หนังสือ THE BOOK OF SECRETS
พอดีช่วงนี้ผมปิดเทอมว่างๆน่ะครับ ก็เลยลองฝึกปือการเป็นแปลหนังสือดู ซึ่งตอนนี้กำลังแปลหนังสือ the book of secrets ของดีพัด โชปรา อยู่น่ะครับ ซึ่งวางขายในอเมริกาหลังจากหนังสือโชค ดวง ความบังเอิญฯ1ปี(เล่มนี้วางขายปี 2004 โชค ดวงฯวางขายปี 2003)
เล่มนี้จะมีความลับด้วยกัน 15 ข้อ ตอนนี้กำลังแปลข้อที่ 4อยู่ เพราะถูกใจชื่อเรื่องน่ะครับ what you seek,you already are
มีประโยคที่ไม่ได้อยาถามคุณนันท์ดูครับ
and they ate rice out of a bowl and drank water or tea, uasually out of the same bowl ใช่แปลว่ากินข้าวออกนอกชามแบบหกเรี่ยราดหรือเปล่าครับ แล้วก็อีกประโยค and danced to Beatles records อันนี้ใช่เต้นพร้อมเปิดแผ่นเสียงBeatles นี้ชื่อวงหรือเปล่าไม่แน่ใจ ยังไงเดี๋ยวแปลเสร็จจะเอามาโพสท์ให้อ่านกันครับ

คุณนันท์ครับผมสนใจดีวีดี what the bleep ที่คุณนันท์พูดให้ฟังจังเลยครับ แล้วหนังสือเล่มใหม่ที่คุณนนัท์บอกจะออกปลายเดือนมกราคม เกี่ยวกับกฏแห่งการดึงดูดเนี่ยผมรออุดหนุนอยู่นะครับ
ชื่อผู้ส่ง : นิก-สปิรต-นิวเอจ ถามเมื่อ : 01/03/2009
 


คุรนิกครับ ผมไม่ได้เซียนอังกฤษ ขนาดที่คาดหวังได้นะครับ ถ้าอ่านจากประโยค and they ate . . ความหมายก็จะน่าทำนองที่คุณนิกว่าครับ แต่ปกติผมจะต้องอาศัยประโยคก่อนหน้าหรือหลัง หรือความหมายรวมของบทหรือย่อหน้านั้นประกอบด้วย

ส่วนเรื่อง and danced to Beatles records ก็น่าจะใช่เช่นกัน Beatles เป็นชื่อวงดนตรีในยุคปี 60 ที่โด่งดังที่สุด เป็นอมตะนิรันดร์กาลครับ คุณนิกเกิดไม่ทัน แต่ไม่เคยได้ยินชื่อเลยเหรอครับ บางทีก็เรียกว่า วงสี่เต่าทอง ครับ

ดีวีดี what the bleep ส่งไปให้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่ได้อีกเหรอครับ ถ้างวดนี้ไม่ได้อีก ผมว่าบ้านคุณนิกต้องมีความสับสนบางอย่างกับบุรุษไปรษณีย์แล้วล่ะครับ
ส่วนเรื่องหนังสือ ล่าช้า ยังไม่เสร็จครับ เป็นแบบพวกออกตามสะดวกน่ะครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 02/03/2009
ผมขอชื่อชมคุณนิกที่มีฉันทะมากกว่าผม
ผมเองเคยคิดจะแปลหนังสือเหมือนกัน แต่ฉันทะต่ำ
จึงแปลได้นิดหน่อยก็เลิกไป (จริงก็มีเรื่องอื่นเข้ามาเยอะแยะด้วยแหละครับ)

แต่ผมขออนุญาตแชร์เรื่องการแปลหน่อยครับ เพราะเคยได้ยินหลายคนที่อ่านหนังสือแปลเค้ามาบ่นๆให้ฟังแล้วมีบางอย่างที่ผมก็เห็นด้วย

หนังสือแปลส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่หนังสือแนวนวนิยาย เช่น แฮรี่พอตเตอร์ หรือหนังสือนิยายกำลังภายใน มักจะประสบปัญหาอย่างเดียวกันคืออ่านยากกว่าภาษาไทยครับ อันเนื่องมาจากโครงสร้างประโยคของแต่ละภาษาไม่เหมือนกัน การใช้ประธานของประโยในทุกประโยค(กรณีเป็นภาษาอังกฤษ) และผู้แปลพยายามที่จะแปลให้รู้เรื่องประโยคต่อประโยคให้เทียบเท่ากับประโยคต้นฉบับ ทำให้ภาษาที่ได้ออกมาเป็นภาษาไทยแต่มันจะอ่านแล้วสะดุดๆ ต้องใช้ความพยายามอีกขั้นหนึ่งในการตีความ หรือจะเรียกว่าแปลไทยเป็นไทย

ในอดีตมีสำนักพิมพ์อยู่ที่หนึ่งที่เป็นต้นตำหรับหนังสือแนว how to สมัยใหม่ในเมืองไทย นั้นคือ สนพ the boss สำนักพิมพ์นี้ได้รับคำยกย่องในเรื่องารแปลหนังสือที่อ่านง่าย เพราะหนังสือที่แปลนอกจากจะเป็นภาษาไทยแล้วยังเป็นภาษาคนด้วยครับคล้ายกับได้นั่งพูดคุยหรือเค้าคอร์สสัมนากับคนเขียนเลยครับ

ก่อนผมจะเขียนคอมเม้นท์ อันนี้ผมคิดแล้วคิดอีกว่าจะเขียนดีหรือเปล่า เพราะหลายๆคนที่แวะเวียนมาในเว็บบอร์ดนี้ก็เป็นนักแปลนักเขียนกันทั้งนั้น ผมเกรงว่ามันจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเขียนการแปลอ่านแล้วรู้สึกไม่สบายใจ หรือไม่พอใจ (หรือทั้งสองอย่าง) ซึ่งก็อยากจะบอกตรงๆว่า ผมตัดสินใจเขียนด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ไม่ได้ตั้งใจจะว่าใคร แต่เขียนในฐานะ"ผู้อ่าน" คนนึงเท่านั้น ....หวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจความปรารถนาดีของผมนะครับ ...
ชื่อผู้ตอบ : ผู้อ่าน ตอบเมื่อ : 02/03/2009
เจตนาอันบริสุทธิ์ถึงบางคนจะไม่เข้าใจและตีความไปในแง่ลบก็ไม่เป็นไรครับ เราก็ทำเท่าที่หัวใจเรารู้ว่ามันถูกต้องก็พอครับ อีกหน่อยมันจะเป็นแรงดึงดูดพลอยให้คนที่ไม่เข้าใจเราหันกลับมาเข้าใจเราก็เป็นได้

ส่วนเรื่องโครงสร้างภาษาไม่เหมือนกันอันนี้เห็นด้วยครับ แต่ก็ต้องชื่นชมคนที่เขาสามารถแปลภาษาอังกฤษยากๆให้เป็นภาษาไทยภาษาชาวบ้านๆได้ นับถือๆครับผม ส่วนผมชื่นชมคุณอัญชลี วิทยะ ผู้แปลหนังสือ โชค ดวง ความบังเอิญมาก เนื่อง ดีพัค โชปรา เป็นคนที่ใช้ศัพท์แสงได้ยากเอามากๆ(เหมือนกับดีพัคไม่อยากให้คนธรรมดา เดินดิน กินข้าวแกง ได้อ่านยังไงยังงั้น) แถมเล่มโชค ดวงฯนี่มีพระสูตรและคำศัพท์ที่เป็นภาษาสันสกฤตที่แปลเป็นภาษาอังกฤษอีกต่อหนึ่ง แล้วคุณอัญชลีสามารถแกะออกมาให้เป็นภาษาไทยได้นับถือครับ

ส่วนดีวีดี what the bleep ต้องขอบคุณคุณนันท์สุดขั้วหัวใจอีกครั้งหนึ่งพร้อมทั้งขอบคุณสำหรับ ดีวีดี 7กฏด้วย ดีวีดี 7กฏได้รับแล้ว แต่ดีวีดี what the bleepฯ สงสัยบุรุษไปษณีย์ไม่ทราบว่าแอบชอบสาวคนเดียวกับผม หรือเห็นผมหล่อกว่า(ฮา)ก็ไม่ทราบ ป่านนี้ยังมาไม่ถึงเลยครับ เมื่อ 2วันก่อนก็มีคนเอาพัสดุมาส่งให้ผมที่บ้าน ผมล่ะดีใจนึกว่าดีวีดีที่คุณนันท์ส่งมาให้ที่ไหนได้เขาจะส่งให้อีกคนแต่ส่งผิดบ้านมาส่งที่บ้านผมแทน ช่วงนี้หลายอย่างเริ่มสับสนมึนงง คงจะต้องมีสติสัมปชัญญะกันให้มากกว่านี้เป็นของขวัญปิดเทอมใหญ่หัวใจพองโตครับ
ชื่อผู้ตอบ : นิก-สปิริต-นิวเอจ ตอบเมื่อ : 02/03/2009
เชียร์ คุณนิกสุดขั้วหัวใจครับ แปลแล้วแบ่งปันกันบ้างดีสุด ๆ เลยครับ
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 02/03/2009
ผมได้รับดีวีดี what the bleep แล้วครับคุณนันท์
THANK YOU VERY MUCH FOR GIFT OF LOVE
ชื่อผู้ตอบ : NIC-SPIRIT-NEWAGE ตอบเมื่อ : 02/03/2009
โชคดีและยินดีด้วยครับคุณนิก นึกว่าต้องส่งอีกรอบเสียแล้ว
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 02/03/2009
เมื่อวานผมหาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ไปเจอคำคม ที่มีคนแปลไว้ มีหลายอันที่โดนใจผมมากเลยขอเอามาให้อ่านกัน

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

A human being is a part of a whole, called by us -universe-, a part limited in time and space. He experiences himself, his thoughts and feelings as something separated from the rest…a kind of optical delusion of his consciousness. This delusion is a kind of prison of us, restricting us to our personal desires and to affection for a few things nearest to us. Our tasks must be to free ourselves from this prison by widening our circle of compassion to embrace all living creatures and the whole of nature in its beauty.
มนุษย์คนหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมดที่เราเรียกว่า เอกภพ เป็นส่วนเสี้ยวที่ถูกจำกัดด้วยอวกาศและเวลา เขาได้รับประสบการณ์ด้วยตัวเขาเอง เป็นความคิดและความรู้สึกที่กันออกจากส่วนที่เหลือ นั่นก็คือ มายาคติเชิงการเห็นชนิดหนึ่ง จากความรู้สึกนึกคิดของเขาเอง มายาคตินี้เป็นคุกชนิดหนึ่ง จำกัดเราให้อยู่แต่ความปรารถนา ความรักใคร่สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวจำนวนน้อย ภาระของเราคือการปลดปล่อยตัวเราเองจากคุกชนิดนี้ โดยขยายขอบฟ้าของเมตตาจิต ให้ครอบคลุมทุกสรรพชีวิต และธรรมชาติทั้งหมดในความงามของมัน

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

Gravity is not responsible for people falling in love.
แรงโน้มถ่วงไม่รับผิดชอบสำหรับคนที่ตกหลุมรัก

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

There are only two ways to live your life.
One is as though nothing is a miracle.
The other is as though everything is a miracle.
มีสองวิธีในการใช้ชีวิต คือ
ทางหนึ่งไม่มีอะไรมหัศจรรย์เลย
กับอีกทาง
ทุกสิ่งล้วนมหัศจรรย์

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

These thoughts did not come in any verbal formulation.
I rarely think in word at all.
A thought comes, and I may try it express it in words afterward.
ความคิดเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในรูปของถ้อยคำ ข้าพเจ้าไม่ค่อยคิดเป็นถ้อยคำ
เมื่อเกิดความคิดขึ้นแล้ว ข้าพเจ้าจึงพยายามอธิบายด้วยถ้อยคำในภายหลัง

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

Two things inspire me to awe –
the starry heavens above
and the moral universe within.
มีสองสิ่งที่บันดาลใจให้ข้าพเจ้าเกรงขาม
คือ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และเอกภพของศีลธรรมภายใน

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

Two things are infinite:
the universe
and human stupidity
and I'm not sure about the universe.
มีสองสิ่งที่ไม่มีที่สิ้นสุด คือ
เอกภพ กับ
ความโง่เขลาของมนุษย์
แต่เอกภพนั้นข้าพเจ้าไม่แน่ใจนัก

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

Do not worry about your difficulties in Mathematics.
I assure you mine are still greater.
อย่ารู้สึกกังวลเกี่ยวกับความยากของวิชาคณิตศาสตร์…จนถึงทุกวันนี้ ข้าพเจ้ายืนยันได้ว่าคณิตศาสตร์ยังคงเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับข้าพเจ้า

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

The truth of a theory is in your mind, not in your eyes.
ความจริงแท้ของทฤษฎีอยู่ภายในจิตใจ ไม่ใช่อยู่กับสิ่งที่มองเห็น

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

Knowledge is not wisdom.
ความรู้ไม่ใช่ปัญญา

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

คำคมอันแรกอ่านแล้วมันเป็นเรื่องทางศาสนามากๆ หรือจะพูดว่าเป็นความจริงสามัญ ไม่เกี่ยวกับเรื่องทางศาสนาหรือวิทยาศาสตร์ก็น่าจะถูก
(ผมคัดลอกมาจาก http://seedang.com/stories/41738 ลองตามไปอ่านส่วนที่เหลือกันได้ครับ)
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 03/03/2009
ดีจังครับคุณนันท์ บางอันก็เคยผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้ว บางอันเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ มีคนอยู่อย่างน้อย 2 คน ที่ผมเห็นความลุ่มลึกเกี่ยวกับความเข้าใจต่อชีวิต ต่อโลก ต่อจักรวาล ของเขาแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาเป็นคนธรรมดาอย่างเราๆ นี่แหละ นอกจากอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ แล้ว ก็ยังมีวิลเลี่ยม เชคสเปียร์ อีกคนหนึ่ง คือถ้าเขาสองคน เป็นนักคิดอย่างราล์ฟ วัลโด อีเมอร์สัน หรือเฮนรี่ เดวิด ธอโร เราคงไม่ประหลาดใจเท่านี้ แต่นี่คนหนึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ อีกคนหนึ่งเป็นกวี เป็นนักประพันธ์ แต่กลับทำได้ถึงขนาดนี้ นิทเช่ เสียอีก ที่มัวไปทะเลาะกับพระเยซู เลยเป็นบ้าไปเลย! (ฮา)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 03/03/2009
ขอบพระคุณ คุณนันท์ครับ สำหรับข้อความ ช่างลึกซึ้งและจริงแท้ทุกๆข้อ ได้กำลังใจเต็มๆครับ โดยเฉพาะ "อย่ารู้สึกกังวลเกี่ยวกับความยากของวิชาคณิตศาสตร์…จนถึงทุกวันนี้ ข้าพเจ้ายืนยันได้ว่าคณิตศาสตร์ยังคงเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับข้าพเจ้า" แฮะๆ ผมมีเพื่อนแล้ว ขอบพระคุณมากๆครับผม
ชื่อผู้ตอบ : โก้ ตอบเมื่อ : 04/03/2009


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code