เอาบุญมาฝากค่ะ
หายหน้าหายตาไปตั้งนาน นู๋ไปนั่งวิปัสสนามา รอบนี้ตั้งใจเต็มที่ โชคดีที่ได้อ่านหนังสือของพระอาจารย์ปราโมทย์ ก่อนไปนั่ง ช่วยให้เข้าใจมากขึ้น ประกอบด้วยมีเหตุและปัจจัยต่างๆ (ล้วนเป็นเรื่องอดีตที่เกิดมาและผ่านไป แต่ยังคงกะพันในสมองอันน้อยนิดอยู่เป็นช่วงๆ แปลกดีเน้อ คนเราผูกพันกลับเรื่องอดีตมากกว่าปัจจุบัน )ช่วยให้การปฏิบัติธรรมครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้ง เริ่มพัฒนา เริ่มที่รู้ทันอารมณ์ และเฝ้าดูจิตได้ดี อิ่มบุญค่ะเลยมาเผื่อพี่ๆๆทั้งหลาย
ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งนาน
ชื่อผู้ส่ง : สิ่งเล็กๆ ถามเมื่อ : 10/04/2010
 


อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

พึ่งไปครอสแบบเต็มๆ ออกมาเหมือนกันค่ะ
ออกมาก็โทรฯ...หาคนใกล้ตัวแบบประมาณ..เผื่อแผ่แบบคุณสิ่งเล็กๆ เนี่ยค่ะ

คนรับเค้าถามกลับว่า

แล้วพี่ควรพูดยังไงเหรอ??

เอ้อ!....เค้าเขินแบบ..ไม่รู้ธรรมเนียมง่ะ...อิอิ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 11/04/2010
ขอบคุณ และอนุโมทนาครับคุณสิ่งเล็กๆ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 11/04/2010
อนุโมทนา ครับ
ดีจังเลยครับได้มีโอกาสปฎิบัติแบบเข้า คอร์ส
ผมยังหาเวลาแบบนั้นลำบากเหมือนกัน

ปฎิบัติอยู่บ้าน ดูจิต ไปเรื่อยๆ ครับ
เราศิษย์ครูเดียวกันครับ ลพ.ปราโมทย์
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 13/04/2010
ถ้าปฎิบัติเจริญสติไปเรื่อย จะพบกับ happy for no reason ของแท้เลยครับ อย่าที่พระป่าชอบพูดเป็นสำเนียงอีสานว่า
"สุขแท้น้อ สุขแท้น้อ"
เรียกว่าสุขจนแทบเกินกว่ากายของเราจะทนได้เลย
ขนาดสุขๆดิบๆ อย่างที่เราเป็นตอนนี้ ยัง happy for no reason ขนาดนี้
แล้ว "สุขแบบสุดๆของสุดๆ แบบสุดขั้ว" มันจะเป็นอย่างไร....


ฟังแล้วกิเลส "ตัวอยากได้ อยากสุข" ก็เริ่มทำงานอีกแล้ว
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 13/04/2010


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code