ปล่อยวาง.......ผลลัพท์
กฎที่คลั่งไคล้ชอบใจ...กฎแห่งการพยายามให้น้อย
กฎที่ทำ"ไม่ได้"บ่อยๆ....กฎแห่งการปล่อยวาง

อยากแชร์ประสบการณ์"ปล่อยวาง" ในภาคสนามการทำงานที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ค่ะ
เคยเปรียบเปรยการใช้ชีวิตและการทำงานเป็น..การเต้นรำ
ในฟลอร์การเต้นรำนั้น...มีสิ่งเร้า..มากมาย(เสียงร้อง,เสียงดนตรี,คู่เต้น,เพื่อนร่วมฟลอร์) เสียงที่สำคัญที่สุดที่ต้องจับจังหวะให้ได้คือ
"เสียงกลอง" หากสมาธิ"หลุด" เต้นต่อไม่ได้
หากหลุดบ่อยๆ.........อาจต้องออกจากฟลอร์ค่ะ

สรุปว่าในเวทีชีวิตจริง...สมาธิ...เป็นเรื่องสำคัญค่ะ
เพราะหากหลุด...อาจทำให้เราต้อง........ออกจากฟลอร์ค่ะ

ได้มีโอกาสมีลูกค้าเป็นผู้หญิงเก่งคนนึง อายุ27ปี ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเรียกว่าสูงในระดับคนรุ่นเดียวกัน เป็นแพทย์เฉพาะทางในคลีนิคเอกชน ทำงานพิเศษมีผลงานวิจัยชนะการแข่งขันที่จะต้องเดินทางไปนำเสนอต่างประเทศ3ประเทศ(3ทวีป)แบบเรียงเดือนกันเลย

ปัญหาที่เกิดกับตัวแทนประกันชีวิตคือ....เธอถูกสุ่มตัวอย่างให้ตรวจสุขภาพ ในเวลาอันแสนยุ่งเหยิงของชีวิตที่จะต้องเตรียมตัว นำเสนอผลงานและเดินทางต่างประเทศ..เหลือเวลาอีกเพียง3วัน...จึงเกิดความ...หงุดหงิด...ไม่มีเวลาที่จะไปตรวจฯ...ไม่ต้องตรวจได้มั้ย??..สุขภาพปกติดีไม่ได้ป่วยไข้...สถานการณ์ตึงเครียด!!!!

แฟนพันธ์แท้มองว่า...ทำอะไรไม่ได้เลย.....ต้องวาง ง ง งอย่างเดียว
จึงได้บอกคุณลูกค้าว่า "ให้คุณลูกค้าทำธุระสำคัญๆให้เรียบร้อยก่อน..เมือเกิดรู้สึกว่าโล่งๆว่างๆ...ค่อยคิดกันอีกที"
ในขณะเดียวกันนั้นในมือก็มีเอกสารจากทางบริษัทมีข้อกำหนดต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในเวลา(เท่านั้นเท่านี้....ซึ่งดูแล้ว...เป็นไปไม่ได้เลย) หากไม่ทันตามเวลาดังกล่าวจะถือว่า....ใบคำขอคุณลูกค้าถูกยกเลิก!

ทั้งหมดคือสิ่งเร้าที่ตึงเครียดในเวทีชีวิตจริงค่ะ
แฟนพันธ์แท้จินตนาการไปที่..แย่ที่สุดคือใบคำขอนี้..ถูกยกเลิกและคืนเชคฯค่ะ.......แล้วก็จินตนาการต่อไปว่า..ถึงตอนกลับจากต่างประเทศแล้วคงจะอารมณ์ดี....ค่อยคุยใหม่..นำส่งเข้าไปใหม่

............รู้สึกโล่งมากทันทีทันใด..........
สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน.....คุณลูกค้าโทรฯกลับมา..และยินยอมไปตรวจค่ะ


วันนี้ฉันจะตกลงใจที่จะไม่ยึดติด ฉันจะปล่อยให้ตัวฉันและสิ่งต่างๆรอบตัว เป็นไปอย่างอิสระ อย่างที่มันเป็น ฉันจะไม่กำหนดความคิดว่าสิ่งต่างๆ ต้องเป็นไปอย่างไร ฉันจะไม่ฝืนเพื่อให้ได้มาซึ่งผลที่ต้องการท่ามกลางปัญหา ที่อาจจเกิดขึ้น ซึ่งมีแต่สร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้น............ฉันจะปฎิสัมพันธ์ต่อทุกๆสิ่งด้วย...

................การปล่อยวาง..........ดีพัค โชปรา


ชื่อผู้ส่ง : แฟนพันธุ์แท้ ถามเมื่อ : 06/05/2009
 


คุณแฟนพันธ์แท้ ตั้งกระทู้ได้โดนใจมากครับ

เป็นประเด็นที่คนเข้าใจพระพุทธศาสนาผิดมาตลอด

ว่าปฎิบัติตามหลักธรรมแล้ว ก็ต้องอยู่บ้านเล็กๆ ซ่อมซ่อ ไม่ต้องทำมาหากิน เพราะพระท่านให้ปล่อยว่า

แต่จริงๆแล้ว คำสอนของพระพุทธศาสนาคือ ทำเหตุให้เต็มความสามารถ มีเท่าไรใส่ให้หมด พอเสร็จแล้วก็ปล่อยวางผล

ซึ่งแม้ผมจะรู้หลักการ แต่ก็ทำไม่ค่อยได้ในทุกเรื่องครับ
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 06/05/2009
^^ ขอบคุณคุณแฟนพันธ์แท้มากมายค่ะ

เป็นกฎที่ค้างคาใจหนูมากมายเลย
แล้วเหมือนตอนนี้ ที่ค้างคา มันค่อยๆหมดไปทีละนิด

ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
หนูจะนำไปปฏิบัติในเวทีชีวิตหนูบ้าง ^^

เห็นภาพกระจ่างชัดเลยค่ะ ขอบคุณจริงๆนะคะ

ชื่อผู้ตอบ : Fangly ตอบเมื่อ : 06/05/2009
วันนี้...ฉันจะตระหนักถึงความไม่แน่นอน เหมือนดังกับว่าามันเป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในประสบการณ์ของฉัน

และในความเต็มใจยอมรับซึ่งความไม่แน่นอนของฉันนี้....หนทางทั้งหลาย จะปรากฎออกมาเองตามธรรมชาติท่ามกลาง...ปัญหา..ความสับสน...ความไม่เป็นระเบียบ...และความวุ่นวายต่างๆ

ดูไม่แน่นอนมากเท่าไหร่ ฉันยิ่งรู้สึก...ปลอดภัย!!!!....มากขึ้นท่านั้น!!
เพราะความไม่แน่นอนคือ..............
............ทางเดินแห่งอิสรภาพของฉัน...ฉันได้พบกับความรู้สึกมั่นคงที่แท้จริง........


อะไร??ปิดกั้นความปราถนาของเรา......ออกจาก จักรวาลที่อุดมสมบูรณ์

...........คำตอบที่ถูกต้องคือ..............การไม่ปล่อยวาง
(ดีวีดี....7กฎฯ)
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 06/05/2009
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
หนูอยากรบกวนถามคุณแฟนพันธ์แท้เกี่ยวกับ ดีวีดี 7 กฎฯ อ่ะค่ะ

หนูสนใจอยากดู ดีวีดีนี้นะค่ะ รบกวนขอได้ที่ใครบ้างคะ
คุณลุงนันท์รึเปล่าคะ ....

หนูได้อ่านเกี่ยวกับ ดีวีดีนี้จากหลายกระทู้แล้ว
และสนใจอยากดูอย่างมากเลยค่ะ

รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^

ชื่อผู้ตอบ : Fangly ตอบเมื่อ : 07/05/2009
รู้สึกได้ที่ใจ เห็นภาพชัดเลยค่ะคุณแฟนพันธ์แท้ .....ขอบคุณค่ะ

สองวันที่แล้วได้มีโอกาสไปกราบพระอาจารย์ทองแดง วรปญฺโญ (วัดพระเจ้าตนหลวง เชียงใหม่ )ก่อนที่ท่านจะกลับไทย พอท่านเจอหนึ่ง ท่านก็บอกว่า "โยมการงานที่ทำน่ะ ปล่อยวางนะ ปล่อยวางไม่ใช่ปล่อยปละละเลย.... แต่ปล่อยวางในผลลัพธ์ "

แล้ววันนี้คุณแฟนพันธ์แท้ก็นำ " ปล่อยวาง.......ผลลัพท์" มาให้เห็นอีก ( เดี๋ยวนี้มิราเคิลเกิดขึ้นแบบย้ำแล้ว ย้ำอีก) สุขใจดีจริงๆ (ยิ้ม)

ขอบคุณ ขอบคุณ
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 07/05/2009
ขอบคุณครับ

ปล่อยวาง...ครับ พอเราไม่แบก ก็ เบานะครับ พอลอยตัว..ผลลัพพท์ก็ปรากฎตัว ผมเองก็....แม้เพียงเล็กน้อยแต่ให้ดีค่อยๆขึ้น

ขอบพระคุณคุณแฟนพันธ์แท้ครับ ยิ้มๆ
ชื่อผู้ตอบ : โก้ครับ ตอบเมื่อ : 07/05/2009
ถ้าน้องฟางเจอคุณแม่แจงอยู่แล้วใช้วิธี copyที่นั่นเลยจะสดวกมั้ยคะ??
ลงนันท์..นี่หมดเขตลงทะเบียนดูท่าทางจะไม่สะดวกรึเปล่า?
รึมั้ยก้อ...รับปากดูให้...แล้ว...ลืมคะ(แฟนพันธ์แท้เจอมากะตัวเองเลยค่ะ)

เห็นว่าโรค อัลไซเมอร์กำลังถามหาค่ะ
อิอิ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธ์แท้ ตอบเมื่อ : 07/05/2009
หลานฟางครับ หมดเขตรับสมัครขอรับไปเดือนมะโว้แล้ว แต่ปกติก็มีคนขอมาเรื่อยๆ ลุงก็จะทำยักท่าเล็กน้อย แล้วก็จัดส่งไปให้

แต่กับป้าบางคน ลุงก็แกล้งลืมให้ จนพอจะหายหมั่นไส้แล้วจึงนึกขึ้นได้ ก็เท่านั้น ไม่ได้เป็น อัลไซเมอร์ อะไรหรอก เป็นโรค อัลหมั่นไส้ ซะมากกว่า จ้ะ

แล้วสัปดาห์หน้าลุงจะส่งไปให้ครับ ว่าแต่ส่งลูกสาวมาเที่ยวเล่นแล้ว คุณแม่ jang กลับหายไป สบายดีหรือเปล่า หรือกำลังชุลมุนกับการเปิดสาขาอยู่ครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 07/05/2009
น่าจะเกี่ยวกับสาขาใหม่ค่ะ อิอิ ยังไม่ได้โทรคุยกะคุณแม่เลยเหมือนกันค่ะ ช่วงนี้ ฟางก็งานเข้า อิอิ

ขอบคุณคุณลุงนันท์ สำหรับดีวีดีนะคะ ... จะได้ดูแล้ว
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^^

วันนี้มีบททดสอบ คล้ายๆคุณแฟนพันธ์แท้ มาให้หนูได้ฝึกปฏิบัติการปล่อยวางด้วยค่ะ หุหุ ....
(แต่หนูต้องอาศัยคนช่วยค่ะ ขอบคุณผู้อ่านที่ช่วยแนะนำ ^^)

การปล่อยวาง นี่มันสุดยอดจริงๆเลยค่ะ ...
แบบที่น้าโก้ว่า "พอเราไม่แบก ก็ เบานะครับ พอลอยตัว..ผลลัพพท์ก็ปรากฎตัว ผมเองก็....แม้เพียงเล็กน้อยแต่ให้ดีค่อยๆขึ้น"

อะไรมันจะเกิด ก็ปล่อยให้มันเกิดไป ...


ขอบคุณนะคะ ... ^^

ชื่อผู้ตอบ : Fangly ตอบเมื่อ : 07/05/2009
คำพูดของพระอาจารย์ทองแดง ที่น้าหนึ่งเอามาเล่าไว้ว่า "ปล่อยวางไม่ใช่ปล่อยปละละเลย . ." ช่วยกำกับวิธีคิดไว้ได้ดีจริงๆ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 08/05/2009
อ่านตอนแรกนึกว่าคุณหนึ่งมาเชียงใหม่ซะอีก(ไม่บอกล่าวกันบ้าง)
มาแล้วไม่บอก..แอบน้อยใจนะเนี่ย
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 08/05/2009
เรื่องนี้ตอนแรกจะเขียน...หลังจากคุณkarn บอกเล่า...จักรวาลขี้เล่น..
มันอาจไม่ได้เป็นปาฎหาริย์ใหญ่โต.......ในมุมมองส่วนตัวแล้วก็คิดว่า
เป็นความอัศจรรย์ค่ะ

กลุ่มคุณลูกค้าที่ขายในรูป"วางแผนการเกษียณ" ส่วนใหญ่หากมีโอกาส"นั่งต่อหน้า" คำนวณความต้องการ,วิเคราะห์ค่าเงินเฟ้อ(ปัจจุบัน/อนาคต) เกือบทุกราย.....ต้องทำเพิ่มค่ะ

มีอยู่รายนึงคำนวณยังงัยๆสิ่งที่เค้าเตรียมไว้แล้ว"เพียงพอ"(มีความมักน้อยเหมือนคุณน้องdadeeda นี่เลย) แฟนพันธ์แท้สรุป/ทบทวน แผนฯเสร็จแล้ว.......กินข้าวกันดีกว่า.......

ช่วงเวลานั้น.......คิดถึงเรื่องนี้ค่ะ

ฉันเชื่อมั่นว่า เมื่อใดก็ตามที่ดูเหมือนสิ่งต่างๆ จะไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น มันจะต้องมีเหตุผล และนั่นเป็นเพราะแผนการของจักรวาลได้ออกแบบมาเพื่อให้ฉัน ได้รับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก่วาที่ฉันนึกคิดเอาไว้.......ฉันจะยอมรับปัจจุบันอย่างที่มันเป็น และทำอนาคตให้ปรากฎรูปขึ้น โดยผ่านทางความมุ่งมั่นและความปราถนา ที่มาจากส่วนลึกที่สุด ที่ได้เก็บรักษามันไว้ภายในใจของฉัน(.....คิดถึงคุณลูกค้ารายอื่นต่อจากนี้....ไม่ใช่รายที่กำลังนั่งกันอยู่ต่อหน้าในตอนนั้น)

อยู่ๆ..คุณลูกค้าคนดังกล่าวก็หัวเราะ...แล้วถามว่า
"วันนี้มาเลี้ยงข้าวเนียะ..ต้องการมาขายเพิ่มใช่มั้ย??"
แฟนพันธ์แท้ต้องตอบ
"ถามจริงๆ..คงต้องตอบตามจริงว่า..ใช่!!....ก็เตรียมไว้มากมายแล้ว....ไม่มีอะไรต้องแนะกันแล้ว"
สิ่งที่ประหลาดก็คือ..เค้าหัวเราะชอบใจมากกกกกก(แบบไม่เคยเป็นมาก่อน)
"ไหนๆก็เตรียมข้อเสนอมาแล้ว...ไม่ใช่เหรอ??..ก็เอาออกมาให้ดูเลย!"
สรุปว่ารายนี้ปิดการขายได้ในจำนวนที่...มากกว่าที่เเตรียมเสนอไป 1.5เท่าค่ะ

.............ทบทวนเรื่องราวทั้งหมดดู...ก็ยังงงๆว่านี่มันกฎข้อไหนกัน??
คงเป็นดังที่คุณนันท์บอกไว้มั้งว่า...ทุกกฎซ้อนทับกันอยู่..เอาตัวเราจุ่มลงไปตรงส่วนของทะเลก็ต้อง..เปียกน้ำทะเล...เหมือนๆกัน
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 08/05/2009
ฟางพอเจอกับปัญหาแล้วลองใช้วิธีนี้
ได้ผลเป็นยังไง ก็เอามาแชร์ กันบ้าง

ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 08/05/2009
วิธี ที่คุณแฟนพันธ์แท้แชร์ ล่าสุดใช่เป่าเอ่ย

วันนี้ งานเข้าอีกแล้วแหละ เหอๆๆ

ก็ปล่อยไปตามอากาศ ฮ่าๆ

เด๋วไว้จะขยายความให้ฟัง อิอิ

ปล. ขอบคุณคุณแฟนพันธ์แท้มากๆเลยนะคะ การแชร์ของคุณแฟนพันธ์แท้เป็นประโยชน์ต่อหนูมากมายเลยค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : Fangly ตอบเมื่อ : 08/05/2009
ผมมีบันทึกเตือนใจไว้อย่างนี้ว่า . .

ทุกอย่างมันจะเริ่มต้นผิดพลาดในทันทีทันใด ที่เราคิดว่ามันผิดพลาด
ทุกอย่างมันจะเริ่มต้นเลวร้ายในทันทีทันใด ที่เราคิดว่ามันเลวร้าย
ทุกอย่างมันจะเริ่มต้นล้มเหลวในทันทีทันใด ที่เราคิดว่ามันล้มเหลว

ทุกอย่างมันจะไม่เป็นอะไร ตราบใดที่เรามั่นใจว่ามันกำลังดำเนินไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

น่าจะเรื่องเดียวกับที่คุณแฟนพันธุ์แท้เล่ามานะครับ

หลานฟางมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ลุงปล่อยวางไม่ได้สักที หลานฟางเล่นเรียก ลุงนันท์ น้าหนึ่ง น้าโก้ แต่ไม่ยอมเรียก คุณแฟนพันธุ์แท้ว่า คุณป้า ทำอย่างนี้ได้ งัยอ่ะ . . ไม่ถูกต้อง ลุงไม่ยอมจริงๆ ด้วยครับ ฮึ่มๆ !
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 08/05/2009
ในที่สุด..ก็แสดงตัวตนว่าเป็นคน..ช่างขี้อิจฉา..และริษยาน่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 09/05/2009
โธ่ . . ผมนี่แหละ จิ๊กโก๋ ขี้อิจฉา ตัวจริง คร้าบบบ !
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 09/05/2009
"ขอบคุณ" คุณแฟนพันธ์แท้เช่นกันค่ะ เพราะการแชร์ของคุณแฟนพันธ์แท้ก็เป็นประโยชน์ต่อ "หนู" (ตัวปลอม) มากมายเหมือนกันนะคะ ( ยิ้ม )

ระยะหลังๆนี่ใจคงอยู่ที่ภาคเหนือขนาดฝันเลยนะคะ (เรื่องจริง) หากหนึ่งได้ไปเชียงใหม่จริงๆต้องบอกคุณแฟนพันธ์แท้ทราบเป็นคนแรกๆแน่นอนค่ะ( ยิ้ม ) แล้วเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันเนาะ (อิ อิ ) พี่จิ๊กโก๋จะได้อิจฉา ตาร้อนผ่าวววว ..... (อิ อิ )



เอ

ชื่อผู้ตอบ : "หนู" หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 09/05/2009
ขอโทษค่ะ ไม่รู้ คำว่า "เอ" เค๊าดันโผล่มาได้ยังไง ( ฮา )



ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 09/05/2009
เพื่อสนับสนุนว่า
ทางโลกและทางธรรม...เค้าพูดเรื่องแล้วเดียวกัน
วันนี้มีคำสอนจาก...เทพไท้เทวา...มาฝากค่ะ

จงขอ...แล้วให้ลืม
จงหวัง...แล้วให้วาง

ใกล้เคียง...การปล่อยวาง..มั้ยคะ???
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 11/05/2009
ดีจังครับ ฟังง่ายดี
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 11/05/2009
เข้ามาสนับสนุนการปล่อยวางด้วยคนค่ะ เพราะพอลองตรวจสอบชีวิตแล้ว ปล่อยวางเมื่อไหร่เป็นได้เรื่อง(ดี) เมื่อนั้นค่ะ ได้ดีแบบที่ไม่ทันรู้ตัวว่าเป็นเพราะการปล่อยวางแท้ๆ เชียว

แต่นอกจากปล่อยวางแล้ว dadeedaขอเพิ่มการยอมรับอย่างที่มันเป็นไปเข้าคู่กันด้วยนะคะ ที่จับมันเข้าคู่กันเพราะประสบกับตัวเองมาอย่างล่าๆ ค่ะ

ไม่นานมานี้dadeedaอยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหนึ่งมากมาก คิดไปไกลใหญ่โตว่าต้องเป็นเรา เราช่างเหมาะสมกับกิจกรรมนี้ที่สุด จึงตั้งใจและหวังไว้สูงมาก สร้างมโนภาพชัดเจนมาก มั่นใจมาก แต่ติดที่..ยึดมั่นและถือมั่นมากมาก หลงลืมการปล่อยวางที่เคยเป็นปกติธรรมดาของตัวเอง สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ "แห้ว"

ณ ช่วงเวลา "แห้ว" นั้น รู้สึกเสียดายโอกาสที่คิดว่าน่าจะได้รับ และไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไม่สำเร็จทั้งที่มันช่างครบถ้วนกระบวนความมาก

ชีวิตค่อยๆ พาให้ได้ไปพบกับคำตอบที่มีอยู่แล้ว แต่ความคิดได้บดบังเอาไว้ สิ่งนั้นก็คือสิ่งนี้ คือการปล่อยวาง วางใจอย่างแท้จริง สบายๆ กับชีวิต กับเรื่องราว กับเป้าหมาย กับทุกสิ่ง

แต่ในดีมีเสียในเสียมีดีอย่างที่มีใครเคยกล่าวไว้ dadeedaไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเสียดายหรือเสียใจไปนานนม ตั้งจิตว่าพลาดสิ่งนี้ไปนั่นอาจเป็นเพราะจักรวาลต้องการมอบประสบการณ์บางอย่างให้กับเรา ซึ่งก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร และมันจะดีมั้ย จึงยอมรับ "แห้ว" ไว้ในอ้อมใจได้ในที่สุด

และใช่ค่ะ เมื่อเราปล่อยวาง วางใจกับชีวิต ยอมรับกับสิ่งที่เป็น เป็นหนึ่งเดียวกับปัจจุบัน ประสบการณ์ต่อมาหรือสิ่งที่จักรวาลจัดสรรมานั้น แม้นไม่อาจทดแทนกับสิ่งที่เคยมุ่งมาดไว้ แต่มันก็ช่าง...ถูกต้องและตรงเวลาที่สุดแล้ว

ณ ความมุ่งมาดปราถนาบทนี้จึงเตือนให้dadeedaหวนกลับมาระลึกรู้ถึงการปล่อยวางและยอมรับ...ได้อีกครั้ง

ชื่อผู้ตอบ : dadeeda ตอบเมื่อ : 14/05/2009
ขอดีจังครับ อีกที
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 14/05/2009


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code