พลังงาน.......และข้อมูล
เพื่อเป็นการพิสูจน์ ภาค 2 ว่า
มนุษย์เป็นเผ่าพันธ์เดียวที่จะเป็นผู้ กำหนด/กำกับ พลังงาน ลงไปในข้อมูล และเปลี่ยนทิศทางกรรมได้

หลังจากแผ่นพับโบว์ชัวร์ เพื่อ ประชาสัมพันธ์ หลักสูตร ถูกพิมพ์เสร็จทั้งหมด พบว่ามีข้อความที่คุณโปรแกรมเมอร์ ทำตกหล่นช่วงสำคัญๆ
แฟนพันธ์แท้ต้องรีบ บอกลา "ความกังวล" ทันที ที่พบความผิดพลาดดังกล่าว (แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว) แล้วก็ จินตนาการว่า พลังงานที่ถูกกำกับลงไป "มันสำคัญกว่า"

ก้อไม่รู้ว่าจักรวาล กำลังจะสื่ออะไรค่ะ เพราะว่าช่วงนี้ คนที่โทรฯเข้ามา จะเป็น คนที่เคยได้รับ จดหมายข่าวในหลักสูตรเดิม(แฟนพันธ์แท้เปลี่ยนหลักสูตรแล้วค่ะ)

เพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจ จึงต้องขอชี้แจง "การเปลี่ยนแปลง"
แต่ส่วนใหญ๋ผู้มุ่งหวังทั้งหลาย "ไม่สนใจฟัง" เรื่องราวที่พูดค่ะ
จะตัดบทว่า ....ใช่ห้างหุ้นส่วน....นี้รึเปล่า?แล้วเรากำลังคุยอยู่กับคุณ....(ชื่อแฟนพันธ์แท้)รึเปล่า??...

"เอ้อ! ถ้าใช่ก็ถูกแล้วล่ะ เอาเป็นว่าสัปดาห็น้าจะรวบรวมรายชื่อ แล้วสมัครเข้าไป" (มีต่อรองราคากันนิดหน่อยหากลงทะเบียนทีละหลายๆคน)

เนียะค่ะ โทรฯ 20 กว่าสาย เป็นคนที่บอกได้รับจดหมายข่าวชุดเดิมๆ เกือบทั้งหมดน่ะ
ชื่อผู้ส่ง : แฟนพันธุ์แท้ ถามเมื่อ : 19/06/2009
 


เย้ เย้ เยส ไม่ว่าจะอย่างไรก็ดีใจด้วยนะคะ คิดว่าสำเร็จตามเป้าเกินเป้าแน่นอนค่า
ชื่อผู้ตอบ : dadeeda ตอบเมื่อ : 20/06/2009
กำกับพลังงาน ลงไปในข้อมูล หรือกำกับข้อมูลและพลังงาน ชักงงเหมือนกันครับ

เปลี่ยนทิศทางกรรม หรือยกระดับขึ้นเหนือกรรม (ด้วยการปรับมุมมอง ที่ทำให้เกิดสุขกับทุกข์ในการเผชิญ หรือ ก้าวพ้นไปเลยแบบเบ็ดเสร็จ) ชักงงเช่นกันครับ ว่าเหมือนหรือต่างกัน

ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 20/06/2009
ตามความเข้าใจส่วนตัว คิดว่า "กำกับข้อมูลและพลังงาน" ของโชปราถ้าเปรียบเป็นวงกลมก็ใหญ่กว่า มันหมายถึง เลือกสนใจ(แสวงหา)เฉพาะข้อมูลที่เราต้องการ/ที่อยู่ในจุดมุ่งหมาย (ที่ไม่ใช่ก็หยิบออกไป) ส่วนกำกับพลังงานเค้าหมายถึงยกระดับพลังงาน (ทำได้โดยการจดจ่ออยู่กะสิ่งที่เราสนใจ)

ส่วนกำกับพลังงานลงไปในข้อมูล มันเป็นเทคนิคที่เกิดขึ้นในภาคสนามของแฟนพันธ์แท้ค่ะ(ลอกเลียนแบบได้ก่อนที่จะจด สิทธิบัตรนะ อิอิ)

อยากลองเชื่อมโยง ทางโลก ทางธรรม ให้ พิจารณากันแบบนี้ค่ะ
ในโลกของจิตวิญญาณ เราเชื่อมโยงกัน อยู่ตลอดเวลา(เหนือการพูดคุยใดๆ , ในมิติที่ไม่สามารถมองเห็นกันได้ ตลอดเวลาอยู่แล้ว)

อยากเล่าให้อ่านแบบนี้ค่ะ
ถ้าแนว เทพไท้เทวา(ขออภัยจริงๆ หากใครจะมองว่าเรื่อนนี้ งมงาย ก็ให้อ่านข้ามๆไปด้วยนะคะ) เค้าจะใช้คำว่า "ข้างในเขาคุยกัน" ถ้ามองไปที่เวทีการขายก็ตรง คนซื้อเค้าไม่ได้สนใจมากมายว่าคนขายจะพูดว่ายังไง แต่ใช้"รู้สึกว่า" คนขาย "รู้สึก"(รู้สึกจริงๆ ไม่รวมการ แกล้งๆรู้สึกนะ)ว่าสินค้าดี


เคยมีวิทยากรคนนึงเป็นชาวฮ่องกง อายุ 29ปี (จำชื่อไม่ได้) ตอนถูกแนะนำตัวก่อนขึ้นเวที เค้าบอกว่าคนนี้เชี่ยวชาญเรื่อง "จิตใต้สำนึก"
เค้าพูดแบบเดียว กะ เทพไท้เทวา เลยค่ะ เค้าก็บอกว่า ..... เหนือระดับการพูดคุยกัน จิตใต้สำนึก มีการสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา ผมขอถามพวกคุณง่ายๆว่า พวกคุณใช้ภาษาอังกฤษกันคล่องทุกคนรึเปล่า??(ทุกคนหัวเราะกัน) นั่นแหละแม้แต่ภาษามือ ที่คุณๆทั้งหลายพยายาม สื่อออกมาน่ะ เป็นส่วนนึงของการสือจากจิตใต้สำนึก.....


จาก 2 ข้อมูลนี้ คิดว่าเค้าพูดเรื่องเดียวกันค่ะ


ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 20/06/2009
เคยอ่าน "มนุษย์แม่เหล็ก" ของโจ วิเทล
มีตอนนึงเค้าเล่าว่า มีบริษัทฝึกอบรม มาใช้บริการ การตลาดของเค้า
ในตอนนั้นเค้าเลือกใช้ แผ่นพับประชาสัมพันธ์

ซึ่งพอ บริษัทที่เป็นลูกค้าดังกล่าว โทรฯมา ขอบคุณด้วยความดีใจที่
การสัมนามีคนจองที่นั่งเต็ม ก่อนเวลา ซึ่งความจริง ณ ขณะนั้น แผ่นพับประชาสัมพันธ์ยังอยู่ที่โรงพิมพ์อยู่เลย(ทำไม่เสร็จ)

ลูกค้าบริษัทดังกล่าว บอกว่า เค้าไม่ได้สนใจว่า ขบวนการที่โจ ทำ เสร็จสิ้นขบวนการหรือไม่ แต่เค้าเชื่อว่า ผลที่เค้าได้รับเป็นความสามารถ ของโจ วิเทล ใน การเป็น ฮิปโนติก มาร์เกตติ้ง อิงค์

หากเรายังไม่เข้าใจการเชื่อมโยงที่มองไม่เห็นนี้
เราคงต้องลงความเห็น

ทั้ง โจ วิเทล และ ลูกค้าของเค้า


เป็น บ้าไปแล้ว!
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 22/06/2009
มีเหตุการณ์สั่นสะเทือนพลัง(ข้อมูล)ลบจากเพื่อนร่วมงาน
รู้ไม่ทัน พลังใจตก เกือบครึ่งวันค่ะ

นึกถึงคำ กำกับข้อมูลและพลังงาน

จึงคิดว่าจับรายละเอียดได้แบบนี้ค่ะ
<เลือก(เฉพาะข้อมูลที่ต้องการ หลีกเลี่ยง,ไม่รับฟัง,ไม่โต้ตอบ)
<จดจ่อ(อยู่ในภาคสนามการทำงาน,คุยกับคนที่สามรถยกระดับพลังงานได้เท่านั้น)
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 25/06/2009
เป็นเรื่องเก่า นำมาเล่าใหม่
เห็นว่าจะขยายความ กำกับพลังงานลงไปในข้อมูลค่ะ

ปกติการขายสินค้าใดๆ (ขายตรง) คนขายต้องไปนั่งต่อหน้าคุณลูกค้า
สินค้าที่แฟนพันธ์แท้ขายเนี่ย เค้าไม่มีตัวตนค่ะ เป็นการขายความคิด ขายความฝัน ยิ่งอาจต้องนั่งต่อหน้า กันหลายรอบจึงปิดการขายได้

คุณลูกค้าที่มาจากจินตนาการ ที่มาช่วย แฟนพันธ์แท้ ทำปาฎิหาริย์
เราไม่เคยเจอกันมาก่อน ขั้นตอนการขาย
ขายผ่านแฟ้มข้อมูลค่ะ เราไม่เคยมีการคุยกันมาก่อน ไม่ว่าโดยตรง หรือทางโทรศัพท์ เราเจอกันวันแรกในห้องตรวจของแพทย์ค่ะ คุณลูกค้ามาก่อนเวลาค่ะ แต่แฟนพันธ์แท้ มาสายเพระว่า คืนนั้นตื่นเต้นมาก ทั้งคืนตอนไม่หลับ ก็เป็นเรื่องปกติว่า ต้องมาหลับเอาตอนเช้าวันนั้นค่ะ

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 26/06/2009
พรุ่งนี้จะมาเล่า
พลังงานโกรธและกังวล ที่กำกับลงไปในข้อมูลค่ะ

ว่ามีผล ดี/ร้าย อย่างไร
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 26/06/2009
เข้าเรื่องพล้งงานกำกับลงในข้อมูลต่อค่ะ

เวลาทำเอกสารเพื่อสื่อสารกับฝ่ายต่างๆ ของบริษัท ปกติโดยส่วนตัวไม่ค่อยที่จะต้อง Copy เก็บไว้นอกจากเริ่มเกิดเรื่องผิดพลาดก็จะเริ่มปรับเปลี่ยนบางเรื่องราว แต่บังเอิญอยู่ใกล้คุณหัวหน้าที่เค้ารอบคอบมาก(ต้องบอกว่ามากกกก จนถึงย้ำคิดย้ำทำและมองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อนทุกเรื่อง) บางเรื่องบางราวเค้า copy เผื่อหาย 4-5ชุด แล้วก็นำการกระทำเล่านี้มาสอนให้เราทำตาม แล้วยังตอกย้ำว่า(รวมทั้งตำหนิและติเตียน) เราช่างเป็นคนไม่รอบคอบ เลินเล่อ.....ถูกสะกดจิตอยู่ยังงี้ติดต่อกัน 7-8ปี หลังจากนั้นเกิดการเหนี่ยวนำ(ทางอากาศ) ทุกเรื่องทุกราวที่มีอันต้องติดต่อสื่อสาร กับฝ่ายต่างๆ ติดขัดและรุงรัง พอเริ่มกำหนดระยะห่าง(ไม่ฟังข้อมูล ไม่ยอมรับคำปรึกษา หากเค้าพูดในห้องประชุมก็หาเหตุเอาเครื่องคิดเลขมากด หรือแกล้งๆฟัง)

ปัญหาต่างๆ ดีขึ้นมากค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 01/07/2009
เรื่องนี้ เป็นเรื่องประชาสัมพันธ์หลักสูตรค่ะ
หลายครั้งที่ผ่านมา ในองค์กรที่ใหญ่ๆ โดยเฉพาะที่เป็นสถานศึกษาเค้าจะสกรีนข่าวสารที่จะแจ้งบุคคลในองค์กรเคร่งครัดมาก
หากเราต้องการกระจายลงในพื้นที่ให้ทั่วถึง เราต้องยอมที่จะแจ้งไปที่หัวหน้าฝ่ายต่างๆเอง จะไม่มีกระจายข่าวให้

แต่ในครั้งนี้มีเรื่องประหลาดใจค่ะ มี2 สององค์ใหญ่ ที่นำจดหมายข่าวของแฟนพันธ์แท้ ให้เป็นหนังสือเวียน(ประกาศในเว็บ ขององค์กร) คือคณะแพทยศาสตร์เชียงใหม่ และประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายค่ะ ซึ่งมันอาจเป็นเรื่อง บังเอิญ!

แต่ก็บังเอิญว่าช่วงนี้ มีการทำงานของสมองซีกขาวหนักไปหน่อย
จึงคิดว่าเรื่องนี้เป็น

พลังงานที่กำกับข้อมูลค่ะ!

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 04/07/2009
หากมีเหตุการณ์รถของคุณเสียบนถนนสายเปลี่ยว และทันทีที่คุณสงบสติได้หลังจากที่ติดแหง็กอยู่ตรงนั้นหลายชั่วโมง รถคันแรกที่ผ่านมาคือ

รถลาก!!!

คุณมองวว่าช่วงเวลานั้นเป็นเหตุบังเอิญหรือไม่ หากมองให้ละเอียดลึกซึ้งแล้ว ช่วงเวลาดังกล่าวก็สามารถเป็นเสี้ยวหนึ่งของปาฎิหาริย์ได้เช่นกัน
แต่ละครั้งที่เราพบกับเหตุการณืเช่นนี้ เราสามารถเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เหมือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามเรื่องตามราวในโลกอันวุ่นวายใบหนึ่ง

ผม(โชปรา) ไม่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญนั้นไม่มีคคววามหมาย แต่ผมเชื่อว่าทุกเหตุการณ์เป็น"ข่าวสาร"(ข้อมูล :แฟนพันธ์แท้)

คุณเคยฟัง"เสียงในใจ" ที่สงบเงียบซึ่งอยู่ลึกลงไปภายในตัวคุณหรือไม่ "ความรู้สึกจากส่วนลึก" เกี่ยวกับบางสิ่งหรือใครบางคน

เสียงในใจส่วนลึกนั้น เป็นรูปแบบหนึ่งของการสื่อสารซึ่งมักกลายเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแก่การเอาใจใส่อย่างมาก

เหตุบังเอิญก็เป็นรูปแบบของข่าวสารเช่นกัน
และเมื่อคุณเข้าใจพลังต่างๆที่สร้างเหตุบังเอิญให้เกิดขึ้น คุณก็สามารถคควบคุมพลังเหล่านั้นและสร้างเหตุบังเอิญที่มีความหมายของตัวคุณเองได้เป็นฉากๆ

จงใช้ประโยขน์จากโอกาสทั้งหลายที่สิ่งนั้นนำเสนอและพบกับชีวิตที่เต็มไปด้วยสิ่งอัศจรรย์ตลอดเวลาและประหลาดใจในทุกขณะ

ดีพัค โชปรา

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 19/07/2009
มีเรื่องราวมาเล่าสู่ค่ะ

ณ เช้าวันอาทิตย์วันที่อากาศดีแสนดีวันหนึ่ง
dadeedaมีนัดไปทำกิจกรรมเป็นพี่เลี้ยงเด็กวันแรก
ขณะเตรียมการแต่งตัวแต่งรถอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงในใจเค้าบอกว่า "ไม่ต้องเอารถไปหรอก ไปรถเมล์ดีกว่า"
ฉับพลันทันทีความคิดเริ่มขึ้นมาโต้แย้ง
"ไม่เอา ฉันจะขับรถไป ขืนนั่งรถเมล์กว่าจะไปถึง เหนื่อย"
จากนั้นก็เตรียมเจ้ามู่ตู้ด้วยการให้น้ำดื่มลงไป
และขับมันแล่นฉิวออกจากบ้านไปด้วยใจเบิกบาน
ไม่นานเกินอารมณ์เสียๆ จะถามถึง ขับรถเข้าสู่ถนนสายใหม่ที่เพิ่งใช้ไม่นานนัก
ฉับพลันทันใดที่หน้ากระโปรงรถนั้นควันโขมงโฉงเฉง เกย์ความร้อนสูงค่าเกินวัด พรึ่บ!! ...ดับ
เช้าวันอาทิตย์..กับถนนสายใหม่..!!!

ปกติdadeedaทั้งใจร้อนและขี้หงุดหงิด น่าแปลกที่วันนั้นอารมณ์กลับสงบเกินคาด ตกใจและงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตั้งสติกับตัวเอง บอกให้ตัวเองใจเย็นๆ เข้าไว้ ว่าแล้วก็หยิบมือถือเพื่อเรียกหาผู้ช่วยเหลือเป็นการด่วน
แล้วก็ยับยั้งตัวเอง สั่งการให้ตัวเองได้ช่วยเหลือตัวเองในเรื่องรถเสียบ้าง

ลงจากรถเพื่อเรียกแท็กซี่ แต่ให้ตายเถอะ ยามเช้าวันอาทิตย์กับถนนสายใหม่เส้นนี้ช่างร้างไร้ผู้คน กระทั่งรถแท็กซี่เองก็ดูเหมือนจะไม่เคยผ่านมาถึงเส้นทางแห่งนี้ วินมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ตรงไหนหนอมองจนสุดสายตาก็ไม่พานพบ

เหมือนอารมณ์เริ่มปะทุขึ้น กลับเข้าไปนั่งต่อในรถ เปิดเพลง พลันคิดเอาว่านี่ฟ้าไม่เป็นใจให้ฉันเลยใช่มะกะลังจะไปทำดีนะ เซ็งเป็ด แต่สักพักก็สงบสติอารมณ์ได้อีกครั้ง

เวลาเหมือนผ่านไปนานแสนนาน แต่แท้แล้วมันยังไม่ถึง 10 นาทีดีด้วยซ้ำ อัศวินโผล่มาจากซอกมุมไหนยังงงงง อัศวินเสื้อกั๊กสีแดง แป่น แป่น แป๊น

"ลุงคะ รถหนูเสีย ช่วยขับพาไปอู่ที่ใกล้ที่สุดหน่อยสิคะ" ว่าแล้วก็ซ้อนท้ายคุณลุงมอไซค์รับจ้างหาอู่แถวๆ นั้น ซึ่งก็ไม่มี ไม่เปิด

แต่แล้วคลังข้อมูลในหัวก็แผ่ออกฉายภาพอู่ซ่อมรถในซอยบ้านตัวเองที่ยังไม่เคยใช้บริการ แต่ตาและสมองกระทั่งลึกไปสุดจิตคงประทับรับภาพนั้นไว้เพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ

"ลุงๆ ขับไปซอยท่าอิฐดีกว่า ลองไปอู่นี้ดู หนูจำชื่อไม่ได้แต่เคยเห็นผ่านตา น่าจะเปิดนะ"

อู่ช่างเอกบริการ คุณเจ้าของที่งงกับการไปเยือนของdadeedaมิใช่น้อย

สุดท้ายแล้วเราและคุณช่างเอกจึงได้ไปลากจูงมู่ตู่มารักษาเนื้อตัวกัน และเมื่อช่างเอกเปิดกระโปรงรถดู ทั้งเราและช่างถึงกับต้องส่ายหน้า ยิ่งโดยเฉพาะเราด้วยแล้ว...เกินจะเอ่ยถ้อยคำใด มันเป็นเพราะเราเองหรอกหรือนี่

dadeedaลืมปิดฝาหม้อน้ำตอนที่ให้มู่ตู้ดื่มน้ำค่ะ และพอขับๆไปแรงดันจึงดันน้ำออกจนหมดไม่เหลือหรอ ความร้อนขึ้นสุดขีดจนดับหมดสภาพ

เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เชื่อว่า 1.รอยประทับผ่านอู่ช่างเอก 2.เสียงภายในที่เตือนก่อนออกจากบ้าน และ 3.คุณลุงอัศวินเสื้อกั๊กสีแดง มันมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน และหาใช่เป็นความบังเอิญแม้สักกระผีกเดียว เริ่มเชื่อแล้วว่าความบังเอิญไม่เคยเกิดมีขึ้น ทุกสิ่งเป็นไปตามเหตุและปัจจัย และเราย่อมรับรู้ถึงมันได้ล่วงหน้า ปกป้องตัวเองได้ล่วงหน้า รวมไปถึงควบคุมพลังงานและสร้างเหตุบังเอิญ (ที่ไม่บังเอิญ) ที่มีความหมายของตัวเองได้ ขอเพียงเราเชื่อมั่นในพลังข้างในของเรา

ผลของการดื้อแพ่ง ไม่ทำตามทั้งที่ได้ยินเสียงภายในของตัวเองครั้งนี้นั้น ถึงมันจะทำให้dadeedaต้องเสียเงินอีกมากมายเพื่อรักษาเจ้ามู่ตู้ เสียอารมณ์บางเสี้ยวที่คิดว่าทำไมกำลังจะไปทำดีฟ้าจึงไม่เป็นใจ แต่ไม่ว่าจะเสียอะไรไป อย่างไรมันก็ได้สร้างความภาคภูมิใจในการได้ช่วยเหลือตัวของตัวเองในเบื้องต้นก่อนให้กับdadeeda ไม่ใช่เอะอะก็กดมือถือเรียกหาผู้คนมาช่วยร่ำไป และทำให้dadeedaเพิ่มความเชื่อมั่นต่อพลังของสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงว่า อย่างไรเสียพลังแห่งสรรพสิ่งนั้นก็จะกลับมาช่วยเหลือdadeedaอย่างแน่นอน ขอเพียงมีศรัทธา เชื่อใจ ให้ใจ ขออย่าได้ปริวิตก ขอความกลัวอย่าได้กร้ำกราย ขอเพียงเราคงความคิดที่เป็นสมดุลให้กับชีวิตของเราไว้

และที่สำคัญยิ่งยิ่งอีกเช่นกันกับเหตุการณ์เช่นนี้ นั่นคือ การเริ่มต้นเรียนรู้และรับรู้ถึงเสียงภายในของตัวเอง...อย่างแท้จริง...อีกครั้ง
ชื่อผู้ตอบ : dadeeda ตอบเมื่อ : 19/07/2009
ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ หลักสูตรที่จัดทำอยู่ แฟนพันธ์แท้เคยจินตนาการว่า เป็นประโยชน์มหาศาลกับผู้คนที่ต้อง เข้าห้องผ่าตัด โดยผ่านการยอมรับและเรียนรู้โดย วิสัญญีแพทย์/วิสัญญีพยาบาล

แต่ก็ยังไม่เคยมีสัญญาณ ตอบรับจากจักรวาลค่ะ

แต่ในครั้งนี้จักรวาลตอบรับแบบยัอนหลังให้โดยส่ง วิสัญญีแพทย์มาอบรมมากกว่า 3ท่านค่ะ

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 19/07/2009
เมื่อ 4-5เดือนที่ผ่านมา ได้มีโอกาสดูแล(จิตใจ)ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายค่ะ
ก็ทำหน้าที่โทรฯเยี่ยมเยียมหากไปเยี่ยมไม่ได้
มีอยู่หนนึง ทันทีที่โทรฯไป ผู้ป่วยบอกว่าวันนี้กำลังใจตกมากไม่มีแรงกดโทรศัพท์หาใครๆได้(กลัวเจอคนไม่ว่างคุยด้วย)
ได้อธิฐานจิตว่า ขอให้ใครก็ได้ที่คุยแล้วสบายใจ โทรฯเข้ามาคุยหน่อย
ไม่ถึง 5นาที แฟนพันธ์แท้ก็โทรฯเข้ามือถือของเธอ
น้ำเสียงตื่นเต้นมากที่แรงอธิฐานเกิดผลทันที

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 24/07/2009
แฟนพันธ์แท้ได้เคยเล่าถึงเหตุการณ์ "ไหล่คล่อง"เมื่อคราวจัดอบรมครั้งแรก กลุ่มผู้คนที่รัวววว.......กันเข้า มา 10คนสุดท้าย ของ 2วันสุดท้ายของการเตรียมงาน ใน10คนนั้น มีอยู่ 7-8คนที่กลายเป็นความสัมพันธ์ที่เรียกได้ว่าสนิทสนม ในเวลาต่อมา

มีอยู่หนึ่งท่านที่มาแบบเฉียดฉิวที่เคยเล่าไปคือก่อนตัดสินใจกดโทรฯเข้ามาสมัครโอนเงิน 20นาทีก่อนหน้านั้น มีแพทย์ประจำบ้าน(เป็นชื่อใช้เรียกคนที่จบแพทย์แล้วเรียนต่อเฉพาะทาง) มาปรึกษาโรคของผู้ป่วยที่จะต้องอาศัย"การสั่งจิต"

มีความแปลกประหลาดระหว่างอาจารย์ท่านนี้ กะแฟนพันธ์แท้ก็คือ
การสื่อสารค่ะ
เวลาคุยกันตามปกติเนี่ยกะคู่การสนทนาอื่นๆ ตัวเองจะต้องระมัดระวังมาก(เปลี่ยนเรื่องเร็ว ผู้คนเค้าตามไม่ทัน)
แต่กับอาจารย์ท่านนี้ จะเปลี่ยนกี่เรื่อง , พูดต่อจากที่คิดอยู่ในใจโดยไม่ต้องเท้าความสามารถเข้าใจได้ทันที,บางทีพูดออกมาผิดๆจากที่ตั้งใจจะสื่อ แต่อาจารย์ก็สามารถรับรู้สิ่งที่ต้องการสื่อได้ถูกต้อง จนหลายๆครั้ง ต้องหัวเราะกันขำๆ
อะไรกันเนีย!!!


ในขระนี้คุรอยู่ที่นี่ เป็นหลักฐานที่มี่ชีวิตของสิ่งอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพียงแค่เราไม่สารถเห็นสิ่งอัศจจรรย์ เหมือนกับที่เราตะลึงไปกับการดูมายากลและได้รับความพึงพอใจในทันที แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้น

มีปาฎิหาริย์มากมายที่ต้องใช้เวลากว่าจะเผยตัวออกมา และได้รับความชื่นชม


ข่ายใยความสัมพันธืซับซ้อนและไม่สามารถคาดเดา ได้สร้างโอกาสที่พึ่งเกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่วงคุณจะไม่เคยได้รู้ว่าเมี่อไหร่ที่ประสบการณ์ชีวิตสักอย่างจะปรากฎขึ้นอีกครั้งและมันเกิดขึ้นได้อย่างไร

และคุณจะไม่เคยได้รู้เช่นกันว่าเมื่อไหร่ที่เหตุบังเอิญนั้นจะนำไปสู่โอกาสที่ดีในชั่วชีวิต

โชปรา(โขค ดวง ความบังเอิญคุณคือผู้กำหนด)

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 24/07/2009


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code