จิตใจ...บทสนทนาภายใน..และการกระจายข่าวสาร
จิตใจของคุณนั้นแผ่กระจายพลังงานอันมหาศาลออกไป
นอกจากนี้มันยังเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะผ่านพบประสบการณ์ต่อโลกอย่างไร......
สร้างสรรค์สิ่งใด....
ความคิดต่างๆของคุณมีอำนาจดึงดูดมันส่งออกไปจากตัวคุณ
และเหนี่ยวนำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นที่คุณคิดเข้ามาหา
....................Sanaya Roman.....................

ช่วงที่คุณหนึ่งกลับมาไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้กรุณาเล่าเหตุการณ์
มากมายในงานสัมนาของ อาจารย์ เอสเธอร์ ฮิคส์ ที่ช่วย คอนเฟิร์ม หลักการทั้งหลายที่เราๆท่านๆ กำลังสนใจกันอยู่นี้
เลยนึกถึงข้อความข้างต้นนี้ค่ะ
ส่วนรายละเอียดเหตุการณ์นั้น คุณหนึ่งรับปากว่าจะหาโอกาสมาเล่าด้วยตัวเองค่ะ


โปรดติดตามในตอนต่อไปนะคะ

ชื่อผู้ส่ง : แฟนพันธุ์แท้ ถามเมื่อ : 27/01/2010
 


สวัสดีค่ะทุกท่าน
เข้ามาวันนี้ สงสัยเพราะพี่แฟนฯตามหา ฮา
เล่าแทนเลยค่ะพี่แฟนฯ เขียนให้ละเอียดเลยค่ะ ยิ้ม ๆ
หนึ่งจะได้อ่านด้วยค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 29/01/2010
เอางั้นเหรอคะ?
เดี๋ยวขออ้อมค่ายก่อนนะ

พี่แฟนพันธ์แท้เองก็ได้คำตอบ ในข้อสงสัยมานาน จากเหตุการณ์ที่เกิดกะตัวเอง
ในเรื่องการให้ร้าย หรือจงใจให้ร้าย รวมทั้งการบิดเบือน"ข่าวสาร/ข้อมูล"
เพื่อให้ตัวเอง((ผู้บิดเบือน) มีข้อได้เปรียบ......และอื่นๆที่เป็นการสนองในช่อง"อัตตา"

คำถามที่ว่าคือ......ผู้ที่มีโอกาส(ในสื่อที่กระจายข่าวสาร)มากกว่า
และมีอิทธิพลต่อกลุ่มคน(หากมองทางโลก) เค้าได้เปรียบจริงและคือผู้ชนะ.......จริงเหรอ????


ได้คำตอบคือ............
หากเรามองทางโลก และรู้ไม่เท่าทันตัวเอง/กลลวง
เราจะตกเป็นเหยื่อค่ะ.......และจะเกิด การต่อสู้กัน แบบไม่มีวันจบ
และก็จะลงความเห็นว่า เค้าคือผู้ที่ทำให้เราเสียหายตัวจริง....และ
ข้อได้เปรียบที่เค้ามี มีผลกระทบต่อเราได้จริง

หากเราจะมองหา.......อีกทางเลือกหนึ่ง
ซึ่งมันค่อนข้างยาก...........ถึงยากที่สุด
คือการ....ให้อภัย
เหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวง...มันจะถูกพลิกค่ะ
พลิกในแบบที่เรา......ไม่รู้จะไปขอบคุณใครดีเนี่ย????
เพราะผู้คน..เหตุการณ์ จะตอบสนองต่อเราในทางที่ดี.....ถึงดีที่สุด
และไอ้ที่ต้องงงแบบสุดๆ ก็คือ ข้อได้เปรียบทางโลกของใครบางคน
มันไม่มีความหมายหรือผลกระทบใดๆ.........ได้เลยยยยย


แนวคิดและการกระทำที่ยาก......ถึงยากที่สุดนี้
แฟนพันธ์แท้ได้มาจากคุณ วรัตดา(เหมียว)
ในดีวีดีที่ทีมงานคุณนันท์ส่งให้เมื่อปีที่แล้วค่ะ รายการ สมการความสุข

ด้วยประโยคทองที่ว่า.....
มันเป็นเรื่องราวที่เราทำผู้อื่นมาแล้วทั้งนั้น(ในอดีต....อดีตของอดีต..ของอดีต...)
สิ่งที่เห็นในเหตุการณ์ต่างๆ เค้าเป็นเพียง "พาหะ" ที่เดินทางมาแสดงเหตุการณ์ย้อนให้เราเป็นผู้ชมเท่านั้น


ก็ต้องบอกกล่าวกันว่า.......ยังทำไม่ได้ในทุกเหตุการณ์หรอกเนอะ
แต่หากทำได้

เราจะเปลี่ยนการตอบสนองจาก
โกรธ หงุดหงิด เกรี้ยวกราด อยากวางแผนที่จะห้ำหั่นกันให้ถึงที่สุด

เป็น

ขำๆ ว่า...... นี่เราเคยเลวและร้ายถึงขนาดนี่เลยเหรอ????

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 01/02/2010
ในงานสัมนาของอาจารย์ เอสเธอร์ ฮิคส์ นั้น
คุณหนึ่งได้กรุณาเล่าให้ฟังดังนี้ค่ะ(เธอบอกว่าซื้อบัตรเติมเงินเพื่อเล่าเรื่องนี้ หมดไป 500บาทแน่ะ..อิอิ)

คุณหนึ่งและสามีได้ซื้อบัตรเข้าสัมนา ในแถวแรกๆ(ซึ่งก็จะมีราคาที่แพงกว่าแถวหลังๆ แน่นอน)
บังเอิญว่า มีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งนั่ง ถัดไปแถวหน้าชองเธอมีพฤติกรรม ก่อความไม่สงบ
ต่อผู้คนรอบข้างทั้งหมด (รวมทั้งเธอด้วย) คนอื่นๆที่ได้รับความลำคาญเลือกวิธีที่จะบอกกับ รปภ
พอ รปภ เข้ามาจัดการ เธอนั้นก็ปฏิเสธและส่งเสียงมากขึ้นกว่าเดิม

ซึ่งเหตุการณ์นี้คุณหนึ่งเลือกวิธี ที่จะไปทำความ "เข้าใจ"...ผู้หญิงคนดังกล่าว....
และนึกภาพว่า เธอคงมีปัญหาอะไรซักอย่างถึงได้มีพฤติกรรม "ก่อกวนผู้อื่น" เช่นนี้
และจะมีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ของเธอ คุณหนึ่งเลือกวิธีต่อไปคือ
แผ่เมตตาให้เธอ...อย่างเงียบสงบ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมาคือ
หลังเบรคกาแฟ ผ่านไป เธอคนนั้น
หายออกจจากห้องสัมนา................และไม่กลับมาอีกเลย ย


เนียะค่ะ
ก็ทำให้นึกถึงประโยคนี้เลย

..............
จิตใจของคุณนั้นแผ่กระจายพลังงานอันมหาศาลออกไป
นอกจากนี้มันยังเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะผ่านพบประสบการณ์ต่อโลกอย่างไร......
สร้างสรรค์สิ่งใด....


ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 01/02/2010
ความรู้สึกของบุคคลอื่นได้ปลุกความรู้สึกที่สอดคล้องกัน ภายในตัวคุณให้ตื่นขึ้น
โดยอาศัยกฏแห่งเสียงสะท้อน
ขณะที่คุณปรับระดับอารมณ์ของตัวเองให้สงบเย็นลง
คุณจะสามารถจัดการ กับอารมณ์รุนแรงของผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Sanaya Roman
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 01/02/2010
พี่แฟนเขียนดีจังค่ะ ขอบคุณค่ะ ไม่ยาวยืดยาดเหมือนหนึ่งค่ะ
หนึ่งเพิ่มให้ยืดยาวก็แล้วกันนะ ฮา

คุณน้าท่านนี้ก็ลุกออกไป ยังไม่ถึงเวลาพักค่ะพี่แฟนฯ เวลาผ่านไปจากที่อาจารย์เอสเตอร์พูดไม่ถึงยี่สิบห้านาทีเท่านั้น การสัมมนาครั้งนี้คนมาเข้าคิวกันตั้งแต่เแปดโมงเช้า งานเลิกห้าโมงเย็น คุณน้าท่านนี้ซื้อบัตรเข้ามานั่งแถวที่สอง ซึ่งจัดว่าได้ใกล้ชิดผู้พูด แต่แล้วเดินออกไปหลังจากอาจารย์พูดได้ยี่สิบนาทีเท่านั้น ด้วยอาการโมโห

สิ่งที่หนึ่งประทับใจคือ ไม่มีใครพูดถึงคุณน้าท่านนี้อีกเลย ไม่ว่าจะเป็นการให้พลังงานทางลบ หรือทางบวก

ไม่ตั้ง ไม่ต่อ ไม่เติม มันก็เลยไม่ติด ยอมรับ เข้าใจ กลุ่มฝรั่งที่เกิดประเด็นกับคุณน้าท่านนี้ รวมไปถึงรปภ และ หัวหน้า เฮย์ เฮ้าส์ ออสเตรเลียด้วย มองตาเฉยๆ ไม่พูดอะไร ไม่ต้องคุยกันอีก

และจะบอกว่าก่อนอาจารย์ขึ้นเวที หัวหน้าเฮย์เฮ้าส์ของออสเตรเลีย ได้ขึ้นเวทีแล้วประกาศกับทุกคนว่า " จุดประสงค์ของงานนี้ และ ความสำเร็จของงานนี้ ผู้ฟังทุกท่าน มีส่วนเป็นโค ครีเอเตอร์ มีพลังงานของความเชื่อมโยง ความสุข เบาใจ หากท่านใดทราบว่าตนเองทำไม่ได้ ให้มาหา ทางเฮย์เฮ้าส์ ขอคืนเงินให้ทั้งหมด "

ประมาณนี้ที่จำได้ค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 01/02/2010
อ้าว!
ออกมาจากที่ซุ้มเมื่อไหร่กันเนี่ย
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 01/02/2010
หนึ่งนำบทสรุปความรักตนเองแบบอาจารย์ลูอิสมาฝากคุณอ้อมค่ะ ต้อนรับวาเลนไทม์ค่ะ

ข้อแรก

หยุดตำหนิติเตียน ตนเอง และผู้อื่น การตำหนิติเตียน และการเห็นแต่ปัญหาตลอดเวลา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์หรือการกระทำของคนหรือไม่ได้ทำให้เปลี่ยนแปลงข้อด้อยของตนเองได้ แต่การยอมรับตัวเอง และยอมรับผู้อื่นให้ได้แบบที่เขาเป็น โดยไม่ใช้อีโก้ อัตตา ตัวตน ความคิด โลกของเรา ไปครอบคลุมเขา ต่างหาก ที่สามารถทำให้โลกของเรา และ โลกของผู้อื่น มีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ การตำหนิติเตียนตนเอง และผู้อื่นอยู่สม่ำเสมอ เท่ากับเป็นการวางตนเองเป็นศูนย์กลางของโลก ไม่ได้ทำเพื่อความรัก และหวังดีต่อเขาอย่างแท้จริง ไม่ได้มีความเข้าใจในตัวเรา และไม่ได้เห็นใจ เอาใจใส่ในตัวผู้อื่น และเข้าใจในตัวผู้อื่นว่า เขาก็มีโลกส่วนตัว ประสบการณ์ตรงของเขา มีบทเรียนเฉพาะตัวที่เขาต้องเรียนรู้ในเวลาของเขาเอง ผลลัพธ์ก็คือ เมื่อเขาไม่ชอบเรา เกลียด โกรธเรา ก็เท่ากับเป็นการทำร้ายตัวเราเองไปพร้อมๆกัน เพราะคนทุกคนมีพลังงาน และความสั่นสะเทือน พลังงานลบที่ถูกส่งมาจากผู้อื่น จะเท่ากับพลังงานลบที่เรามีซ่อนอยู่ในจิต ใจ ความคิด ในอารมณ์ความรู้สึกของเราเสมอ ดังนั้นเมื่อใดที่เรายอมรับและรู็้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้อย่างจิตว่าง สบายๆ หรือ ใจเป็นกลาง โดยไม่ติเตียน จับผิด ตำหนิ ตัวเอง เมื่อนั้น เท่ากับเรามีพลังสั่นสะเทือนในความรักจริงๆ ให้กับตัวเราเอง เราก็จะหยุดจับผิด ตำหนิ ติเตียนผู้อื่น เห็นความดีในตัวเราเอง ชื่นชมตัวเองในพื้นฐานของความจริง รวมทั้งสามารถชื่นชม ยกย่องผู้อื่นได้ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในใจเรา เมื่อสิ่งดีดี คำพูดดีดี ความรัก และ ความปรารถนาดีที่มีต่อตนเอง และผู้อื่นได้ถูกส่งออกไป สิ่งเดียวกันย่อมจับคู่กันเสมอ

ข้อที่ 2


ไม่วิจารณ์ตนเองด้วยความคิดวกวน ซ้ำไป ซ้ำมา จากนิสัย ความเคยชินที่ทำบ่อยๆ จนวันหนึ่งกลายเป็นพลังแห่งนิสัย เพราะทำมากเข้าจนกกลายเป็นความคุ้นเคย การวิจารณ์ตนเองโยใช้ความคิดนั้นเป็นหนทางในการดำรงชีวิตที่ไม่เบิกบาน และ เป็นการทำให้ชีวิตทำงานหนักโดยไม่มีความจำเป็น ทางออกของคนที่ชอบระแวง คิดมากไป คิดลบ คือ เปลี่ยนภาพในใจ หรือ โฟกัสกับสิ่งของ ความรู้สึก หรือ ใดๆ ที่ทำให้เบิกบานใจ เบาใจ สบายใจ ในกรณีนี้อาจารย์ลูอิส ใช้การมองดีดอกกุหลาบสีเหลือง ทุกครั้งที่อาจารย์คิดลบ หรือ คิดวกวน อาจารย์จะบอกตนเองให้เปลี่ยนความคิดให้เป็นความคิดและความรู้สึกที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และ ทุกเซลล์ในร่างกายของตนเองแทนการคิดวกวน คิดลบ คิดวิจารณ์ตนเอง หรือวิจารณ์ผู้อื่น จนก่อเกิดเป็นพลังงานลบกระทบชีวิตตนเอง

3. มีความนุ่มนวล เมตตา และ มีความอดทนต่อตนเอง

4. ชื่นชม และเห็นส่วนดีของตนเอง การตำหนิติเตียนตนเอง เสมอๆ เปรียบเสมือนการทำลายความเชื่อมโยงของพลังงานที่ดีจากภายในตัวเรา

5. ให้กำลังใจตนเองสม่ำเสมอ และ สร้างกลุ่มเพื่อนที่มีจิตใจดี เพื่อเกื้อหนุน ซึ่งกันและกัน

6.เมื่อมีความคิดลบผ่านเข้ามา ตั้งสติ และ จับให้ทัน จนเป็นนิสัย และแทนใหม่ด้วยการคิดบวกอย่างสม่ำเสมอ

7. ดูแลรักษาร่างกายของตนเองให้ดี

8. ใช้เทคนิคการพูดกับกระจกว่า รักและกตัญญูต่อทุกลมหายใจ และ ชีวิตของเรา ทุกวัน

9.รักษาใจตนเอง อยู่กับใจตนเอง รักษาระดับความเบิกบาน ให้เป็นนิสัยและความเคยชิน

สรุปไว้เพียงเท่านี้ค่ะ หากใครทำให้ได้เป็นความเคยชิน ความรักและเคารพในตนเองจะทำให้ใจเราเบิกบาน นำสิ่งดีดีมาสู่เรา และเป็นเกราะบ้องกันให้เราตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง เวลาเราพบประเด็นชีวิตได้ดี

ยิ้มแย้มค่ะ



ก้ออยากให้มีคนอ่านง่ะ...เลยลอกมานี่..อิอิ

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 02/02/2010
We’re really now moving into a new era. It’s an era where the last frontier is not space, as Star Trek was saying, but it’s going to be mind.
เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง มันเป็นยุคที่อวกาศไม่ใช่พรมแดนอย่างที่หนังเรื่องสตาร์เทร็คพูดไว้ แต่มันจะเป็นพรมแดนในจิตใจ


ลอกเค้ามาน่ะ

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 03/02/2010
ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้หรือผู้คนที่แวดล้อมคุณ หน้าที่ของคุณคือปล่อยตัวไปตามกระแสภายในของจักรวาล และปลาบปลื้มดื่มด่ำกับสิ่งที่มีอยู่แล้วบนโลกใบนี้ ความจริงก็คือ มีสิ่งดีๆ มากมายเกินพอ มีความปิติสุขมากเกินพอ ทุกสิ่งเหล่านี้จะเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในจิตใจที่รู้ชัดถึงธรรมชาติอันไม่มีที่สิ้นสุดของตน ปรมาจารย์ทุกท่านที่เคยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่างบอกเราว่าชีวิตถูกกำหนดให้อุดมสมบูรณ์

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 03/02/2010
เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะรับฟังการชี้นำจากภายในจิตใจ
มัคคุเทศก์ภายในจะชักนำคุณให้ได้พบกับความปรารถนา
ในวิถีทางที่ง่ายดาย และรวดเร็วที่สุด....

เท่ากับคคุณดำเนินรอยตามกระแสแห่งพลังงานที่ล่องไหลไปตามไปตามธรรมชาติ
เป็นกระแสที่ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ
มันล่องไหลนำพาสู่สรรพสิ่งทั้งหลายที่คุณร้องขอ

การชี้นำจากภายใน จากตัวตนที่สูงล้ำกว่า ซึ่งพูดกับคุณ
ในรูปแบบของความรู้สึก การหลับตามองเห็นภาพ
และสภาวะแห่งการระลึกรู้

การชี้นำภายในนำมาซึ่งข้อมูลข่าวสารจากแหล่งอื่นๆ ที่นอกเหนือการรับรู้ของประสาทสัมผัสทางกาย

ตัวตนที่สูงล้ำกว่าจะเชื่อมโยงสถานการณ์ต่างๆที่จำเป็นต้องสร้างสรรค์
เพื่อให้คุณได้รับสิ่งที่ร้องขอ

จักรวาลนั้นมีระบบปฎิบัติการที่ดีกว่ายิ่งๆขึ้นไปเสมอ
จงน้อมรับสัญญาณแห่งความรู้สึกในการปฎิบัติ...พร้อมกับความสมัครใจด้วยตนเอง

แล้วปฎิบัติตามแรงกระตุ้น และลางสังหรณ์ภายใน


เพราะการรับฟังต่อความรู้สึกที่แรงกล้า และปฎิบัติตาม



...................จะนำพาคุณสู่เป้าหมาย.....................

....................Sanaya Roman.....................


ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 15/02/2010
แม้ว่าวิถีทางแห่งความสุข จะไม่ใช่คำมั่นสัญญาว่า จะได้เงินทองมากมายเท่าไหร่ก็ตาม

แต่!

ในระยะยาวมันก่อประโยชน์โภชผลให้ได้มากกว่าทางเลือกที่
ไม่ก่อเกิดความปลอดโปร่งโล่งสบาย
อย่าตัดสินใจโดยขึ้นอยู่กับว่าเส้นทางนั้น จะทำเงินให้คุณได้มากเท่าไหร่

แต่!

จงปฎิบัติตามวิถีทางที่หัวใจเรียกหาซึ่งจะนำคุณไปสู่ความมั่งคั่งร่ำรวยกว่าเสมอ


....................Sanaya Roman.....................
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 16/02/2010
ถ้าคุณตั้งมั่นอยู่กับขอบเขตที่สูงล้ำกว่า
คุณจะได้รับความช่วยเหลือใดๆก็ตามที่ต้องการ

....................Sanaya Roman.....................
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 17/02/2010
ถ้าคุณปราถนาการชี้นำโดยตรง จงใช้วิธีการนั่งสงบจิต

....................Sanaya Roman.....................
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 18/02/2010


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code