(อีกครั้ง) ขอเชิญเข้าร่วมเรียนรู้ " ศาสตร์แห่งนพลักษณ์ รู้เขา รู้เรา รักร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง "
สวัสดีชาวนันท์บุ้คทุกท่านทั้งขาประจำ ขาจร ขาซ้าย ขาขวา ขามา ขาไป ทุกๆ ขาค่า และก็ขอสวัสดีบุคคลท่านใดก็ตามที่เผอิญผ่านมาที่ทางแถวนี้ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ขอบอกว่าคุณมาถูกทางแล้ว

ค่ะ อย่างที่กระทู้ก่อนหน้านี้ 2-3 กระทู้ได้เกริ่นกล่าวว่าเราชาวนันท์บุ้ค (บางส่วน) ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมการเรียนรู้ว่าด้วยศาสตร์แห่งนพลักษณ์ขึ้น วัตถุประสงค์หลักเพื่อเรียนรู้นพลักษณ์ศาสตร์ องค์ความรู้เก่าแก่ที่เกิดขึ้นแถบเอเชียกลางใกล้ๆ เรานี่เอง ที่ศึกษาถึงบุคลิกภาพแก่นแท้ของมนุษย์เพื่อเป็นพื้นฐานนำไปสู่การยกระดับจิตวิญญาณของตน ส่วนวัตถุประสงค์รองก็เพื่อจะได้พบปะเจอะเจอหน้าค่าตาจริงๆ เสียงจริงๆ (ของพวกเราสักที คราวนี้ใครมาให้เรายลโฉมเราก็จะโยนจินตนาการ (บรรเจิด) ทิ้งไปเสียได้ อิอิ) หลังจากที่เราได้ร่วมพูดคุยแบ่งปันกัน ณ พื้นที่สีขาวแห่งนี้ร่วมกันมาเป็นแรมปี

ด้วยเหตุผลทั้งในและเหนือเหตุผลต่างๆ สุดจะกล่าว อย่างหนึ่งที่ไม่มีวันพลาดคือเราอยากมีเพื่อนร่วมกิจกรรมการเรียนรู้นี้ไปพร้อมๆ กันกับเราค่ะ ดังนั้นท่านใดที่อายุเกิน 25 ปีแล้ว และสนใจอยากร่วมกิจกรรมนี้ด้วยกันกับเรา ขอเชิญทางนี้ค่ะ

โดยงานจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม2552 เวลา 09.00-17.00น
ณ K-U home ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ
ค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้สำหรับค่าสถานที่และอาหารว่าง จำนวน 400/คน
กรุณาแจ้งรายชื่อที่ dadeeda2022@gmail.com
และโอนเงินภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2552 บัญชีธ.กรุงไทยฯ สาขาถ.วิภาวดี-รังสิต5 บัญชีเลขที่ 019-0-02527-1 ชื่อบัญชี น.ส.ศิราณี ลาตีฟี

และกับคำถามที่อาจเกิดมีขึ้นว่า ศึกษานพลักษณ์กันไปทำไม? เพื่ออะไร? ได้อะไร? ฯลฯ นั้น dadeeda ขออนุญาตคัดลอกข้อความมาจากสมาคมนพลักษณ์แห่งประเทศไทยนะคะ
" จุดประสงค์ของการศึกษานพลักษณ์ในอันดับแรกคือ เพื่อเข้าใจตนเองและเปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อให้ตนพ้นจากความทุกข์ที่ครอบงำชีวิต ซึ่งเกิดจากวิธีคิดและพฤติกรรมที่เป็นพิษกับตนเอง
จุดประสงค์รองลงมาคือ การเข้าใจโลก เข้าใจผู้อื่น แต่มิใช่เพื่อไปตั้งแง่รังเกียจและเพิ่มความมีอคติต่อเขา หรือหวังที่จะเปลี่ยนแปลงเขาให้ได้ดังใจ (กิเลส) ของเรา แต่ความเข้าใจในผู้อื่นที่ได้จากความรู้นพลักษณ์นั้น ก็เพื่อใช้ในการเปลี่ยนแปลงตัวเราเองอีกเช่นกัน "

รูปแบบกิจกรรมเป็นอย่างไร? ใครเป็นวิทยากร? วิทยากรมีกี่ท่าน? สถานที่จัดโอเคมั้ย? และอีกหลายหลากที่อาจเป็นคำถามค้างคาใจบางท่าน dadeedaบอกได้แต่เพียงว่า ถ้าตกลงใจเข้าร่วมกิจกรรมนี้ร่วมกันแล้ว อย่างอื่นจะเป็นไปก็ปล่อยให้มันเป็นไปก่อนเถิดค่ะ วิทยากรจะเป็นใครเช่นไรมีความรู้ด้านนี้ลึกซึ้งมากน้อยแค่ไหนเพียงใดนั้น ก็ปล่อยให้มันเป็นไปเถิดค่ะ และประเดี๋ยวผู้ร่วมแรงร่วมใจก็จะขันอาสามารายงานท่านผู้ชมต่อไปเอง

โปรดอย่ารอคอย แต่จงติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน (นี่ก็วาทะบรรณาธิการมติชนสุดฯเค้าค่ะ ขอลอกมาใช่ก่อน อิอิ)
ชื่อผู้ส่ง : dadeeda ถามเมื่อ : 30/07/2009
 


ขออ้างถึง ความหมายการเรียนรู้ ที่ประทับในใจ จากนิยามสั้นๆจากอาจารย์วสันต์ที่ให้ไว้

ว่า

เป็นความรู้เกิดจากการนับ.......หรือเกิดจากการวัด
นับ(นับว่าผ่านกี่ปริญญา กี่หลักสูตร)
วัด(วัดว่านำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้,วัดว่านำมาเป็นแบบอย่างได้)

ก็คงขอบอกกล่าวกันว่า วิทยากร มีความรู้ในศาสตร์นี้จากการวัดค่ะ
เพราะเธอนำมาใช้ในครอบครัว/ทีมงาน/ลูกค้า

ขอเชิญชวนผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ.....มาเริ่มที่การนับ....แล้วไปต่อที่การวัดด้วยกันนะคะ

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 30/07/2009
ผมอายุไม่ถึงเกณท์
ทำไงดีครับ
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 31/07/2009
น่านน่ะสิ แหม อยากให้น้องผู้อ่านเข้าร่วมด้วยจังทำงัยดี
แต่ หลักเกณฑ์ก็ต้องเป็นหลักเกณฑ์เนอะ
แต่สำหรับพี่dadeeda กฎ เค้ามีไว้ให้เรา แหก อ่ะ

อุ๊บ !! รู้สึกจะมีคนค้อนเราอ่ะ แหะแหะ

คุณน้องผู้อ่านก็ต้องรอนิ๊ดสนะค๊า ถ้าสนใจจริงจังระหว่างนี้ก็อยากให้ลองหาข้อมูลศึกษาเรื่องราวไปก่อนก็ได้ค่ะ ค่อยๆ เก็บค่อยๆ กำความรู้บ่มเพาะมันเอาไว้เมื่อถึงเวลาตามเกณฑ์และยังให้ใจกับศาสตร์นี้อยู่ ถึงตอนนั้นก็ค่อยเข้าร่วมอบรมเป็นเรื่องเป็นราวดีมั้ยเอ่ย

ชื่อผู้ตอบ : dadeeda ตอบเมื่อ : 01/08/2009
เกือบลืม ว่าจะเข้ามาแจ้งเบอร์ติดต่อdadeedaไว้ เผื่อมีบางท่านไม่สะดวกแจ้งทางอีเมล์

เบอร์dadeedaนะคะ 081-6197085
ชื่อผู้ตอบ : dadeeda ตอบเมื่อ : 01/08/2009
จุ้ .. จุ้ .. .
คุณผู้อ่านครับ ไม่มีใครเขาตรวจบัตรประชาชนหรอก
แกล้งทำหน้าแก่เข้าไว้เป็นใช้ได้
แล้วผมสัญญาว่าจะไม่บอกใครด้วยครับ
เพราะผมเอง (รวมทั้งคุณ dadeeda) ก็ไม่รู้หรอกว่าคุณผู้อ่านหน้าตาเป็นยังไง
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 01/08/2009
ผมนึกว่าตรวจ เหมือนเข้าสถานบันเทิง

เดี๋ยวอยู่ดีๆ สั่งปิดประตูเปิดไฟสว่าง ตรวจบัตรผมก็แย่ดิครับ
อายุก็ไม่ถึงดันทะลึ่งมาสัมมนาอีก.....ริอาจ จริงๆ

คุณนันท์ไม่รู้ คุณดาดีดา ไม่รู้ แต่ฟ้ารู้ดินรู้ ที่สำคัญ ฟาง ก็รู้ด้วย ไม่รู้ว่าฟางจะเฉลยป่าว
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 02/08/2009
ได้เข้าไปเวปของจิตตปัญญาศึกษาของ ม.มหิดล เห็นเคยมีอบรมเรื่องนพลักษณ์ด้วย เลย copy มาให้ดูเป็นข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ...

การอบรมเชิงปฏิบัติการ นพลักษณ์ เพื่อการตื่นรู้และวางทุกข์

"กระบวนการที่สำคัญประการหนึ่งคือ การดึงศักยภาพและลดจุดต่าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระบวนการสื่อสารและวิธีการทำงาน อันเป็นรากฐานที่บุคลากรเข้ามาทำงานร่วมกันในองค์กร ซึ่งหากดำเนินไปอย่างขาดการจัดระบบ ขาดการจัดวางอย่างเหมาะสมกับสภาพภาระงาน โดยไม่ตระหนักถึงบุคลิกภาพของบุคลากรที่เป็นพื้นฐานเบื้องหลังของวิธีการทำงานของแต่ละคนแล้ว ก็อาจทำให้ไม่สามารถบรรลุดังที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ และยังอาจเกิดปัญหาความขัดแย้งได้ในทุกระดับ ดังนั้นในการฝึกอบรม "นพลักษณ์" ผู้เข้าอบรมจะมีโอกาสเรียนรู้กระบวนการก่อรูปบุคลิกภาพ โลกทัศน์ จุดยึดติดทั้งทางความคิด อารมณ์ และสัญชาติญาณของตนเอง กับเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างคนที่มีลักษณ์ (ลักษณะ) ต่างกัน ก่อให้เกิดความเข้าใจตนเอง และคนอื่นอย่างถึงแก่น สร้างมิตรภาพที่ลึกซึ้งบนพื้นฐานของความเข้าใจกันและกัน และในอนาคตเมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างการทำงาน ก็สามารถให้อภัย เปิดใจกว้าง ยอมรับความแตกต่างเหล่านั้นได้มากขึ้น และร่วมแรงร่วมใจกันผลักดันองค์กรให้มีคุณภาพมากขึ้น"

ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 07/08/2009
ได้เคยแวะเข้าไปในเวบ จิตตปัญญาศึกษาของ ม.มหิดล เหมือนกัน แต่ไม่ทันได้อ่านข้อความที่คุณนพรัตน์ ยกมา ขอบคุณครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 08/08/2009
ขอมาแสดงความขอบคุณ คุณคนขอนแก่น (พร้อมภรรยา) อีกครั้ง ! สำหรับการทำสิ่งดีๆ ร่วมสร้างประโยชน์ ให้ความรู้เรื่อง ศาสตร์แห่งนพลักษณ์ กับทุกคนอย่างเป็นกันเอง และด้วยมุทิตาจิตจริงๆ และสงสัยคุณคนขอนแก่นคงต้องเดือดร้อนอีก เพราะเห็นมีการติดต่อขอไปนอกรอบแบบเต็มหลักสูตรกันอีก

ขอขอบคุณคุณแฟนพันธุ์แท้ ผู้เป็นผู้ริเริ่มงาน คุณนพรัตน์ และคุณ dadeeda ที่ร่วมแรงดำเนินการ และทุกๆ ท่านที่ได้ไปร่วมกัน รู้จักกัน ทั้งหน้า และอายุ (ที่ผมดีใจมาก ที่ไม่ได้เป็นคนแก่ที่สุด แถมมีคนอายุเท่าหรือไล่เลี่ยกัน อีกตั้งหลายคน)

และสุดท้ายได้รู้ตัวแล้วว่าเป็นคนลักษณ์ 9 ผู้ประสานไมตรี ครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 16/08/2009
มาขอบคุณด้วยค่ะ ถ้ามีแบบเต็มหลักสูตรอย่าลืมบอกกันด้วยนะคะ

ขอบคุณ คุณdadeeda ได้เจอตัวเป็นๆ แถมได้กอดด้วย รู้สึกดีมากค่ะ คุณแฟนพันธุ์แท้ก็สุดยอดค่ะ เฮ้วดีสมกับเป็นคนลักษณ์ 8

ประทับใจคุณนันท์มากค่ะ ตอนเจอครั้งแรกที่งานเกิดมาเพื่อสำเร็จไม่ค่อยได้คุย ด้วย ดูคุณนันท์เป็นคนเงียบๆ ขรึมๆ....แต่ไปครั้งนี้ได้รู้จักมากขึ้นคุณนันท์แซวเก่งไม่เบาเลยค่ะ แถมยังดูอบอุ่นอีกด้วย

ยังได้รู้จักเพื่อนใหม่อีกหลายคน ไปครั้งนี้คุ้มมากค่ะ

ปล. ก็เพิ่งรู้ตัวเองเหมือนกันค่ะ ว่าคนลักษณ์ 9 เป็นแบบนี้....
ชื่อผู้ตอบ : เอ๋ ตอบเมื่อ : 16/08/2009
ทีแรกว่าจะตั้งกระทู้ใหม่ แต่มาเห็นว่าคุณนันท์กับคุณเอ๋เข้ามาแล้วที่กระทู้นี้ งั้นคงไม่ต้องไปเปิดใหม่ก็ได้ค่ะเพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ตรงไหน สิ่งที่อยากจะบอกจากใจของผู้เข้าร่วมรับการอบรมนพลักษณ์ทุกคนเมื่อวานนี้คือ ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณคุณคนขอนแก่นวิทยากรหนึ่งเดียวที่ดำเนินการบรรยายทั้งวันแบบไม่น่าเบื่อแถมชวนติดตามให้รู้ลึกซึ้งก้าวไปในขั้นต่อไปอีกด้วยแน่ะ และdadeedaเชื่อมั่นว่าคุณคนขอนแก่นคนลักษณ์ 7 ที่พัฒนาไปไกลแล้วสามารถที่จะดึงเอาจุดเด่นของคน 7 คือการเชื่อมโยงเรียงร้อยสิ่งต่างๆ เกิดเป็นสิ่งใหม่ที่ดีงาม ง่ายๆ สบายๆ แล้วแบ่งปันให้ไปกับผู้อื่นได้มากกว่ามาก อย่างที่คุณขอนแก่นได้กระทำมันอยู่นี่งัยคะ ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ และที่ขาดไม่ได้ขอบพระคุณคนข้างกายใจคุณคนขอนแก่นด้วยนะคะ เธอน่ารักเหมาะเจาะกับคุณคนขอนแก่นมาก เป็นส่วนส่งเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ดียิ่ง เป็นพลังงานแห่งความรักที่dadeedaสัมผัสได้โดยที่คุณคนขอนแก่นกับพี่ใจไม่ต้องจิ๊จ๊ะหวานเจี๋ยบแต่อย่างใดเลยค่ะ

ขอบพระคุณพี่แฟนพันธุ์แท้ที่ริอ่านจัดให้มีการอบรมนี้ ทั้งที่ระหว่างทางมีเรื่องราวมากมายซึ่งถ้าเธออยู่ของเธอเฉยๆ ที่เชียงใหม่ ไม่คิดริเริ่มที่จะทำอะไรดีดีแบบนี้ร่วมกันกับคุณคนขอนแก่น dadeedaก็จะยังคงไม่ได้มีโอกาสเป็นผู้ประสานงานอะไรแบบนี้ (ทั้งที่การร่วมเป็นผู้จัดหรือผู้ประสานงานนั้นมันได้เคยเกิดขึ้นในกระบวนการคิดข้างในจิตdadeedaมาก่อนนานแสนนานแล้ว) ไม่นึกฝันว่าสิ่งที่เราคิดเราเชื่อเราก็จะได้ไปมีประสบการณ์กับสิ่งนั้นอย่างแน่นอน นี่ยิ่งยืนยันตอกย้ำไม่รู้ว่าครั้งที่ไรแล้วของกฎแห่งการดึงดูด การเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าถึงเป้าหมายแต่ปล่อยวาง ไม่ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดปวดประสาท ไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร ลืมไปแล้ว อ้าว สุดท้ายแล้วก็ได้มามีประสบการณ์อยู่นี่งัย ขอบคุณจริงๆ ค่ะ และตอนนี้dadeedaก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำมัยคุณพี่แฟนฯจึงเป็นคนที่ทำแบบนี้ มองโลกแบบนี้ พูดแบบนี้ รู้สึกแบบนี้ แบบที่คน 7 อย่างdadeedaได้แต่รับรู้แต่ไม่เคยเข้าใจเลยถ้าไม่ได้มาเรียนรู้ร่วมกันกับคน 8 อย่างพี่แฟนฯ หยั่งเพื่อนซี้ของdadeedaเองที่ก็เป็นคน 8 เหมือนกัน

ขอบพระคุณคุณนันท์มากมายค่ะ ให้ขอบพระคุณเท่าไหร่ก็คงต้องขอบพระคุณกันอยู่เรื่อยๆ ไปนั่นล่ะค่ะ เพราะมีแต่สิ่งดีดีที่คุณนันท์ได้ทำมันลงไปด้วยจิตแห่งรัก อืมมม dadeedaหายเกร็งคุณนันท์แล้วล่ะค่ะแต่ไม่ขอกอดด้วยหรอกค่า (เขิรรรรรรรรรร อิอิ) คุณนันท์ตล๊กตลกค่ะ ตลกแบบคุณนันท์น่ะ ปล่อยมุกตลอด เอ รึนี่จะเป็นวิธีการที่คุณนันท์เริ่มทดลองใช้เพื่อชลอวัยกันแน่คะ 5555

ดีใจได้ป๊ะตัวจริงเสียงจริงของคุณนพรัตน์สักที ความเป็นคน 5 ของคุณนพรัตน์นั้นชัดเจนในตัวเองดีจังค่ะ ชอบตอนอยู่ที่ร้านอาหารตอนที่คุณนพรัตน์ถอดแว่นแขวนไว้บนหัว (จะเขียนยังไงให้มันอ่านดูดีคะเนี่ย) อ่ะ นั่นล่ะค่ะ รู้สึกถึงความผ่อนคลายเป็นกันเองขึ้นมากอีกมากกว่าตอนอยู่ที่ห้องอบรมน่ะค่ะ มองเห็นแสงหรือที่เค้าเรียกว่าออร่าน่ะค่ะหรือพลังงานดีคะนั่นล่ะค่ะ รู้สึกได้ถึงพลังงานที่ดีค่ะ รู้สึกดีค่ะ

.....ขอบคุณน้องดีนคน 1 ผู้สมบูรณ์แบบที่เดินทางไปกลับเชียงใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ ไปไม่ลามาไม่ไหว้เลยนะคุณน้อง อ่ะ ล้อเล่น อดให้ข้าวเกรียบไปกินเลยอ่ะ
.....ขอบคุณรอยยิ้มหวานๆ ของคุณหน่อยคน 1 สงสัยถูกเจ้านายใจร้ายบีบให้มาใช่มั้ยคะ ทีหลังอย่าไปกลัวนะคะจริงๆ แล้วเจ้านายคุณหน่อยคนเนี๋ยใจดีแสนดี แหม คุณหน่อยก็ทราบดีนี่นา อิอิ ดีใจที่ได้ส่งและรับรอยยิ้มจากคุณหน่อยค่ะ มองตรงไปทีรัยสดชื่นทุกที
.....ขอบคุณคุณอรคน 3 แบบอย่างของผู้มากความสามารถ ตรง กล้าคิด กล้าถาม กล้าแสดงออก ตอนแรกdadeedaคน 7 ที่ไม่ชอบให้อะไรมันชักช้าก็รู้สึกเบื่อกับการช่างพูดช่างซักมากมายของคน 3 แต่dadeedaมาเพื่อเรียนรู้ผู้อื่นเรียนรู้ตัวเอง คุณอรคน 3 เป็นเช่นนี้ คน 7 หยั่งdadeedaจะมีสุขในวิถีได้อย่างไร มันเป็นพัฒนาการที่น่าสนใจมากค่ะ
.....ขอบคุณพี่ฟ้าที่เป็นพิธีกรปิดเปิดการอบรม dadeedaไม่ทันเห็นช่วงเช้าว่างานเริ่มต้นอย่างไร ฟังจากพี่แฟนฯเธอบอกว่าพี่ฟ้าทำหน้าที่ได้ดีสมกับเป็นพี่ฟ้าจริงๆ ค่ะ ถ้าdadeedaไม่รู้จักกรอบวิธีคิดแรงผลักและความเชื่อของคน 5 dadeedaก็ตัดสินใจจากปกแดงเล่มนี้ว่า เค้าคงไม่อยากยุ่งกับใครงั้นเราอย่าไปยุ่งกะเค้าเลย dadeedaเข้าใจแล้วล่ะค่ะ พี่ฟ้าน่ารักออก คุณนพรัตน์ด้วย คน 5 น่ารักมากขอเพียงเข้าไปเปิดอ่านอย่าได้ด่วนตัดสินไปล่วงหน้าแค่ตาเห็นค่ะ
.....ขอบคุณเพื่อนร่วมชะตากรรม 5555 คน 7 ผู้ฝันล้น บ้าพลัง ไฮเปอร์ จอมโปรเจคท์ เจ้าความคิด จอมขายฝัน มุ่งไปสู่ความสุข มุ่งไปข้างหน้าเพียงเพราะมันมีคำว่า "สนุก" ห้อยอยู่ โถโถโถ ให้ที่แท้พวกเรานั้นมีแรงขับมาจากความกลัวที่จะปราศจากซึ่งอิสรภาพ เสรีภาพนั่นเอง รู้และเข้าใจตัวเองขึ้นอีกมากมายพะเรอเกวียน ตอบโจทย์ที่เคยเกิดขึ้นกับใจถึงทุกสิ่งอย่างที่มุ่งมุ่งไปทำ ทำ ทำ และทำ และก็เบื่อ เบื่อ และเบื่อ และอีกเรื่องราวหลากหลายที่คน 7 สรรสร้างให้มันเป็นไป ขอบคุณพี่อ้อม เล็ก พี่พัฒน์และลูกสาว โอ๊ต ที่ทำให้dadeedaรู้ว่ามนุษย์แบบdadeedaนั้นมีอยู่ พวกที่บ้าพลังไฮเปอร์และเบื่อง่ายในเวลาเดียวกัน ดีใจที่ได้เรียนรู้จักกันนะคะ และเชื่อว่าเราคน 7 ทุกคนจะพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศในความโดดเด่นของตัวเองค่ะ

ขอบคุณน้องเหมียวและพี่แฟนฯคน 8 รู้จักคน 8 รู้จักพี่แฟนมากเข้า ทำให้dadeedaเพิ่มความเข้าใจให้กับเพื่อนสนิทชิดเชื้อของตัวเองมากกว่ามาก ขณะอบรมช่วงเช้าถึงกับอยากให้คุณเพื่อนมาร่วมเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เสียดายที่เพื่อนติดงาน แต่ก็ไม่เป็นไรdadeedaเข้าใจถึงแรงผลักและกรอบการมองโลกของคน 8 เพิ่มขึ้นแล้ว ก็จะนำไปใช้ไปเรียนรู้ไปเติบโตกับเพื่อนซี้เกลอสนิทสองสหายคู่หูดูโอในวิถีแห่งการเดินทางไปของเราร่วมกันค่ะ
.....ขอบคุณคน 9 พี่อิ๋ว คุณนันท์ คุณเอ๋ คุณเดือน น้องเพื่อน และคุณสุรัตน์ ที่เป็นเสมือนผู้ประสานทุกผู้คนให้เชื่อมโยงถึงกันด้วยรักและความเข้าใจ ถ้าโลกนี้ไม่มีคน 9 ยังสงสัยว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไร คน 9 น่ารักและดูใจดีทุกคนเลยค่ะ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้อบรมนพลักษณ์ ไม่ได้รู้จักนพลักษณ์ ไม่ได้อยากจะสนใจนพลักษณ์ รู้จักแต่ไม่ได้สนใจนพลักษณ์ อาจจะงงๆ เงงๆ ว่าอะไรกันนักหนามาแบ่งพวกนั้นพวกนี้เป็นเลขโน้นนี้นั้น ไอ้เท่าที่มีกันอยู่ตอนนี้ยังไม่เพียงพออีกหรือ ค่ะ นพลักษณ์มันก็เป็นทฤษฎีอย่างหนึ่งนั่นล่ะค่ะ จะบอกว่าเป็นเครื่องมือก็ได้ เครื่องมือที่มนุษย์คิดขึ้นพัฒนาต่อยอดมันขึ้นมาจากครั้งบรรพกาล ค่ะ dadeedaไม่ได้จะกะเกณฑ์ให้ทุกคนมุ่งติดกับตัวเลขเหล่านั้น ไม่ได้จะแยกพวกเขาพวกเราถ้าหลงไปมองอย่างผิวเผินเข้า นพลักษณ์อาจเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด หรือไม่ดีที่สุด มันก็เป็นเพียงแค่เครื่องมือค่ะdadeedaมองว่าแบบนั้น สำหรับdadeedaแล้วมันเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้ทีเดียวเชียวถ้ารู้จักที่จะพัฒนาไม่ใช่ไปติดยึดกับตัวตนแห่งลักษณ์หรือกับอะไร คุณคนขอนแก่นมีจัดอบรมอีกเมื่อไหร่แจ้งด้วยนะคะจะตามไปค่ะ จะพาเจ้าเพื่อนซี้ไปด้วยให้ได้เพราะเธอบอกว่าคราวหลังจะไม่พลาดเช่นกัน

ขอบคุณและขอบคุณที่เข้าไปมีประสบการณ์อันเกิดจากการแผ้วถางทางมาจากภายในใจของdadeedaเอง
ชื่อผู้ตอบ : dadeeda ตอบเมื่อ : 16/08/2009
ขอบคุณคุณนันท์เจ้าบ้าน ขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับความใจดีของคนลักษณ์ 9 และ DVD ของ Deepak Chopra

ขอบคุณคุณคนขอนแก่น ขอยกขึ้นเป็นคุรุอีกคน บนเส้นทางแห่งการพัฒนาภายในตน ช่วยให้เกิด Aha! moment ได้ดีเหลือหลาย เมื่อวานได้เรียนรู้ ตระหนัก และ ค้นพบหลายสิ่งหลายอย่าง พบคำตอบ..ตอนที่ไม่คาดหวังว่าจะได้คำตอบ ในวันและเวลาที่ไว้ใจชีวิตและปล่อยวาง

ขอบคุณผู้จัด ผู้ประสานงาน ผู้เข้าร่วม กัลยาณมิตรทุกท่านด้วยค่ะ

เสียดายที่โพสต์รูปถ่ายใน web นี้ ไม่ได้ สวยๆหล่อๆทุกคน ขอได้ที่คุณ dadeeda ค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : อ้อม ตอบเมื่อ : 16/08/2009
เมื่อวานคุยกับคุณนันท์ว่าที่พื้นที่สีขาวนี้มีการแนะนำหนังสือดีๆ บอกต่อ และพูดคุย ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆ ช่วยให้หาหนังสืออ่านได้ถูกใจจริงๆ ต้องขอบคุณสมาชิกทุกท่าน

------
สำหรับ Link แนะนำหนังสือกลุ่มจิตวิวัฒน์ หรือจิตตปัญญาไปที่http://www.jitwiwat.org/databases/root.htm
http://onehundredfirst.blogspot.com/

Link บทความอาจารย์สุมน http://www.jitwiwat.org/docs/articles/index_2548.htm
ชื่อผู้ตอบ : อ้อม ตอบเมื่อ : 16/08/2009
เป็นวิธีลดความเกรงขาม และชลอวัย จากที่ถุกกล่าวหา หลังงาน "เกิดมาเพื่อสำเร็จ" ครับ คุณเอ๋ และคุณ dadeeda
พอไปได้ไหมครับ ว่าแต่ตลกแบบคุณนันท์ นี่มันยังไงครับ แบบที่เขาเรียกว่า มุข กระบือๆ หรือ เปล่าครับ .. !!
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 16/08/2009
พึ่งสังเกตว่าตัวเองเขียนขอบคุณคุณคนขอนแก่นผิด ความจริงต้องเขียนว่า ".. อย่างเป็นกันเอง และด้วยเมตตาจิตจริงๆ .." อ่านแล้วงงๆ ขออภัยด้วยครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 16/08/2009
ที่งงๆคงไม่ใช่เนื่องจากนอนไม่หลับหลังจากทราบว่าเป็นคนลักษณ์อะไรนะคะคุณนันท์...

ในการไปร่วมครั้งนี้ความจริงแล้วตั้งใจจะไปพบปะกับชาวนันท์บุ้คหลายๆท่านมากกว่า ส่วนศาสตร์นพลักษณ์นั้นคิดว่าเป็นเพียงเหตุปัจจัยให้การพบปะเกิดขึ้น จึงไม่ได้คาดหวังอะไรเท่าไหร่...แต่ผิดคาดค่ะ ! ปรากฏว่าคุณคนขอนแก่นมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสตร์นี้อย่างลึกซึ้งถึงแก่นจริงๆ อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดได้อย่างง่ายๆ สนุกสนาน ทำให้ทุกคนพร้อมในการเปิดเผย"ตัวตน"ที่แท้จริงของตัวเอง ทั้งด้านบวกและด้านลบอย่างรู้สึก"ปลอดภัย" ได้เรียนรู้เข้าใจถึง"แก่น"ของตัวเองในเวลาอันสั้นเพียงแค่วันเดียว (ในขณะที่บางคนอาจใช้เวลาทั้งชีวิตก็อาจจะยังไม่เข้าใจตัวเองอย่างแท้จริง) นับเป็นการปูพื้นฐานที่ดีมากที่จะช่วยต่อยอดเพื่อความเจริญเติบโตทางด้านจิตวิญญาณ หรือแม้แต่การเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้น...

ขอขอบคุณสำหรับเมตตาจิตในการถ่ายทอดแบ่งปันของคุณคนขอนแก่นและคุณใจผู้สนับสนุนคู่ใจคู่จิตวิญญาณของคุณคนขอนแก่น ขอบคุณคุณแฟนพันธุ์แท้ที่ทำให้การพบปะที่มีประโยชน์ยิ่งในครั้งนี้เกิดขึ้นจนได้ ขอบคุณคุณdadeeda(ผู้ที่นอกเหนือจากความสดใสที่ทุกท่านมองเห็นจากภายนอก กำลังเข้าถึงสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่บางประการภายใน)ที่เป็นกำลังเสริมอันสำคัญให้คุณแฟนพันธุ์แท้ในการจัดครั้งนี้ ขอบคุณคุณฟ้าที่ช่วยเป็นพิธีกรในงานและกำลังร่วมเชื่อมโยง ขอบคุณคุณอิ๋วสำหรับโครงการที่จะช่วยต่อยอดในครั้งต่อไป ขอบคุณท่านผู้เข้าร่วมสัมมนาที่น่ารักทุกท่านที่มาเป็นตุ๊กตาในแต่ละลักษณ์ให้ได้เรียนรู้ร่วมกัน และบุคคลสำคัญที่ขาดไม่ได้ที่ต้องขอบคุณและทุกคนต่างแซ่ซ้องสรรเสริญก็คือคุณนันท์ เจ้าของบ้านผู้ดึงดูดและประสานไมตรีให้เกิดการรวมตัวขึ้นมา...

แม้ในครั้งนี้จะยังขาดท่านอาจารย์วสันต์ คุณหนึ่ง คุณKarn คุณโก้ รวมทั้งอีกหล่ายๆท่านที่ร่วมพูดคุยกันในพื้นที่แห่งนี้ แต่เชื่อว่าคงมีโอกาสที่จะได้พบปะกันในครั้งต่อๆไป somewhere somehow นะคะ

ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 17/08/2009
อ๊ะ อ๊ะ dadeedaยังมิได้เอ่ยซักคำนะคะว่าเป็นมุก...น่ะค่ะคุณนันท์ :)

คุณนพรัตน์คะเราคงต้องพยายามต่อไป (แม้เราอาจไม่ใช่ผู้เชื่อมโยงที่ดีนัก..เนอะ) ในการชักชวนท่านอ.วสันต์ พี่หนึ่ง คุณkarn คุณโก้ คุณแจง และอีกหลายๆ คนที่บ้านเนี๊ยไปสนทนาสบายๆ ประสาเรากันแถวๆ โป่งแยงแอ่งดอย (รึป่าว) เชียงใหม่ ดีมั้ยคะทุกทุกคน (เนี่ย พอเริ่มรู้ลักษณ์แล้วก็เริ่มปลงอนิจจังว่า เฮ่อ!! ไอ้เราก็ดีแต่จินตนาการหาเรื่องสนุกๆ อีกล่ะ เฮ่อ!!)

:) :)
ชื่อผู้ตอบ : dadeeda ตอบเมื่อ : 17/08/2009
ขอบคุณทุกๆ "ช่อดอกไม้" ที่มอบให้ผมและภรรยา แต่จะปาก้อนหินมาบ้างก็เต็มใจน้อมรับ ในฐานะที่อาจยังพัฒนาไม่เต็มที่ หรือพูดจากระทบกระเทียบบ้าง ขออภัยครับ

แต่ที่สำคัญผมดูจะได้รับมากกว่าที่ให้แล้วน่ะครับ
ชื่อผู้ตอบ : คนขอนแก่น ตอบเมื่อ : 17/08/2009
เป็นปลื้ม!... เป็นปลื้ม! ด้วยคน
ที่เซอร์ไพสซ์ ที่สุดคงจะเป็นคุณฟ้าค่ะ
เพราะเธอเชี่ยว หลายศาสตร์หลายศิลป์ จนมั่นใจที่จะผสมผสานหลักสูตรของตัวเอง และเป็นวิทยากรซะเอง เป็นที่ยอมรับในวงการที่เธออยู่และกำลังขยายสู่สังคมภายนอก
ในตอนแรกก็นึกในใจว่าเธอคงแค่ มา Observe แล้วนำไปประยุกต์ในสิ่งที่เธอทำอยู่

พอหลังเลิกเธอ ทำท่าจะเป็น ออแกนไนซซ์ ซะเอง งงมาก
เธอให้เหตุผลว่า

"มันลึกเกินไปที่จะทำเอง"
(เป็นประโยคเดียวกันกับ คุณคนขอนแก่น กับหลักสูตร NLP เลยล่ะ)
ฟังแล้วขำๆ
แต่ก็รู้สึกดี

ที่

คนที่ทำเรื่องราวเดียวกัน(ฝึกอบรม)เชื่อมโยงกันได้(มันเป็นความงดงามแบบไม่ต้องเสแสร้ง)

สมกับที่มาเริ่มต้นพบกัน ณ พื้นที่ ที่ทุกคนลงความเห็นว่าเป็น

พื้นที่สีขาว!!!!!!

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 17/08/2009
อ่านความรู้สึกของคนที่ได้ไปร่วมฝึกอบรม "ศาสตร์นพลักษณ์" แล้ว ก็จินตนาการตามได้เลยว่า "มันยอดเยี่ยมมาก" เดิมก็รู้สึกเฉยๆ แค่เสียดายอยู่บ้างว่าต้องมาพลาดโอกาสได้พบผู้คนที่อยากพบหน้าค่าตา ทั้งคุณนพรัตน์ คุณคนขอนแก่น (ยิ่งได้รู้ว่าท่านได้พกบัตรประชาชน..เอ๊ย..พาภรรยามาด้วย..ยิ่งเสียดายมาก..ฮา) รวมทั้งคนอื่นๆ ที่ก็อยากจะเจอกันซ้ำอีก

ถ้าผมเป็นคุณนันท์ ผมจะปลาบปลื้มอิ่มเอมใจมากที่สุด เป็นไปได้อย่างไรที่พื้นที่เล็กๆ อย่างเว็บของนันท์บุ๊คนี้ (และขออนุญาตให้เครดิตไปถึงเว็บ SOGR ด้วย) ก่อให้เกิดกิจกรรมดีๆ ของคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ได้ตั้งหลายกิจกรรมแล้ว!

จากเสียงแซร่ซร้องคุณคนขอนแก่น ทำให้ผมตระหนักได้ว่า "จอมยุทธ์มือกระบี่แห่งโลกวิทยากร" นั้น มันยังมีอยู่อีกมากมายทั่วทั้งแผ่นดิน เกินกว่าจะสามารถจินตนาการได้จริงๆ แม้ไม่ได้เข้าไปฟังคุณบรรยาย แต่ก็ขอคารวะคุณสักหนึ่งจอก และขอกระซิบเบาๆ (กลัวพรรคพวกร่วมอาชีพเขาจะค้อนเอา) ว่า มีนักพูดระดับแถวหน้าอย่างน้อยสามคน ไม่รับงานที่ต้องพูดเกินสองชั่วโมง! เพราะไม่รู้จะพูดอะไร คุณทำให้ผู้ฟังเพลิดเพลินกับการเรียนรู้ได้ทั้งวัน แถมยังสามารถต่อยอดได้อีกหลายวันนี่ ต้องคารวะอีกหนึ่งจอกแล้ว!

แต่ขอหน่อยเถอะ ถ้าการพูดจากระทบกระเทียบใคร แล้วต้องได้รับก้อนอิฐนี่ ตัวผมเอง มิต้องได้รับหินก้อนใหญ่ๆ จากทั้งภูเขาดอกหรือ? (ฮา)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 17/08/2009
ยินดีที่ได้ทำความรู้จักกับทุกคนเช่นกันครับผม...แล้วก็ต้องขอโทษพี่dadeeda ด้วยจริงๆ ไม่ทันได้พูดคุยกันเท่าไหร่เลย เผอิญไปจองตั๋วขากลับที่เวลากระชั้นชิดไปหน่อย ..ผมไม่ค่อยมั่นใจเรื่องเส้นทางกับต้องเผื่อเวลารถติดด้วย พองานเลิกเห็นแต่ละท่านกำลังจับกลุ่มสนทนาท่าทางติดลมกัน ก็เลยเข้าไปบอกลาแค่พี่แฟนพันธ์แท้ที่นั่งอยู่ตรงประตูในฐานะแม่งาน แล้วก็ตรงดิ่งออกมาเลย....ส่วนเรื่องข้าวเกรียบก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ คิดถึงกันก็ดีใจแล้วครับ
ชื่อผู้ตอบ : Dean ตอบเมื่อ : 17/08/2009
อันนี้เป็น คำชมและมุมมองของผู้เข้าอบรมในฐานะวิทยากรค่ะ
คุณฟ้าบอกว่า
ทำให้เกิดบรรยากาศไว้วางใจกล้ายอมรับความจริง
ไม่ก้าวร้าว แต่ก็ไม่อ่อนน้อมจนเกินไป(อันนี้คือสิ่งที่ชอบ....คือกล้า"โช๊ะ"หากมีผู้เข้าอบรมคนใดคนนึงมีปัญหา หรือดึงเวลา)
และสุดท้ายหลัง พฤศจิกายน 2552 ขอคุยด้วยหน่อย

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 17/08/2009
ท่านอาจารย์ครับ เข้าใจว่าไม่ใช่บัตรประชาชน เห็นเขาเรียกกันว่าใบขับขี่ ครับ (หมายว่าเป็นบุคคลที่ทั้งถูกขับและขี่แล้ว) ฮา ฮา

ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 17/08/2009
พักหลังนี่ คุณนันท์เป็นคนทะลึ่งและไม่ค่อยอยู่ในร่องในรอย
แล้วเหรอ??????
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 18/08/2009
"ขอยกขึ้นเป็นคุรุอีกคน" แหมพี่อ้อมจะให้เป็น กูรู้(GURU) เลยเหรอ ยังมีไม่รู้อีกแยะ

dadeeda สรุปภาพงานโดยใช้ศักยภาพของลักษณ์ ในทางที่เป็นประโยชน์ได้อย่างดีทีเดียวเชียว


ก้อนหินหมายถึง ด้านที่อยากให้ปรับปรุงโดยรวมด้วยนะครับ อ.วสันต์
1จอกที่อาจารย์ให้ ถือเป็นมงคลกับชีวิตมากเลยครับ
ภรรยาผมเคยฝึกพูดกับอาจารย์ที่ YT ของพี่อิ๊ด จำได้ไหมเอ่ย

ที่น่าชื่นชมคือ ผู้เข้าอบรมทุกท่านที่เปิดใจพร้อมรับ มีการปกป้องตัวเองน้อย ทำให้เวิร์คช้อบเป็นไปด้วยความราบรื่น คนเป็นModerator(ไม่ใช่ speaker)เลยไม่เหนื่อยมาก

หลังอบรมอาจมีผลเสีย เวลาโพสไม่ลื่นไหลเท่าเดิม เพราะเป็นห่วงกลัวลักษณ์ออกมากไป อิ อิ
ชื่อผู้ตอบ : คนขอนแก่น ตอบเมื่อ : 18/08/2009
ที่เขียนไปนั้น ผมได้คารวะคุณไป 2 จอกนะคุณคนขอนแก่น! นี่ถ้าครบ 3 จอกเมื่อไหร่ ตามกฎของบู๊ลิ้มแล้ว ผมต้องคุกเข่าเรียกคุณว่า "ท่านอาจารย์!" เลยทีเดียว (คาดว่าคงอีกไม่นานแล้ว..ฮา)

การอบรมฝึกพูดของ YT นั้น ผมพอจำเหตุการณ์ได้ แต่จำตัวบุคคลไม่ได้เลย ดูเหมือนจะอบรมอยู่หลายรุ่น ถ้าเดาไม่ผิด ภรรยาของคุณ เรียนแพทย์ หรือพยาบาล ม.มหิดล ศิริราช ใช่หรือไม่? เพราะผู้ที่มาฝึกอบรมหลายคน ถ้าไม่เป็นนักศึกษาแพทย์ ก็นักศึกษาพยาบาล ศิริราช มหิดล ไปทั้งสิ้น (ขอกระซิบเบาๆ แบบเอ๊กซ์คลูซีพหน่อยว่า..ตอนนั้น วิทยากรทุกคนล้วนจ้องจีบนักศึกษาหญิง แพทย์/พยาบาล ศิริราช กันทั้งนั้น พูดแล้วอายมาก ที่อายนี่ไม่ใช่อะไร อายเพราะจีบไม่สำเร็จเลยสักคนเดียว..ฮา..เอ้อ..ไม่ทราบว่า ภรรยาคุณคนขอนแก่น เคยนำเรื่องนี้ไปเล่า ด้วยความสมเพชวิทยากร ให้คุณฟังบ้างหรือไม่? หวังว่าจะไม่มีผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนะครับ..ฮา)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 18/08/2009
ภรรยาผมฝากบอกว่า เธอคงไม่สวยขนาดเตะตาวิทยากรน่ะครับ อาจารย์สบายใจได้
ชื่อผู้ตอบ : คนขอนแก่น ตอบเมื่อ : 18/08/2009
คุณคนขอนแก่นครับ น่าดีใจนะครับผมว่า ..

สังเกตจากคำชมที่คุณแฟนพันธุ์แท้ ชมผมว่า "พักหลังนี่ คุณนันท์เป็นคนทะลึ่งและไม่ค่อยอยู่ในร่องในรอยแล้วเหรอ ?"

นี่ถ้าเธอยังใช้ลักษณ์ 8 เต็มรูปแบบ คงบอกว่า "พักหลังนี่ คุณนันท์เป็นคนลามกและเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?" แทน (ฮา ฮา )

ท่านอาจารย์ครับ ไม่จริงครับ ผมยืนยันว่าเธอสวย ขนาดไม่เห็นวิทยากร อยู่ในสายตามากกว่าครับ (ฮา)
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 19/08/2009
"พักหลังนี่ คุณนันท์เป็นคนลามกและเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?" อันนี้ก็พัฒนามากครับถึงจะพูดได้

ถ้าลักษณ์ 8 เต็มรูปแบบ เด็ดกว่านี้เยอะ... อิ อิ ไม่กล้ายกตัวอย่าง กลัวไม่ถึงใจคุณแฟน 5555

ชื่อผู้ตอบ : คนขอนแก่น ตอบเมื่อ : 19/08/2009
ไม่รู้จะเข้ากันได้ไหม กับเรื่องนพลักษณ์ แต่อยากเล่านิทานให้คุณนันท์ฟังสักเรื่องหนึ่ง เป็นนิทานที่หลายคนก็คงได้ยินกันมาบ้างแล้ว

เรื่องมีอยู่ว่า..หนุ่มสาวคู่หนึ่ง ไปนั่งพรอดรักกันในมุมมสงบ ลับตาคน ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง หลังจากกุมมือและจ้องตากันเป็นวรรคเป็นเวร โดยแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลยอยู่เป็นเวลาเนิ่นนาน หญิงสาวก็เงยหน้า ช้อนสายตามองชายหนุ่ม พร้อมกับพูดขึ้นว่า "คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ ที่รัก?" ชายหนุ่มยิ้มหวาน ตอบไปว่า "ในห้วงเวลาที่อยู่กับคุณนี้ จะให้ผมสามารถไปคิดอะไอย่างอื่นกันได้เล่า ผมก็คิดอย่างเดียวกับที่คุณกำลังคิดอยู่นั่นแหละยอดรัก!" เท่านั้นแหละ หญิงสาวก็ระดมกำปั้นทุบไปที่ชายหนุ่มอย่างไม่ยั้งมือ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำว่า "ว้าย! อีตาบ้า คนผีทะเล คิดอะไรลามก! ทะลึ่งที่สุด!" (ฮา)

ถ้าผมเป็นคนคิดเรื่องนี้ ผมจะไม่ให้จบแบบนี้ เมื่อเราเป็นผู้ศึกษาด้านจิตวิญญาณ มันก็ควรจบด้วยคุณค่าทางจิตวิญญาณ ถ้าเป็นผม ผมจะจบลงด้วยประโยคของหญิงสาว ว่า "ว้าย!! อีตาบ้า อีตาผีทะเล แล้วทำไมถึงเอาแต่คิดอยู่นั่นแหละ รู้จักพูดอะไรออกมาให้มันเป็นคลื่นสั่นสะเทือนบางสิ! แล้วก็หัดลงมือทำตามสิ่งที่คิดไว้ในใจบ้าง! เบื่อจริงๆ ไอ้พวกเอาแต่คิด แต่ไม่ยอมลงมือทำเนี่ย!!" (ฮา)

ภาษิตไทยโบราณยังกล่าวว่า "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย" เชคสเปียร์ก็เคยกล่าวเอาไว้ว่า "โลกนี้ไม่มีอะไรที่ดีหรือเลว ความคิดคนทำให้เป็นเช่นนั้น"

กับ "คนที่ทะเยอทะยาน" นั้น เราก็อาจพูดกับเขาได้ว่า "ดีจังเลยที่คุณคิดใหญ่และใฝ่สูง จำคำของลีโอ เบอร์เน็ตต์ไว้นะที่ว่า..'ถ้าเธอกล้าหาญที่จะเอื้อมมือขึ้นคว้าดวงดาว แม้สุดท้ายเธอจะไม่ได้ดวงดาว แต่สิ่งที่เธอจะได้ ต้องไม่ใช่โคลนตมแน่!'..." หรือเราจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่า "ไม่เจียมกะลาหัว! ว่างๆ ก็ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองบ้างนะ!" (ฮา)

กับคนที่ "กินจุ" นั้น เราอาจพูดกับเขาได้ว่า "เธอนี่กินอะไรก็อร่อยไปหมด วันนี้อารมณ์ดีหรือไง เจริญอาหารเชียว!" หรือจะพูดอีกอย่างก็ได้ว่า "ไปตายอดตายอยากมาจากไหนกัน! ถึงได้แดกยังกับปล้นไปซะขนาดนั้น!" (ฮา)

กับคนที่ "กินแล้วนอน" นั้น เราอาจพูดกับเขาได้ว่า "ดีแล้วละ กินอิ่มแล้วเอนหลังสักครู่ ข้าวมันจะได้เรียงเม็ด" หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่า "ไอ้พวกที่กินแล้วก็นอนเลยนี่ นอกจากหมูกับหมาแล้ว ก็เห็นจะมีแกอีกคนนี่แหละ!" (ฮา)

กับคนที่ "พูดเรื่องกุ๊กกิ๊ก" เราอาจพูดกับเขาได้ว่า "เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเป็นคนอารมณ์เซ็กซี่จั๊กจี้จั๊กเดียมไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ดีแล้วละ ก็อย่างที่เขาว่าไง สัปดนวันละนิดจิตแจ่มใส" หรือเราจะพูดอีกอย่างหนึ่งไปว่า "ทะลึ่ง ทะเล้น ไม่อยู่กับร่องกับรอย!" ก็ได้เช่นกัน (ฮา)

ตกลง สงสัยว่าผมจะไม่เข้าเกณฑ์ "ลักษณ์" ไหนเลยกระมังครับ อาจจัดอยู่ในพวก "ลักปิดลักเปิด" ได้เท่านั้นมั้ง (ฮา)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 19/08/2009
ฮา ฮา ฮา จนน้ำหูน้ำตาไหลเลยค่ะอาจารย์ ! ส่วนคุณนันท์ก็กำลังเข้าขั้น วิ่งตามอาจารย์มาติดๆ...เจอกันครั้งหน้าคุณนันท์ระวังนะคะว่าหลายคนอาจจะจำไม่ได้ (เพราะทำมาดเคร่งขรึมหล่นหาย !)
ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 19/08/2009
ฮ่า ฮ่า .. ผมพัฒนาขึ้นจริงๆ ครับคุณคนขอนแก่น

ท่านอาจารย์ครับ นอกจากจะโดนใจ และไม่ได้ยินมานานมากแล้ว กับ "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย"

อีก 2 อัน ที่อ่านแล้วสะท้อนมุมมองของหัวใจของความสำเร็จได้เป็นอย่างดี แถมสะท้อนวัฒนธรรมของเราด้วย ก็คือ ระหว่างคำของลีโอ เบอร์เน็ต ที่ว่า.. "ถ้าเธอกล้าหาญที่จะเอื้อมมือขึ้นคว้าดวงดาว แม้สุดท้ายเธอจะไม่ได้ดวงดาว แต่สิ่งที่เธอจะได้ ต้องไม่ใช่โคลนตมแน่! .." กับ "ไม่เจียมกะลาหัว! ว่างๆ ก็ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองบ้างนะ!" ซึ่งจำได้ว่าตอนเด็กๆ จะได้ยินลอยไปลอยมา อยู่บ่อยๆ

คุณนพรัตน์ครับ ที่บอกว่าผมกำลังเข้าขั้น วิ่งตามท่านอาจารย์ไปติดๆ สงสัยจะไม่ใช่ความขำครับ แต่น่าจะเป็นใบหน้า ซะมากกว่า (ฮา)
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 19/08/2009
เรื่องใบหน้าไม่(กล้า)มีความเห็นค่ะ แต่เรื่องความเคร่งขรึมเนี่ย จากประกาศเกียรติคุณของคุณแฟนพันธุ์แท้ถึงคุณนันท์ข้างต้นยืนยันว่าได้ "เปลี๊ยน"ไปแน่นอน
ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 22/08/2009
หมายความว่า คุณนพรัตน์ก็เห็นว่าผม "เป็นคนทะลึ่งและไม่ค่อยอยู่ในร่องในรอยไปแล้ว" เหมือนกันเหรอครับ .. ฮ่า ฮ่า (ได้ผลแฮะ)
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 22/08/2009
"เป็นคนทะลึ่ง"นี้มิบังอาจ... แต่ถ้า"ไม่ค่อยอยู่ในร่องในรอย"หมายถึง"ไร้กระบวนท่า"หรืออีกนัยหนึ่งคือ"ไม่ติดยึดในกรอบและรูปแบบ" อันนี้อาจจะใช่ค่ะ (พิจารณาความของลักษณ์ 8 ตามวิธีของลักษณ์ 5 ค่ะ)
ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 23/08/2009
เอ๊ะ ! จอมยุทธในบู้ลิ้ม ที่ใช้วรยุทธแบบไร้กระบวนท่า นี่ใครนะครับคุณนพรัตน์ คงไม่ใช่จิวแป๊ะทง ใช่ไหมครับ (ฮา ฮา)

ตอนที่ผมอ่านนั่นมันสมัยยังวัยรุ่น ยืมเพื่อนมาอ่าน เล่มหนาปึ้กแบบใช้หนุนนอนได้เลย สันปกโค้งๆ ปกเป็นรูปวาด ยาวหลายเล่มจบ สมัยนั้นต้อง ว. ณ เมืองลุง จำได้ว่าติดหนึบ อ่านข้ามวันข้ามคืน วางไม่ลง (คงเหมือนเด็กสมัยนี้ติด แฮรี่พอตเตอร์) จำได้ว่า ยังตามไปดูหนัง "เดชไอ้ด้วน" เล่นโดย เดวิด เจียง ในโรง .. เล่ามาซะยาว หวังว่าคุณนพรัตน์ คงทันอ่านเวอร์ชั่นเดียวกันกับผมนะครับ (ฮา ฮา ยิ้ม ยิ้ม ครับ)

ปล. ผมคนลักษณ์ 9 ครับ ระวังวิเคราะห์ผิดนะ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 23/08/2009
ที่สายตาสั้นทุกวันนี้สาเหตุก็มาจากอ่านหนังสือบู้ลิ้มในสมัยเด็ก(ก่อนเป็นวัยรุ่นเล็กน้อย)มากเกินไปนี่แหละค่ะ หนังกำลังภายในที่ชอบมากในยุค 60-70 ที่สร้างโดยชอร์ บราเดอร์ ก็มี"หงส์ทองคะนองศึก" นำแสดงโดยเจิ้งเผ่ยเผ่ย แต่"เดชไอ้ด้วน" (นำแสดงโดยหวังอยู่นะคะ ถ้าเป็นเดวิดเจียงอาจจะเป็นเวอร์ชั่นหลังๆไปแล้ว)รู้สึกจะไม่ได้ดู ส่วนหนังทีวีที่ติดแบบงอมแงมก็มี"ฮุ้นปวยเอี้ยง" ใน"กระบี่ไร้เทียมทาน" และในช่วงหลังก็มีเพลงหนังกำลังภายในที่ชอบมากๆและยังโปรดปรานถึงทุกวันนี้คือเพลงในเรื่อง"เดชคัมภีร์เทวดา(ภาค 1)" (ซึ่งบังเอิญจริงๆที่ไปชอบตรงกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล) และอีกเพลงคือเพลงที่ใช้ในการออกรบช่วงสงครามฝิ่นในหนังเรื่อง"หวังเฟยหง"ค่ะ...ที่เล่ามาทั้งหมดก็เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่แค่"ทัน"แต่เป็น"ก่อน"เวอร์ชั่นของคุณนันท์ด้วยซ้ำค่ะ (ขออภัยน้องๆหลานๆทั้งหลายที่เกิดไม่ทันเวอร์ชั่นที่กำลังคุยกัน ณ ที่นี้ด้วยนะคะ - ยิ้ม ยิ้ม ค่ะ)

ป.ล. ที่วิเคราะห์คือข้อความของคนลักษณ์ 8 ที่คนลักษณ์ 9 เข้าใจ เมื่อเปรียบเทียบกับข้อสังเกตุจากคนลักษณ์ 5 ค่ะ (ฟังดูอีรุงตุงนังเล็กน้อย)
ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 23/08/2009
โอ้ย ! เจอตัวจริง ใช่ ผมจำผิด หวังอยู่ ไม่ใช่เดวิดเจียง .. คนพากย์ในโรงชอบพูดว่า "ชอว์ บราเดอร์ ภูมิใจเสนอ .." เสียงผู้หญิง ผู้ชาย ใช้ผู้ชายพากย์คนเดียว คือ ผมดูที่ต่างจังหวัดน่ะครับ เก้าอี้นั่งก็เป็นแบบม้าไม้ยาวๆ

เอ๊ะ .. ว่าแต่คุณนพรัตน์ โกงอายุหรือเปล่าเนี่ยะ จริงๆ แก่กว่าผมก็บอกมา (ฮ่า ฮ่า)
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 23/08/2009
อายุมากกว่าคุณนันท์แน่นอนค่ะ สงสัยคุณนันท์ไม่ทันสังเกตว่าตอนให้ยืนตามอายุอยู่คนแรกสุดก่อนคุณอิ๋ว คุณนันท์ และคุณอ้อม...เรียก"พี่"เลยก็ได้นะคะ คุณนันท์จะได้ดีใจที่มีคนแก่กว่าอีกคนในพื้นที่แห่งนี้ (น้ำใจน้องพี่สีชมพู... และ เหลืองกับแดง !)
ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 24/08/2009
ผมน่ะดีใจแน่นอน แต่คนที่จะดีใจกว่าผม น่าจะเป็นท่านอาจารย์ เพราะนับจากนี้ท่านคงไม่ต้องรู้สึก โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้วครับ

อันนี้นับเป็นน้ำใจของชาวเหลืองแดงที่มีต่อกันโดยแท้ (ฮา ฮา ยิ้ม ยิ้ม ครับ)
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 24/08/2009
อาจารย์คงไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรอก... แต่ถ้าให้ลำดับตามอายุมากไปหาน้อยอาจารย์ยังคงต้องยืนหัวแถวอยู่ดีล่ะค่ะ (เฮ ! และขอคารวะรุ่นพี่ชาวเหลืองแดงค่ะ !)
ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 24/08/2009
โอ้ย ผมดีใจอยู่เสมอแหละครับคุณนันท์ ที่รำพึงรำพันเรื่องอายุอะไรนั่น ก็เป็นการพูดเล่นเสียมากกว่า ผมมีคติว่า "อายุเท่าไหร่ไม่สำคัญ แต่ที่สุดนั้น วัดกันที่หน้าตา!" (ฮา) อายุน้อย แต่หน้าทรยศ หน้าไม่รักดี ก็ไม่เห็นมีอันใดให้ดีใจ (ฮา) อายุมากแล้ว แต่หัวใจยังเป็นเด็ก ยังมีสติปัญญาอ่อนโยน หน้าตาอ่อนเยาว์ มิหนำซ้ำรูปร่างก็ยังโตไม่เต็มที่ นี่สิน่าดีใจมากกว่า (ฮา) ว่าแต่ว่า คราวหน้าเราเลิกพูดเรื่องอายุกันเถิดครับ ผมไม่แน่ใจว่าจะใช้ความกะล่อนหลอกตัวเองไปได้อีกนานเท่าไหร่ (ฮา)

ดูเหมือนว่าคนที่ในยุคสมัยพวกเรานั้น ล้วนติดนิยายกำลังภายในกันงอมแงม ไปถ้วนทั่วทุกตัวคนเลยนะครับ ผมก็คนหนึ่งละ โก้วเล้งนี่ คือนักเขียนในดวงใจเลย ส่วน น.นพรัตน์ นี่ก็นักแปลในดวงใจเช่นกัน (ผมชอบบมากกว่า ว.ณ เมืองลุงเสียอีก) บางคนบอก "กิมย้ง" นั้น ลึกซึ้งและลึกล้ำ กว่าโก้วเล้ง ก็คงจะจริง แต่ผมก็ยังชอบโก้วเล้งมากกว่า ผมกล้าประกาศได้เลยว่า ผมอ่านนิยายที่โก้วเล้งแต่ง ทุกเล่ม! ส่วนนักเขียนรุ่นใหม่ที่ ดร.สุวินัย ภรณวลัย ท่านยกย่อง คือ "หวงอี้" นั้น ผมไม่เคยอ่านของเขาเลย ไม่ว่าจะนิยายที่โด่งดังคับโลกเรื่อง "เจาะเวลาหาจิ๋นซี" และ "มังกรคู่สู้สิบทิศ" นั้น ก็ยังไม่เคยอ่านเลยทั้งสิ้น อาจเนื่องจากมันเลยยุคสมัยที่จะมาอ่านนิยายกำลังภายในแล้วก็เป็นได้

แต่ยอมรับได้อย่างหนึ่งว่า การอ่านนิยายกำลังภายในนั้น ทำให้ผมเข้าใจโลก และเข้าใจชีวิตในมุมมมองที่กว้าง และลึกซึ้งขึ้นมากทีเดียว (แม้บางอย่างมันอาจจะผิดก็เถอะ!)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 24/08/2009
"ข้าพเจ้ามิได้ชมชอบรสชาติของสุรา หากแต่เป็นเพื่อนในวงสุรา และ บรรยากาศในวงสุรา .. บรรยากาศเช่นนี้ มีแต่สุราจึงสร้างขึ้นได้"

อะไรทำนองนี้ นี่แหละครับท่านอาจารย์ ที่ทำให้ผมในยุคนั้น ใช้เป็นข้ออ้าง เข้าร่วมบรรยากาศกับหมู่เพื่อนๆ กันตลอด (ฮา)

"...ชั่วชีวิตมนุษย์...สิ่งที่บันดาลให้หดหู่ รันทด มิใช่การจำพราก...หากเป็นการอยู่ร่วม เพราะหากไม่เคยอยู่ร่วม ไหนเลยมีการจำพรากได้..."

"...มีเรื่องบางประการ มาตรว่าท่านปฏิเสธไม่ไปขบคิด แต่พาลต้องครุ่นคิดอยู่ทุกเวลา มนุษย์ไม่มีทางข่มกลั้นความรู้สึกนึกคิดของตัวเองไว้ได้ตลอดกาลนาน ...นี่เองบางทีเป็นการเจ็บปวดประการหนึ่งในหลายๆประการของชีวิตคนเรา..."

ความจำมันลางเลือน ในรายละเอียด เลยลองไปค้นดู และเมื่อมองย้อนกลับไป ก็คิดได้ว่า บทพรรณาในนวนิยายกำลังภายในเหล่านี้นี่แหละ ที่มีส่วนสอนผมทางอ้อม ในวัยนั้น ให้รู้จักสังเคราะห์และสนทนาภายในกับตัวเอง นอกเหนือจากสอนให้เห็นแง่มุมของสัจจะธรรมของชีวิต แบบเท่ๆ ในความรู้สึกอีกด้วย
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 24/08/2009
อีกอันหนึ่ง ซึ่งน่าจะใช้ได้ดีกับพวกเราในประชาคมนี้ ที่ว่า.."เกิดมาชาติหนึ่ง ได้พบพานสหายผู้รู้ใจ แม้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต ดื่มสุราพันจอกก็มิเมา!"..แต่ปรากฎว่าโก้วเล้ง คนเขียนประโยคนี้ ต้องมาเสียชีวิต เพราะโรคพิษสุราเรื้อรัง! เข้าใจว่า แกเจอสหายผู้รู้ใจได้ทุกวัน เจอสหายผู้รู้ใจได้ทั้งวัน เจอวันละหลายคนเลยเป็นแน่แท้ (ฮา)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 24/08/2009
ข้า.. เป็นผู้น้อย

ขอคารวะแด่ศิษย์พี่

จอกนี้

ข้า.. ขอดื่มเอง

(บทนี้ ท่านโกวเล้งคงเกินจะรำพัน)
ชื่อผู้ตอบ : dadeeda ตอบเมื่อ : 25/08/2009
แม่นางdadeedaเกิดไม่ทันยุคที่ชาวยุทธจักรทั้งหลายออกมาผาดโผนทั้งนอกจอและในจอ คงต้องน้อมรับคำชี้แนะบอกเล่าจากท่านจอมยุทธทั้งสองอีกมากเป็นแน่แท้... (น่าจะกล้อมแกล้มแบบสำนวนบู๊ลิ้มได้บ้างนะคะ)
ชื่อผู้ตอบ : นพรัตน์ ตอบเมื่อ : 25/08/2009
ว่าแต่ว่า พวกท่าน ดืมกันมากันตั้งหลายพันจอกแล้ว!!!!!!

......ต้องการกับแกล้ม ( ถั่ว ลาบ ซกเล็ก ส้มตำ ) ไหม !!!!! ( ฮา )

ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 26/08/2009
คุณนีโอครับ ท่านอาจารย์บอกว่า ขอมะขามเปียก จะถูกรสนิยมกว่าครับ .. ฮา

ส่วนตัวผมแค่นี้ก็ถุกใจหลาย .. เด้อ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 26/08/2009
"จอมยุทธ์ทั้งสอง ให้เกียรติแก่เราผู้อาวุโส มากเกินไปแล้วจริงๆ ทอดตาทั้งแผ่นดินแล้ว ก็ยากนักที่จะหาจอมยุทธ์ใดมีระดับฝีมือที่อำมหิตได้เท่าเทียมกับจอมมารดำขาว เฉกเช่น จอมยุทธ์นันท์บั่นวิญญาณ และจอมยุทธ์นีโอโต้ขุมนรก! เมื่อท่านทั้งสองให้เกี่ยรติแก่เล่าฮูได้ถึงเพียงนี้ เล่าฮูก็มิอาจมิปฏิเสธว่ามิพอใจมิได้! นี่ถ้าเล่าฮูมิกังวลกับรังสีการฆ่าฟันที่อาจแผ่คุกคามไปถึงฮูหยินนพรัตน์ และโกวเนี้ยน้อยดาดีดาแล้วละก็ เล่าฮูก็คงมิเกรงใจแล้ว! แม้ต้องประสบกับเภทภัยมากกว่าวาสนา เล่าฮูก็คงต้องเสี่ยงกับพวกเจ้าดูสักครา" (ฮา)

ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ทดสอบตัวเองดูว่ายังจำสำบัดสำนวนของนิยายกำลังภายในได้อยู่หรือไม่ เท่านั้นครับ..ยังสบายดีอยู่ครับ ยังไม่เพี้ยน (ฮา)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 26/08/2009
ช่างลึกล้ำเกินเอ่ยชมจริง .. ครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 26/08/2009
ช่างฮา ฮา ฮา ซะจริงๆ
ว่าแล้วนางสีดา ก็เสด็จหายไป .......
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 26/08/2009
เสด็จหายไปหาจอมยุทธ์ "ชอโอลาฟเฮียง" (พี่ชาย "ชอลิ้วเฮียง" จากนิยาย "จอมโจรจอมใจ" ของโก้วเล้ง) ละซีถ้า!?! (ฮา)
ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 27/08/2009
ท่านชอโอ "ลาฟ" เฮียงรักเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อนคนไทยเลยให้ชื่อเล่นว่าคุณ "ลาภ"
แถมชอบอาหารอีสานโดยเฉพาะข้าวเหนียวกับ "ลาบ"
สั่งทีไรก็ทานจนเรียบ"ราบ"
ทานมากจนเก็บไปฝันว่าเคยเป็นคนไทย ตื่นเต้นไปบอกใครๆว่าฝันดีเช่นนี้ถือว่าเป็นโชค"ลาภ"

ยิ้ม ยิ้ม ค่ะ








เอ เล่าเรื่องสามีตัวเองนี่ น่าเกลียดมั๊ยคะคุณนันท์


ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 27/08/2009
ไม่น่าเกลียดหลอกครับคุณหนึ่ง ของของเราเอง

แต่ถ้าเล่าเรื่องสามีของคนอื่นสิ น่าเกลียดแน่

ว่าแต่ดูจากชื่อคุณ ชอโอ ลาภ เฮียง นี่ท่าทางน่าจะเป็นลูกทริบเปิ้ล ฝรั่ง ไทย จีน นะครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 27/08/2009
นั่นแน่ คุณนันท์เล่ขมุข... บอกว่าไม่น่าเกลียด (แต่ตามด้วย) "หลอก"คุณหนึ่ง

:O)
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 27/08/2009
ฮา ฮา ยิ้ม ยิ้ม .. ชอบมุขนี้ครับคุณหนึ่ง ผมคิดเกือบไม่ทัน
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 27/08/2009
(ฮา) ช่วงนี้เป็น "หนึ่ง จ๊กม๊ก" ออกอาละวาดค่ะ เอ หรือจะเป็น "หนึ่ง ชวนชื่น" ดีเอ่ย ?

ชวนกันหัวเราะวันละนิดจิตแจ่มใส ไร้สาระกันวันละนิด (ก็รู้สึกได้เลยว่า) จิตโล่ง...สบายค่ะ ..... ( ยิ้มแฉ่งค่ะ)
ชื่อผู้ตอบ : 1kha ตอบเมื่อ : 09/09/2009
"หนึ่ง จ๊กมก" ไม่เหมาะหรอกคุณหนึ่ง ต้อง "หนึ่ง ช่ะช่ะช่ะ" ถึงจะเหมาะ (ฮา) คุณนันท์ นั้นก็ต้อง "นันท์ ชวนชื่น" จะได้เข้ากับผม "วสันต์ เชิญยิ้ม" ได้อย่างเนียนๆ หน่อย และถ้าไม่ว่าอะไร ก็น่าจะมี "โก้ เถิดเทิง" อีกคนหนึ่งด้วย (ฮา)

แอบเข้ามาไร้สาระกันตรงนี้ ค่อยปลอดโปร่งโล่งสบายหน่อย ไม่งั้น อาจจะโดนพวก "แม่มด หมอผี แม่ชี หมอดู" รุมจิกเอาเลือดสาดอีก!!(ฮา..แล้วหยิบสำลีขึ้นมาซับเลือดที่ยังไหลซึมๆ อยู่!)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ เชิญยิ้ม (ฮา) ตอบเมื่อ : 09/09/2009
วสันต์ เชิญยิ้ม นันท์ ชวนชื่น โก้ เถิดเทิง หนึ่ง ช่ะ ช่ะ ช่ะ เรา 4 คนน่าจะรวมตัวกันไปเล่นให้บ้านบางแคฟังเลยดีไหมครับ เอาให้หัวร่อกันฟันโยกฟันคลอนไปเลย เพราะคนฟังฟันคงโยกอยู่แล้ว และเป็นการผูกความสัมพันธ์ เพราะดูท่าอีกไม่นานคงจะได้ไปขออาศัยด้วยอยู่แล้น !
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 10/09/2009
คุณนันท์ก็ไม่น่าจะพูดให้เป็นลาง พูดแบบนี้ คุณหนึ่งใจหายหมด (ฮา)
ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 10/09/2009
555 555 555 เบาสบาย คลายเครียดซะจริงๆ ตลกคณะนี้

ขอบคุณที่เพิ่มพลังดีดีให้ในเช้าวันนี้ค่ะ

คิดถึง คิดถึงค่ะ
หนึ่ง(อิ อิ ) cha cha cha (& ha ha ha)
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่ง cha cha cha ตอบเมื่อ : 11/09/2009


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code