พลังงาน.......และข้อมูล
เพื่อพิสูจน์ว่า........มนุษย์เป็นเผ่าพันธ์เดียวที่สามารถ กำกับพลังงานและข้อมูลโดยผ่าน.......การมีความมุ่งมั่นหรือปราถนา

อยากเล่าเรื่องการสัมผัส"พลังงาน" ที่ถูกส่งออกไปในรูปของข้อมูลข่าวสารให้เพื่อนๆได้อ่านและ ช่วยนำไปทดลองในมิติอื่นๆเพื่อกลับมาแชร์ด้วยค่ะ

หลักสูตรฝึกอบรมครั้งล่าสุด ได้มีการเพิ่มกลุ่มตลาดใหม่ เป็นกลุ่มนักธรุกิจ(เอารายชื่อจากหอการค้า/โรตารี่) ก็ได้ออกเป็นจดหมายข่าวเหมือนเช่นที่ผ่านมา ที่เหมือนเดิมคือ เลือกที่จะไม่ใช่เทคโนโลยี่(การพิมพ์ด้วยคอมฯ) ใช้การจ่าหน้าซองด้วยการเขียนด้วยมือ จ้างน้องนักศึกษาทำให้ แล้วก็กำกับคุณน้องๆว่า ช่วยๆจินตนาการไปด้วยว่าคนเปิดจดหมายข่าว.......เค้าเห็นลายมือแล้วเค้า.......ตื่นเต้นมาก!!!!!

ในรายชื่อสมาชิกหอการค้า/โรตารี่ มีหลายคนเป็นฝรั่ง น้องๆเค้าถามว่าจะยกเว้นมั้ย??? คุณแฟนพันธ์แท้ก็คิดว่า ฝรั่งพวกเนี่ย(ส่วนใหญ๋เป็นสถานทูต) เค้าต้องมีเลขาฯเป็นคนไทย ตัดสินใจจ่าๆไปให้หมด ทุกอย่างเป็นสถิติ

ผลตอบรับเป็นดังนี้ค่ะ
มี3-4รายที่เค้างงมากว่าทำไมต้องเปิดจดหมายฉบับนี้ เพราะปกติมาแนวๆนี้มาขายของอย่างแน่นอน........และส่วนใหญ๋
มัมจะถูกส่งลง.....ขยะ!!

มีเลขาฯ ของสถานทูตแห่งนึง เค้าบอกว่าเจ้านายเค้าย้ายกลับประเทศเดิมตั้งหลายปีแล้ว แต่อยากรู้ว่าข้างในเป็นข้อมูลอะไร?...จึงเปิดอ่าน!!

มีอยู่คนนึงบอกว่ากำลังจะลงขยะอยู่แล้ว เกิด"ปิ๊งแว๊บ" เปิดซะหน่อยดีกว่า คนนี้ให้ข้อมูลน่าสนใจมากค่ะ
เค้าบอกว่า ท่ามกลางข้อมูลมากมายเราจะไม่ทันเห็น รวมทั้งไม่ได้ยินสิ่งที่เราไม่ได้ให้ความสนใจ

เราจะเห็น และได้ยิน
สิ่งที่เรากำลังสนใจอยู่เท่านั้น!!!
ชื่อผู้ส่ง : แฟนพันธุ์แท้ ถามเมื่อ : 29/01/2009
 


ขอฝากข้อความแนบไปกับคุณแฟนพันธุ์แท้ด้วยคนครับ

มี . . ความมหัศจรรย์ เล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นรายรอบตัวเรา อยู่ในทุกขณะ
ที่ปรากฏขึ้น ทั้งในรูปของข่าวสาร เหตุการณ์ หรือบุคคล
ขอเพียงให้ใจเราเงียบพอ ที่จะสังเกตเห็นมัน ชื่นชมและขอบคุณมัน
แล้วมันจะค่อยๆเติบโต นำพาความมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่กว่า เข้ามาสู่เรา

ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 29/01/2009
ขอเพิ่มเติมครับ คุณแฟนพันธุ์แท้เคยค่อนขอดผมว่า ผมไม่ค่อยยอมเล่าหรือแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวของผม เลยคิดขอแบ่งปันตัวอย่างเพื่อประกอบการขยายความข้างต้นมาด้วยครับ

จังหวัดเชียงใหม่ . . เช้าวันที่ 25 มกรา ที่ระเบียงหน้าร้านอาหารเช้าเล็กๆ ขณะที่ผมกำลังเดินออกจากประตูร้าน หลังจากเข้าไปชำระค่าอาหารเสร็จ เห็นฝรั่งกลุ่มหนุ่มสาว 3 คน ที่ผมนั่งอยู่ใกล้ๆ กับเขาเมื่อครู่นี้ กำลังทักทายกับเพื่อนหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่คงพึ่งได้มาพบกัน ดูจากเหตุการณ์เหมือนว่าได้พบเพื่อนเก่าโดยบังเอิญที่นี่ ภาพที่ผมกำลังเห็นคือ หญิงสาวที่มาใหม่กำลังเข้าไปทักทายกลุ่มเพื่อนทั้ง 3 คน โดยการเข้าไปโอบกอดซึ่งกันและกันทีละคนด้วยความนุ่มนวล ผมหยุดยืนมองด้วยใจอันสงบ แล้วผมก็ยิ้มขึ้นในใจ ด้วยว่านี่คือคำตอบ สำหรับคำถามจากข้อขบคิดของผมเมื่อเช้าตรู่ที่ผมถามทิ้งไว้ในใจ ผมเดินจากมาด้วยอาการอมยิ้มไปตลอดทาง และรู้สึกว่าอยากเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ผมยิ้มให้ฟ้า แล้วผมก็บอกฟ้าไปเบาๆ ว่า "thanks God"

สำหรับผมนี่เป็นความมหัศจรรย์เล็กๆ แต่เป็นคำตอบอันยิ่งใหญ่ ที่เราสามารถพบเห็นได้เสมอ ถ้าใจเราเงียบพอ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 29/01/2009
โดยอาชีพแล้วดิฉันต้องสัมผัสกับคนงานระดับท้องถิ่นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแม่บ้าน ปรกติดิฉันจะสั่งงานทางโทรศัพท์และจะไปดูสัปดาห์ละครั้ง บางครั้งที่ไปก็มักจะคลุกคลีหรือนั่งทำงานด้วยบ้างเพื่อแอบสังเกตุความเรียบร้อย ดิฉันจะอึดอัดเวลาเค้าคุยกันเพราะมักผสมปนเปด้วยทัศนคติที่เป็นลบ ที่หนักใจหน่อยก็คือนินทา และมักทำงานช้ากว่าที่ควรจะเป็น ดิฉันเคยทักท้วงห้ามปรามบ้างแต่ไม่ได้มากนักเพราะส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงวัย

...วันหนึ่งดิฉันได้รับออเดอร์ใหญ่ที่ต้องมีกำหนดเวลาส่งดิฉันเริ่มกังวลและเป็นทุกข์ แต่โดยปรกติถ้าเป็นแบบนี้ดิฉันมักหาเวลาอยู่กับตัวเองเงียบๆ ยิ่งกังวลมากดิฉันยิ่งหามุมสงบมากขึ้น แล้วดิฉันก็เข้ามุมสงบซึ่งอยู่ในบริเวณที่ทำงาน แล้วดิฉันก็เริ่มทำให้จิตตัวเองเงียบแล้วก็เริ่มอธิษฐาน ดิฉันเริ่มลงมือเขียนว่าดิฉันอยากได้คนงานแบบไหน ดิฉันหลุดออกจากเหตุผลทุกประการ ไม่กังวลว่าคนงานกลุ่มใหม่ที่อยากได้จะหามาจากไหน ?? แล้วจะเอากลุ่มเก่าไปไว้ที่ไหน?? จะพูดอย่างไร ดิฉันแค่ร้องขอ ปล่อยวางและเชื่อสุดๆๆ

แล้วก็เกิดเหตุการณ์ในวันที่เริ่มลงมือทำงานกับออเดอร์ใหม่ คือเกิดอุบัติเหตุกับคนงานคนหนึ่งซึ่งกำลังขี่มอเตอร์ไซด์มาทำงาน รถเกิดคว่ำอาการค่อนข้างหนัก ทำให้คนงานทั้งกลุ่มนั้นต้องหยุดทั้งหมดเพราะต้องไปดูคนงานคนนี้เพราะเค้าเป็นญาติกันทั้งหมด. ดิฉันตกใจและเริ่มมีความทุกข์ความกังวลหนักขึ้นไปอีก ดิฉันไปเยื่ยมและทำในสิ่งที่พึงทำให้ดีที่สุด

.ดิฉันถามตัวเองว่ายังไงต่อดี แล้วก็ได้คำตอบว่า... ก็แค่ปล่อยวางและจากเหตุการณ์นี้นั่นเองทำให้ดิฉันได้คนงานกลุ่มใหม่เข้ามาจากการชักชวนของคนงานกลุ่มเก่า ท่านคงทายถูกว่าคนงานกลุ่มใหม่เป็นอย่างไร ..พวกเค้าเป็นเหมือนที่ดิฉันเขียนไว้เป๊ะเลย แล้วดิฉันก็ส่งงานทันตามกำหนดเวลาอย่างสบายๆ

เมื่อวันที่ดิฉันเข้าไปอธิษฐานในมุมสงบนั้น ในความเงียบดิฉันได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบายทั้งๆที่เป็นช่วงของอากาศร้อนอบอ้าว และดิฉันก็ได้ยินเสียงหมู่ไผ่ที่ปลูกไว้บริเวณนั้นหลายสิบต้นเสียดสีเหมือนเสียงเพลงอันแสนไพเราะ เป็นเสมือนนส่งสัญญาณให้กำลังใจกับดิฉัน อาจเป็นเพราะ จิตที่เงียบสงบเลยสังเกตุได้

และนี่คือพลังงานมหัศจรรย์ในชีวิตจริงรูปแบบหนึ่งที่ดิฉันได้รับ และที่นำมาแบ่งปันก็เพื่อเป็นกำลังใจให้กับท่านที่อาจเผชิญกับปัญหาบางอย่างอยู่

ขอขอบคุณหนังสือทุกเล่ม ทุกสนพ.ที่ให้แนวทางนี้กับดิฉัน ขอบคุณผู้เขียนและผู้แปลทุกท่านค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : jang ตอบเมื่อ : 30/01/2009
ขอบคุณคุณ Jang สำหรับการพาผมเข้าไปร่วมฟังเสียงหมู่ไผ่เสียดสีกันครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 31/01/2009
แม้แต่กลุ่มคนเล็กๆ ในเว็บบอร์ดนี้ ต่างก็กำลังเสียดสีกันอยู่ เฉกเช่นต้นไผ่เหมือนกันนะครับ ถ้าใจเราเงียบพอ เราก็อาจได้ยินเสียงอันไพเราะนี้ได้เช่นกัน แต่ก็นั่นแหละ บางครั้ง ตอนที่ใจเราเงียบ มันก็ช่างไพเราะเหลือเกิน แต่ตอนที่ใจเราไม่สงบ ก็รู้สึกรำคาญชะมัดเลย

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 02/02/2009
มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ใช้นามว่า "วันของเรา" เข้าไปแสดงความรู้สึกที่งดงามเหลือเกิน ไว้ในเว็บบอร์ดของ SOGR (ในกระทู้ "ภาพ Mandela ที่ช่วยในการสร้างสมาธิ" ซึ่งเป็นกระทู้ของคุณโก้) น้องคนนี้เอ่ยถึง "พี่แจง" ของเธอไว้อย่างซาบซึ้งด้วยความสำนึกรู้คุณ

ไม่ทราบว่าเผอิญมาพ้องกับชื่อ คุณ Jang ในที่นี้ หรือว่าเป็นคนๆเดียวกันครับ

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 02/02/2009
ดูแล้วทั้ง "แจง" กับ "Jang" หัวใจขนาดใกล้เคียงกันมากเลยครับท่านอาจารย์ ผมว่าน่าจะคนเดียวกัน ถ้าเดาผิดก็ขออภัยด้วยครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 02/02/2009
ความมีตัวตนปรากฎชัดก็ตอนถูกต่อว่า(ด่า) แต่ไม่ต่างกับตอนถูกชมเลยค่ะเพียงแต่มันสุขหรือทุกข์ต่างกันเท่านั้น ดิฉันเพิ่งทราบบ่ายวันนี้น้อง "วันของเรา" เพิ่งโทรมาบอกค่ะ

ดิฉันเองก็รู้สึกชื่นชมเธอผู้นี้มาก ทั้งแข็งแกร่ง ทั้งมีพลังที่งดงาม จริงอย่างที่คุณนันท์เคยบอก ว่าอ่านมากอ่านน้อยไม่สำคัญ เท่ากับนำไปฝึกปฎิบัติให้เห็นผลลัพธ์ได้แค่ไหน ..สำหรับเธอผู้นี้นั้นด้วยกำลังทรัพย์อันน้อยนิดทำให้โอกาสที่จะซื้อหนังสือดีๆมาอ่านยากมาก..วิธีที่จะทำให้เธอได้อ่านหนังสือบางเล่มที่ดิฉันแบ่งปันให้ฟัง ก็คือดิฉันต้องพิมพ์บางบทบางตอน แล้วเมล์ไปให้เธอเปิดอ่านตามร้านอินเตอร์เนตคาเฟ่
เหตุการณ์ในชีวิตเธอน่าจะมีโอกาสฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะทำ เธออยู่ได้เพราะหนังสือ ดิฉันเคยพบเธอเพียงไม่กี่ครั้งแต่เราจะพูดคุยกันทางโทรฯ ดิฉันได้แต่แนะนำให้เธอเข้ามาอ่านในบอร์ดของ นันท์บุ้ค ...คุณแฟนพันธ์แท้ ช่วยดิฉันไว้ได้มากเพราะทำให้ดิฉันต้องพิมพ์ข้อความจากหนังสือต่างๆน้อยลง ดิฉันเองยังไม่แน่ใจว่าจะแกร่งเท่าเธอหรือไม่ถ้าเจอเหตุการณ์เดียวกัน แต่เธอมีภูมิคุ้มกันทางจิตวิญญาณที่ดีมาก

สังคมเล็กๆตรงนี้ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีแม้ที่จะซุกหัวนอน แถมยังมีลูกสาวตัวน้อยนิดอยู่ในความรับผิดชอบดูแล รายได้ก็แทบไม่พอยาใส้ แต่ด้วยแนวทางในหนังสือ ทำให้เธอสร้างความหวังอันบรรเจิดโตกว่าสิ่งที่เธอมีอยู่ในปัจจุบัน เธอจึงมีความสุขสงบทางใจได้ทุกวัน

คุณนันท์ อ.วสันต์และอีกหลายท่านคงทราบแล้วว่าทำไมดิฉันจึงต้องขอบคุณพวกคุณมากมายแทนทุกคนในสังคมของดิฉัน หลายคนที่เคยมีรายได้มากมาย มีรถหลายคันต้องเปลี่ยนไป เป็นเหลือรถเก่าๆคันเดียว หรือไม่มีรถไม่มีบ้านเหมือนเธอผู้นี้ แต่ใครมีทุกข์หรือสุขแค่ไหนขึ้นอยู่กับอ่านหนังสืออะไร คิดอย่างไรและคบกับใคร

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : jang ตอบเมื่อ : 02/02/2009
คุณ Jang ครับ คุณวันของเรา มีหนังสือของผมแล้วหรือยังครับ
แล้ว "พลังแห่งความรู้สึก" ละครับ ผมมีเหลืออยู่อีกเล่มนึงครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 02/02/2009
งานเล็กๆอีกงานที่ดิฉันทำทุกวันอย่างมีความสุขคือเลือกเก็บข้อความดีๆแล้วก้อปปี้ส่งไปให้ผู้คนที่กำลัง ลำบากทุกข์ยากทางใจได้อ่าน ..
ข้อความของคุณแฟนพันธ์แท้ อ.วสันต์ และคุณนันท์ ดิฉันได้เข้ามาขโมยเป็นประจำ หากเป็นลิขสิทธิ์ดิฉันคงถูกฟ้อง จนล้มละลายแน่ค่ะ

ถ้าอยากให้ดิฉันล้มละลายต้องหาข้อมูลดีๆมาไว้อีกนะคะ ดิฉันเตรียมจ้องขโมยไปฝากบรรดาน้องๆ เพื่อนฝูงที่หิวกระหายอาหารทางจิตวิญญาณค่ะ ขอขโมยคำนี้จากคุณหนึ่งก่อนเลยนะคะ คือ ยิ้ม ยิ้ม ค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : jang ตอบเมื่อ : 02/02/2009
โอววว....น้องเค้ากำลังอยากได้มากเลย ทั้งสองเล่มเลยค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : jang ตอบเมื่อ : 02/02/2009
พรุ่งนี้ ผมกะว่าจะส่งอีเมล์ไปขอที่อยู่ทางไปรษณีย์กับเธอ (ตามเบอร์อีเมล์ที่เธอได้ให้ไว้ในเว็บบอร์ดของ SOGR) ผมจะลองเลือกดูว่ามีหนังสืออะไรที่น่าจะเหมาะกับเธอ แล้วจะส่งไปให้ครับ

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 02/02/2009
คุณนันท์คะ ..ด้วยความดีใจจนเนื้อเต้นดิฉันรีบโทรฯไปบอกน้อง วันของเรา แล้วค่ะ เธอตื่นเต้นมากเหลือเกิน แล้วเธอฝากถามมาว่า จะให้เธอทำอะไรบ้างคะ จึงจะได้หนังสือทั้งสองเล่มนี้

เธอฝากขอบคุณมาอย่างซาบซึ้งด้วยค่ะ

ถ้าดิฉันต้องทำอะไรเพื่อตอบแทนความกรุณาให้คุณนันท์และครอบครัวในครั้งนี้บอกได้เลยนะคะดิฉันพร้อมและเต็มใจทันทีค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : jang ตอบเมื่อ : 02/02/2009
รบกวนคุณ jang หรือคุณวันของเรา (ถ้าเธอสะดวก) ช่วยส่งที่อยู่ทาง e-mail ผ่านทางหัวข้อ "ติดต่อเรา" (ที่อยู่ด้านบนของหน้า webpage ของ website นี้) แล้วเดี๋ยวจะส่งหนังสือไปให้ครับ หรือให้โทรศัพท์ไปแจ้งที่อยู่ก็ได้ที่ โทร. 02 953 5197 (ในเวลาทำงาน) ครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 02/02/2009
ผมขอคาราวะ...ในหัวใจที่งดงามและยิ่งใหญ่ของคุณ jang ครับผมอ่านข้อมูลที่คุณแจงบอกเล่ารู้สึกโชคดีจังครับ โชคดีที่สังคมเรามีคุณ ดีใจที่คุณแจงเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานในที่สีขาวตรงนี้

คุณวันของเราครับ คุณคือ...วันของพวกเรา ที่เปี่ยมพลัง...ครับ

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ครับผม...ขอบพระคุณคุณนันท์ครับผม
ชื่อผู้ตอบ : โก้ ตอบเมื่อ : 03/02/2009
- ช่างงดงาม................. เบิกบาน.................. ปิติสุข.....ขอบคุณทุก ๆ ท่านครับ
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ตอบเมื่อ : 03/02/2009
คุณ jang ครับ ยังไม่ได้รับที่อยู่นะครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 03/02/2009
พรุ่งนี้คุณ วันของเรา เธอจะติดต่อมาที่คุณนันท์ค่ะ

ขอบคุณนะคะที่ใส่ใจทวงถาม
ชื่อผู้ตอบ : jang ตอบเมื่อ : 03/02/2009
ดิฉันต้องขอขอบคุณคุณนันท์ที่ให้ความกรุณาและขอขอบคุณ อ.วสันต์ พี่jang และอีกหลายท่านในที่นี้ด้วยค่ะ วันศุกร์นี้จนถึงวันมาฆบูชา ดิฉันจะไปปฎิบัติธรรมที่เสถียรธรรมสถาน ถ้ามีสิ่งดีๆ จากแม่ชีศันสนีย์ ดิฉันจะมาแชร์ประสบการณ์ดีๆที่ได้รับมาให้ฟังนะค่ะ ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : วันของเรา ตอบเมื่อ : 04/02/2009
ได้รับที่อยู่แล้วครับ และได้ mail กลับไปบอกแล้วนะครับ คิดว่ากลับมาจากมาฆบูชาคงพอดีได้รับ

ด้วยความยินดีและขอให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีงามครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 04/02/2009
เห็นความเคลื่อนไหวของกระทู้นี้เป็นการยกระดับ....พลังงาน เลยขอเล่าเรื่องประทับใจ ที่ใกล้เคียงกันนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ

.......ในเวทีนักขายนาชาติที่เมืองไทเป ประเทศใต้หวัน เมื่อ เดือนเมษา.50 มีคนไทย ท่านนึงได้รับเกียรติขึ้นพูดในช่วงแรงบันดาลใจ

คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ

ในวันแรกที่เค้าขายแซนวิช เค้าต้องต่อสู้กับอัตตา(ความรู้สึก)ของตัวเองมากมาย จากภาพนักลงทุนที่มั่งคั่งขายคอนโดฯ 5-10ล้าน ต้องมาขายแซนวิช ชิ้นละ 25-30บาท เค้าเหมือน ปุถุชนทั่วไปที่มีความอาย กระดาก มีหลบอยู่ใต้บันไดเลื่อนบ้าง เมื่อเห็นภรรยาทนยืนขายตลอดเวลาไม่ยอมหยุดนิ่ง......ทำให้เค้าดกดันมาก

ในช่วง 1เดือนแรก แซนวิช 30บาท ขายยากกว่า คอนโดฯ 5-10ล้านเสียอีก

มีอยู่วันนึง เป็นวันที่ขายเกือบไม่ได้เลย จนเกือบเย็นจะเลิกขายแล้ว มีเพื่อนที่เป็นคนขายดอกไม้สดขอซื้อ(แบบเหมา) คุณศิริวัฒน์แปลกใจเลยขอทราบเหตุผลการซื้อ เพราะดอกไม้ของเธอก็ขายไม่ได้เหมือนกัน

เธอบอกเหตุผลว่า
"ฉันเป็นแม่ค้ามากว่า 10ปี ขายได้/ไม่ได้เป็นเรื่องปกติ แต่ฉันเห็นคุณลำบากกว่า อยากช่วยซื้อเพื่อ เป็นกำลังใจ แล้วฉันซื้อในจำนาณที่ไม่ได้เดือดร้อนอะไร"

คุณศิริวัฒน์.......อึ้งงง
นอกจากคนในครอบครัว.....ทีมงาน
แล้ว........

ยังมีน้ำใจเพื่อนมนุษย์....ที่สวยงาม.......ได้ถึงขนาดนี้หรือ?????

และด้วยเหตุการณนี้ คงเป็นการยกระดับพลังงานครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว.......วรเวทวุฒิคุณ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 05/02/2009
ขอบคุณครับ การยกระดับครั้งนี้น่าจะเป็นการติดเทอร์โบชาร์จ เลยละครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 05/02/2009
คุณศิริวัฒน์ ลงจากเวทีด้วยการร้องเพลง(ไม่แน่ใจว่าเป็นเพลงชาติรึเปล่า)แต่เป็นที่รู้จักกันดีของคนใต้หวัน

เนื้อเพลงได้กล่าวถึงดอกไม้ชนิดนึง(ถ้าจำไม่ผิด..น่าจะชื่อวว่าดอกเหมย) จะมีคุณสมบัติพิเศษคือ เวลาอากาศเหน็บหนาวหรือทารุณมากเท่าไหร่ ดอกไม้ชนิดนี้จะยิ่งออกดอกสะพรั่งตามความโหดร้ายของอากาศและสภาพแวดล้อม

คงเปรียบเหมือนปัญหาหรือมรสุมต่างๆ ที่เราหลายๆคนถูกส่งมาทดสอบ........
ว่า.........

ตัวเราและหัวใจของเรา..........ประกอบด้วยอะไร???.......รวมทั้งมีขนาดเท่าไหร่กัน???
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 06/02/2009
แม่ชีเทเรซ่า วีรสตรีคนหนึ่งในใจผม เคยพูดไว้ว่า "เราไม่สามารถทำสิ่งยิ่งใหญ่อะไรจริงๆ ได้หรอก ที่เราพอจะทำได้ ก็คือ การทำสิ่งเล็ก ๆน้อยๆ ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ ได้เท่านั้น!"

คุณ "วันของเรา" ขอบคุณพวกเราเสียมากมายไว้ในเว็บบอร์ดของ SOGR เธอบอกว่าตอนนี้หัวใจของเธอพองโตเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ผมจึงได้บอกเธอไปว่า ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่หัวใจพองโต แต่ทุกคน ต่างก็หัวใจพองโตไปด้วยกันทั้งนั้น อย่างถ้วนหน้ากัน ผมยังได้ขอบคุณเธอกลับไปด้วยซ้ำ ที่เปิดโอกาสให้พวกเราได้บริหารหัวใจกันบ้าง

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 06/02/2009
เห็นด้วยกับท่านอาจารย์ครับ ผมตามไปอ่าน ก็รู้สึกหัวใจพองโตอย่างนั้นด้วยจริงๆ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 06/02/2009
ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง คุณ นันท์ อ.วสันต์ พี่jang ที่เป็นสะพานเชื่อมสายสัมพันธ์นี้ให้มีขึ้น ดิฉันได้รับหนังสือแล้วค่ะ แล้วดิฉันจะใช้หนังสือเหล่านี้เป็นแนวทางในการสร้างชีวิต สร้างความสุข สร้างความมั่งคั่ง และสร้างคนคนหนึ่งให้เป็นคนดี ลูกสาวดิฉันค่ะ ขอบคุณและขอบคุณนะค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : วันของเรา ตอบเมื่อ : 09/02/2009
เป็นความยินดียิ่งครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 09/02/2009
..."...และสร้างคนคนหนึ่งให้เป็นคนดี ลูกสาวดิฉันค่ะ..."...นั่นแหละครับ คือภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติแล้วเลยทีเดียว! นอกจากขอเป็นกำลังใจให้คุณ "วันของเรา" แล้ว นี่ยังเป็นการตอกย้ำถึง "ภารกิจอันสำคัญยิ่ง" ที่เราต้องใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 10/02/2009


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code