให้หมด
ในช่วง 2ปี ที่ผ่านมา นี่ทนไม่ไหวแล้ว ขอต่อสู้กันในชั้นศาลแล้วกัน

งานนี้ได้เห็นเรื่องราว.........ความไม่เที่ยงหนอ น่ะนะ

หลังจากรับปากไปแล้วก็เกิดอาการตื่นเต้นมาก
ในชีวิตเคยเห็นแต่ในทีวี ในละครน่ะ
แล้วเราจะต้องใช้ศัพท์แสงยังไงเนี่ย
เป็นพยานบุคคล ถ้าคดีชนะ ตัวเราจะมีอันตรายใดๆ ถึงชีวิตเลยมั้ยเนี่ย

ได้สติหลังจากนั้น 2-3 วัน เลยถือโอกาสโทรฯไปเยี่ยมเยียน
และบอกว่า ไหนๆก็ลองมาหลายวิธีแล้ว ช่วงเวลาที่ยังมาไม่ถึงนี้
ลองแผ่เมตตา หลังบทสวดมนต์นี้ ตามกำลังวัน
(เล่าความมหัศจรรย์มากมาย ตามสไตล์ของตัวเอง)


มาวันนี้ค่ะ
ข่าวดีก็คือ
ไม่ต้องไปเป็นพยานชั้นศาลแล้ว
คู่กรณียอมหย่าให้โดย สันติวิธี

เฮ้อ!

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 10/05/2010
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานสัมนา
"คนประกันระดับเอเซีย-แปซิฟิค" 17 ประเทศ
มีวิทยากรไม่น้อยกว่า 6 ท่าน ที่ได้พูดถึง

การสวดภาวนา

มีวิทยากรชายอยู่ท่านนึงมาจากฮ่องกง อายุ 65ปี(แต่ดูเหมือนซัก45ปี)
เค้าประสบความสำเร็จในงาน, ในสังคมมากมาย
แต่ไม่มีความสุขเลย
เค้าล้มเหลวเรื่องความสัมพันธ์(กับทีมงาน กับครอบครัว และกับทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง)

จุดเปลี่ยนความคิดของชายผู้นี้คือ เค้ามีโอกาสได้รับรู้การใช้ชีวิตอย่างสมดุล
ของมหาเศรษฐ๊ของโลกชื่อ วอเรน บั๊ฟเฟต

เค้าเริ่มต้นเรียนรู้วิธีสื่อสารกับผู้คน ตอนอายุ 63ปี
เค้าบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ย
และย้ำว่า บทสวดอธิฐาน(นับถือคริสต์) สำคัญมากในช่วงลด-ละตัวตน


เค้าลงจากเวทีด้วยประโยค

"ทุกท่านในที่นี้มีพระเจ้า(ในศาสนาของคุณ)
ขอจงศรัทธาและขอบคุณในพระเจ้าของคุณ!"

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 11/05/2010
"ทุกท่านในที่นี้มีพระเจ้า(ในคุณ)
ขอจงศรัทธาและขอบคุณในพระเจ้าในคุณ!"


p.s วันนี้เข้ามาไล่แซว ไล่อ่านทีละกระทู้ หมดเวลา วันหน้าจะมาแซวใหม่นะคะเพื่อนๆ
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 02/06/2010
อยากได้บทสวดจังส่งให้ด้วยได้ไหมคร่ะ
ชื่อผู้ตอบ : พลอย ตอบเมื่อ : 29/12/2011


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code