เหตุเกิดเพราะความเหงา
ผมไปอ่านเจอมา จึงอยากแบ่งปัน เชิญอ่านได้เลยครับ
==============================
ถาม – ดิฉันมีความรักกี่ครั้งๆ ก็ล้มเหลวตลอด ไม่เคยสมหวังสักครั้ง ทุกครั้งที่อกหักก็ตั้งใจเสมอว่าจะอยู่เป็นโสด พออยู่คนเดียวไปนานๆ ก็เหงาจนทนแทบไม่ได้ พอมีคนเข้ามาในชีวิตก็เลยยอมคบหาด้วย แล้วก็เจ็บซ้ำๆ มาหลายหนแล้ว อยากรู้ว่าทำอย่างไร ดิฉันจะเอาชนะความเหงาได้สักทีคะ


จริงๆ แล้วความเหงาไม่ได้มีไว้เอาชนะค่ะ
แต่เป็นสภาวะแบบหนึ่งที่เอาไว้ "รู้"
เช่นเดียวกับ โลภ โกรธ หลง อิจฉา ฯลฯ
ถ้าเจริญสติปัฏฐาน โดยเริ่มต้นง่ายๆ
ด้วยการดาวน์โหลดไฟล์เสียงเทศน์ ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ที่เว็บ http://www.wimutti.net/pramote/
มาฟัง แล้วตามรู้ตามดูไปสักพัก
ไม่นานก็จะพบว่าความเหงาก็เป็นเพื่อนเราได้นะคะ : )
และการอยู่เป็นโสดถึงจะต้องเผชิญความอ้างว้างบ้าง
แต่ถ้าเทียบความทรมานจากอาการไม่สมหวังในรักแล้วละก็
ลูกค้าหญิงที่กำลังทุกข์หนักเพราะถูกหักอก บอกว่า "รู้อย่างนี้ยอมเหงาดีกว่า"

จากการได้พูดคุยกับลูกค้าที่มีคู่
สรุปความได้ว่าหลังจากพ้นช่วงข้าวใหม่ปลามันแล้ว
แต่ละคนก็ล้วนต้องพบสารพันปัญหา มากบ้างน้อยบ้าง
บางรายเกือบจะพลีชีวิตอุทิศรักไปเลยก็มีค่ะ (T.T)
จริงๆ แล้วก็มีคนที่ได้คู่ครองที่ประเสริฐอยู่บ้างนะคะ
แต่ก็เป็นส่วนน้อยมากถึงมากที่สุด และก็ยังมีปัญหากระจุกกระจิกอยู่ดีค่ะ
คนมีคู่จึงต้องรับมือกับปัญหาต่างๆ นานา
แต่คนโสดไม่ต้องรับมือกับอะไร
เว้นแต่ทุกข์เรื่องเดียวคือ "เหงา" เท่านั้น

แต่ไอ้เจ้าความเหงานี่แหละค่ะ ที่เป็นแรงขับ
ทำให้หลายคนยอมทำผิดศีลธรรม ยอมเป็นชู้
หรือยอมหวานอมขมกลืนกับความรักแย่ๆ เพียงเพื่อให้หัวใจไม่อ้างว้าง
บางคนยอมให้คนรักมีคนอื่นได้ แต่ขอว่าอย่าทอดทิ้งจากไป
เพราะทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่คนเดียว
ทั้งหมดทั้งปวงนี้หากมองในแง่ของกรรม
ก็จะเข้าใจและเมตตากรุณาต่อกันได้
เพราะว่าดวงชะตาของแต่ละคน บอกได้ว่าเป็นคนขี้เหงาหรือไม่
ด้วยผลของกรรมเก่าที่ทำไว้ ทำให้ต้องมีนิสัยดังกล่าวติดตัวมาในชาตินี้


ลองสังเกตดูนะคะ...
บางคนมีเพื่อนมีครอบครัวแวดล้อมพร้อมหน้า
แต่กลับไม่รู้สึกอิ่ม ไม่รู้สึกอุ่น
ต้องมีแฟนเท่านั้น ถึงจะรู้สึกว่าไม่ขาดแคลน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่มาจากครอบครัวแตกแยก ว้าเหว่
ที่บางคนกลายเป็นคนหิวรัก ยึดมั่นถือมั่นในตัวคนรักมากๆ เลยก็มี
หลายคนที่มีกรรมทำนองนี้ จะวิ่งไล่ไขว่คว้าหารักมาตลอดค่ะ
โชคร้ายก็คือ เมื่อมีความรักเข้ามาในชีวิตแล้ว
ก็กลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ต้องเจ็บช้ำ
หรือบางคนไม่ค่อยมีใครเข้ามาถูกใจชอบพอ
ต้องเป็นฝ่ายแอบรักเขาแต่ไม่สมหวัง

ถึงล้มเหลว ต้องเศร้า เจ็บช้ำระทม
แต่แล้วก็ไปวิ่งหาอีก เจ็บอีก หลายครั้งหลายคราวไม่รู้จบ
บางรายเหงามากจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า
หรือถึงขนาดฆ่าตัวตายเพราะว้าเหว่ก็มี
ยิ่งเดี๋ยวนี้ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวมีความห่างเหินมากขึ้น
บางคนต้องอยู่ในเมืองใหญ่คนเดียว ก็เลยเกิดอาการหนุ่มสาวหัวใจเหงากันเยอะค่ะ

ความเหงา ความอ้างว้าง อยากได้ความรัก
นับเป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชนนะคะ
แต่ถ้ามองในมุมของการปฏิบัติธรรม
ก็จะพบว่าแท้ที่จริงแล้ว ความเหงาและอาการดิ้นรนที่จะมีใครสักคน
ก็คือการแสดงออกซึ่งความ "อยากมีตัวตน" ของจิต
คือต้องการมี "เรา" เข้าไปในความรู้สึกของคนสักคนหนึ่ง
หรือให้คนอื่นเห็นความหมายของ "เรา"
ถ้าไม่มีใครมองเห็นและให้ความสำคัญกับ "เรา"
ไม่มีใครสักคนมารัก “เรา”
ไม่มีใครเห็นคุณค่าของ “เรา”
"เรา" ก็จะทุกข์มาก
แต่...ยิ่งมี "เรา" มากเท่าไหร่...
ก็ยิ่งห่างไกลจากมรรคผลนิพพานมากขึ้นเท่านั้น
เฮ่อ! เล่ห์เหลี่ยมของสังสารวัฏนี่มันเยอะแยะจริงๆ เลยนะคะ (-''-)

แล้วถ้าเหงาจนเป็นทุกข์มาก จะแก้ไขยังไงดี
เรื่องพี่สาวทางธรรมท่านหนึ่งให้แง่คิดกับดิฉันว่า
"ถ้าเหงาแล้วไปหาอะไรทำเพื่อแก้เหงาไปเป็นครั้งๆ
ตรงนั้นก็มีความสุขแบบโลกๆ ไป
แต่ถ้าอยากได้มรรคผล เมื่อเหงาต้อง "รู้" "
(ขอบพระคุณค่ะพี่) ^^v

พูดถึงกิจกรรมที่ช่วยบรรเทาความเหงาได้เป็นอย่างดี
ก็คือการแบ่งปันความรักให้กับผู้อื่นค่ะ
ที่แท้แล้วโลกนี้มีคนที่รอคอยความเอื้ออาทรอยู่มากมาย
ทั้งเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า คนชราที่ถูกทอดทิ้ง คนป่วยอนาถาที่ไร้คนเหลียวแล ฯลฯ
ลองเปลี่ยนบทบาทดูดีไหมคะ
จากเดิมที่เป็นฝ่ายอยากได้รับความรักจากคนอื่น
และเลือกที่จะให้กับคนที่ไม่ได้อยากได้รับจากเรา
ซึ่งทำให้ต้องผิดหวังเสมอมา
พลิกบทบาทมาเป็นฝ่ายที่แบ่งปัน
มอบความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้ที่พร้อมจะรับ
การได้ช่วยให้ความอบอุ่นแก่หัวใจดวงอื่น
ก็จะทำให้หัวใจดวงนี้ของเรา...อิ่มและอุ่นขึ้นเช่นกันค่ะ (^_^)

ถ้าอยู่คนเดียวอย่างมีความสุขแล้ว
จะมีคู่หรือไม่มีคู่ก็ไม่ได้ต่างกัน
เพราะเรายึดธรรมะเป็นที่พึ่ง
มีชีวิตได้อย่างมีความสุขด้วยตัวเองแล้วค่ะ
ชื่อผู้ส่ง : ผู้อ่าน ถามเมื่อ : 15/01/2010
 


“ชาย หญิงไม่ได้มาจากดาวคนละดวง คนทั้งปวงเกิดจากความไม่รู้อันเดียวกัน ตลอดจนมีเหตุผลในการดำเนินชีวิตเหมือนๆกัน นั่นคือกิเลสสั่งให้ทำอะไรก็ทำ สำนักพิมพ์ฮาวฟาร์หวังว่าหนังสือ ‘รักแท้มีจริง’ จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจเหตุผลที่ถูกต้องของการพบรักแท้” จาก หนังสือ รักแท้มีจริง
จากประสบการณ์ที่เรียนรู้มาด้วยตนเอง จากคนรอบข้าง รวมทั้งที่เรียนมา
ความรักก็เป็นนามปรากฎของกรรมอย่างหนึ่งนะคะ เหมือนที่บางคนเกิดมาหล่อ รวย มียศ หน้าตาธรรมดา
กรรมที่เราทำเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้เราไปเจอไปตกหลุมรักคนที่จะพาเราให้เป็นไปตามกรรม

เวลา ที่เหงาเป็นช่วงที่ใจโหยหาความรัก มันง่ายมากๆที่ใจเราจะอ่อนแอและพาตนเองให้เป็นไปตามกรรม และหลายครั้งไมม่ได้ดึงไปรับกรรมอย่างเดียว แต่ดึงเราไปสร้างกรรมใหม่ ที่จะทำให้เราเดือดร้อนตามมาในภายหลังได้
เวลาที่เหงา เมื่อเจอใครสักคนหนึ่ง(ที่เหมือนจะดูดีซึ่งแท้ที่จริงก็เพราะกรรมบันดาล) จะเกิดแรงดึงดูด
ยิ่ง มีแรงดึงดูดมาก ก็ยิ่งต้องระวัง เพราะจิตที่ดี ที่เป็นกุศล สงบ จะไม่มีภาวะเร่าร้อน และแรงดึงขนาดน้าน (สังเกตุเอาจากหลักธรรมชาติง่ายๆก็ได้ค่ะ โลกมีแรงดึงดูด ดึงดูดลง หรือว่าขึ้น )
ความอยากมีใครสักคนนั้นจะเป็นแรงผลักดันให้เราวิ่งทะยาน
แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จิตใจที่เหงา เศร้าหมอง จะดึงดูดคนดีๆที่เป็นสีขาวเข้ามาในชีวิต
ด้วยหลักความจริงของธรรมชาติคือ จิตจะดึงดูดสิ่งที่คล้ายกันเข้ามา

ด้วยเหตุนี้ ถ้าอยากมีความรักดีๆก็ต้องทำใจให้เป็นกุศล สว่าง ขาว เข้มแข็ง มีคำแนะนำ 2วิธีนะคะ
1. ทำบุญและกุศลให้จิตสว่าง ขาว ช่วงไหนอ่อนแอให้กลับมาดูแลใจตนเองก่อน อย่าเพิ่งหาใครดูแล
เพราะ คนบนโลกมีสภาพแบบเดียวกันคือ “เหงา” ต้องการหาที่พึ่ง ต้องการคนมาบอกว่าเรามีตัวตน การที่เราอ่อนแอ ก็เหมือนเราเอาภาระไปให้คนอื่น การพึ่งพาคนอื่นมากๆเป็นผลเสียต่อคนอื่นหรือต่อตนเอง? เริ่มแรกดูเหมือนจะเป็นผลเสียของอีกฝ่ายค่ะ แต่ต่อมามันก็เป็นผลเสียต่อตัวเรา คือ ต้องเข้าหรอบเดิม ใจที่หาที่พึงจะมีความอยากได้ อยากเอา จะทำให้อีกฝ่ายอึดอัดอันนี้สร้างกรรมใหม่กับคนอื่น อีกทางคือ พึงคนอื่นมากๆเราก็จะยิ่งอ่อนแอ
จำไว้ว่าเราจะเข้มแข็งขึ้นได้ด้วยการพึ่งตนเองได้ ไม่ใช่มีคนอื่นมาให้พึ่งนะคะ

2. วิธีนี้เป็นประโยชน์มาก และอาจารย์ชี้ให้เห็นอีกที การรู้จักเรียนรู้ ภาวนาจนจิตใจมีความเข้มแข็ง มีอุเบกขาและเป็นกลางจะทำให้เราสามารถใช้สติปัญญาอย่างมีเหตุผล ไม่หลงตัดสินใจไปตามอารมณ์หรืออำนาจกิเลสที่จะเป็นตัวพาเราไปรับกรรมเก่าๆ
การ เห็นทุกอย่างอย่างเป็นกลาง เห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง ไม่มีอคติ ใจตรงนี้ก็เป็นกุศลอีกอย่างหนึ่งซึ่งจะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ดีว่าใคร ที่เป็นคนดีและมีความเหมาะสม ความรอบคอบไม่ด่วนตัดสินใจจะไม่พาเราไปจมปลักกับหลุมเดิมๆ

หวังว่าไอเดียตรงนี้จะพอเป็นแง่คิดให้เราตื่นขึ้นมาได้บ้างจากความรักที่เป็นทุกข์นะคะ
แนะนำอ่านหนังสือเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรัก “รักแท้มีจริง” ของ คุณดังตฤณค่ะ ^^
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 15/01/2010
ผมแถมนิทานให้อีกเรื่องนึงแล้วกันนะครับ
ชื่อเรื่องว่า The Missing piece meets the Big O

(เนื่องจากเว็บนี้ โพสคลิบไม่ได้ จึง post ที่ youtube นะครับ)

http://www.youtube.com/watch?v=kxTIIORnYco


เรื่อง นี้สอนให้รู้ว่า ตราบที่เรามัวแต่หาคนที่มาเติมเต็มให้เรา เราก็จะไม่มีวันที่จะเต็มได้ด้วยตัวของเราเอง แล้วถ้าวันนึงมีเหตุให้สิ่งหรือคนที่เติมให้เราเต็มไม่อยู่ หรือจากไป เราก็ต้องตกกับภาวะ ไม่ถูกเติมเต็ม หรือเหงาอย่างเดิมครับ
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 15/01/2010
เรื่องความรักล้วนๆ เลยครับคุณผู้อ่าน .. เนื่องในวันวาเลนไทน์ เหรอครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 16/01/2010
แวะเข้ามาอ่าน
กำลังเหงา แค่ "รู้" ก็พอ
ขอบคุณค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : kunk ตอบเมื่อ : 18/01/2010
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดี..หรือว่าโชคร้าย
ที่ไม่เคยรู้จัก..ความเหงา..เลย
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 25/01/2010
โชคร้ายครับ คนเราเกิดมา ควรต้องได้ลิ้มรสชาติครบ ทั้ง "เหงา เศร้า และรัก" (ฮา)
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 27/01/2010
อ้าว! โชคร้ายเหรอคะ?
แอบคิดว่าโชคดีซะอีก
เพราะมันจะไม่มีการเกิด.....เหตุเกิดเพราะความเหงาน่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 27/01/2010
อ่านแล้ว ..มันก็คล้ายๆกับอดีตที่ผ่านมา และยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจมากขึ้น จริงแฮ่ะ
ชื่อผู้ตอบ : สิ่งเล็กๆๆ ตอบเมื่อ : 05/02/2010


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code