เปลี่ยนชีวิตได้....โดย....ไม่ต้องทำอะไรเลย!!!!
เป็นชื่อหนังสือค่ะ
ซึ่งน่าจะถูกใจน้องๆ(รวมทั้งหลานๆ) ที่มองว่าการสงบจิตโดยสวดมนต์,ทำสมาธิ,ไปวัดปฏิบัติธรรม เป็นอะไรที่......ยังไม่ถึงเวลา!!!!
อ่านเนื้อหาแล้ว ทำให้คอนเฟิร์มว่าสิ่งที่เคยทำเมื่อตอนอายุ13-14ปี เป็นหลักการที่ถูกต้อง(ซึ่งในตอนนู้นถูกมองว่า...ประหลาดคน!!!)

เค้าจะพูดถึง 10วิธีผ่อนคลาย เพื่อการสงบใจที่จะช่วยให้เราเดินหน้าต่อได้เร็วขึ้น เนื้อหาเกินครึ่งเหมือน"ปัจจุบันคือเวลาที่ประเสรฺฐที่สุด" ของท่า ติช นัท ฮันท์
ชื่อผู้ส่ง : แฟนพันธุ์แท้ ถามเมื่อ : 22/12/2008
 


ขอบคุณมากครับ น้า อนุญาตให้เรียกนะครับ
ชื่อผู้ตอบ : พีระพงศ์ ตอบเมื่อ : 22/12/2008
ข้อมูลเพิ่มเติมครับ

เปลี่ยนชีวิตได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
จำนวนหน้า : 112
ผู้แต่ง : Karen Salmansohn
ใน ชีวิตก็มีหลายๆ หน ที่คนเราต้องเจอทางตัน นึกไม่ออกว่าจะแก้ปัญหาตัวเองอย่างไร แต่สำหรับ Karen Salmansohn คนนี้มาแปลก มาบอกเราว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือ การไม่ต้องทำอะไรเลยต่างหาก หนังสือเรื่องนี้จะบอกคุณถึงวิธีการจัดสรรเวลาที่ยุ่งยากของคุณด้วยการปล่อย วางบางสิ่งบางอย่าง แถมมีลีลาแปลและเรียบเรียงของสองสาวคนสวย สิริยากร พุกกะเวส และธนิยา มะลิสุวรรณ ยิ่งทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือฮาวทูที่จะทำให้คุณอ่านสนุกและเปลี่ยน ตัวเองให้ดูดีขึ้นได้จริงๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเนี่ย ต้องทำอย่างไรน่ะเหรอ ต้องลองอ่านดู แล้วเราจะได้มาแบ่งปันความสุขแบบง่ายๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยกัน Karen Salmansohn เป็นนักเขียนที่สำนวนสนุกสนานทีเดียว เนชั่นบุ๊คส์เลยคว้าหนังสือของเธอมาแปลให้คุณๆ ได้อ่านถึงสามเล่ม เล่มแรก 21 วิธีฝึกผู้ชายให้เชื่องกว่าหมา ด้วยลีลาเผ็ดๆ คันๆ ของ จิบเดียวก็ซึมเกิร์ล เล่มที่ 2 พระเจ้ายังเป็นโสดนะยะ แปลโดยอนิศ โอสถานุเคราะห์ และ เล่มที่สาม เปลี่ยนชีวิตได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย แปลและเรียบเรียงโดย สิริยากร พุกกะเวส และธนิยา มะลิสุวรรณ หนังสือทั้งสามเล่มเป็นหนังสืออ่านสนุกๆ สบายๆ ในวันว่าง และเป็นอะไรที่อาจตอบได้ตรงใจสาวๆ หลายคนเลยทีเดียว
ชื่อผู้ตอบ : พีระพงศ์ ตอบเมื่อ : 22/12/2008
โอคุณหลานนี่.....อ่านเยอะจริงๆ
อยากรู้มั้ย? ว่าคุณแฟนพันธแท้เคยคิดว่าวัยคุณ พีระพงศ์นี่...ซ้กเท่าไหร่ เนื่องเดาจากความคิดความอ่านไม่ได้ทายจากหน้าตา.....อ่านคำตอบแล้วมันคววรเป็นภูมิใจมากกว่าน้อยใจนะ

คิดว่าน่าจะประมาณ35 up น่ะ
ประมาณคุณคนขอนแก่น อะไรประมาณเนี่ย......อิอิ

ว่าแต่...เปลี่ยนชีวิตได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย..เนี่ยข้อความอ่านสบายๆ แต่สีที่พิมพ์ใช้สีที่อ่านยากไปนิด
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 22/12/2008
ครับคุณน้า ภูมิใจมากครับ แต่น้อยใจนิดๆครับ ที่หน้าตามันดูแก่ไปตามความคิดด้วยอะคับ ถ้าไม่ใส่ชุดนักเรียนก็ถูกเรียก "พี่" อยู่อย่างสม่ำเสมอครับ ยิ่งถ้าลืมโกนเครา ยิ่งไปกันใหญ่ครับ(ฮือๆ)

ดูจากกระทู้ต่างๆแล้วนับถือคุณน้าในการมีความรู้กว้างขวางและลึกซึ้งจริงๆครับ รู้สึกว่าคุณน้าทราบศาสตร์หลายอย่างเลยทีเดียวนะครับ และมีความเอื้อเฝื้อนำพมาเผื่อแผ่ด้วยครับ

ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท น้า อายุเท่าไรครับ (เผื่อถ้ามากกว่าแม่ผมจะได้เรียกป้าครับ อิอิ)
ชื่อผู้ตอบ : พีระพงศ์ ตอบเมื่อ : 22/12/2008
ขอบคุณ..คุณแฟนพันธุ์แท้ครับ
เล่มนี้น่าอ่านจังครับ ผมจะต้องไปซื้อบ้างแล้ว เห็นด้วยกับน้องพีระพงศ์ ที่คุณแฟนพันธุ์แท้ทราบศาสตร์หลายอย่างกว้างขวางมากๆ ดีครับที่เราจะได้มีโอกาสได้รู้ได้เห็นเพิ่มมากขึ้น

น้องพีระพงศ์..คนเก่ง ขอบคุณครับที่ได้ทราบข้อมูลหนังสือจากขั้นเทพอีกแล้ว ตอนอายุเท่าน้อง พี่ก็ยัง"ไก่กาอาร่าเร่"อยู่เลย ปลื้มและภูมิใจสุดๆ และจากที่สื่อผ่านตัวอักษรก็สัมผัสได้ว่าน้องมีระบบความคิดที่ยอดเยี่ยมเป็นคิดบวกของจริง....อืม ทึ่งๆๆครับผม
ชื่อผู้ตอบ : โก้ ตอบเมื่อ : 22/12/2008
จะเรียก"ป้า" ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยจริงๆค่ะ.....เป็นห่วงก็เฉพาะคุณหลานนั่นแหละ หากวันหน้ามีโอกาสต้องพบกันเดี๋ยวจะอึดอัดขับข้องในใจ.....ว่าไม่น่าตัดสินใจเรียกกัน....แบบนี้เลย ย

ลองไตร่ตรอง และตัดสินใจด้วยตัวเองดีดี แบบไม่ต้องมีสถานการณ์กดดันหรือต้องมีใครเหนี่ยวนำให้เกรงใจแบบกรณีที่มีให้เห็นใกล้ๆแถวนี้น่ะ

ดีมั้ย??????
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 23/12/2008
ศีลข้อ 4 : มุสาวาทา เวรมณี ท่านให้ละเว้นจากการพูดเท็จ คำหยาบ หรือ "พูดส่อเสียด รวมถึงการพูดให้คนแตกสามัคคีกัน"

น้องๆ เหล่านี้ นอกจากจะมีทั้งสติปัญญา และความรู้กว้างขวางแล้ว ยังมีสัมมาคาราวะต่อผู้หลักผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ น่าชื่นชมดีจริงๆ ครับ


ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 23/12/2008
ครับ ครื้นเครงดีคับ เรียกน้าล่ะกันเนอะคับ อิอิ
ชื่อผู้ตอบ : พีระพงศ์ ตอบเมื่อ : 24/12/2008
ผมหายไปไม่กี่วัน นี่เริ่มนับญาติกันแล้วหรือครับเนี่ย (ฮา) สำหรับผม ไม่ต้องมีใครมานับญาติอะไรกับผมทั้งนั้นนะครับ เรียกผมว่าอาจารย์ ไปอย่างเดิมนั่นแหละ (ฮา) ถึงมันอาจจะดูเหินห่าง แต่มันไม่สะเทือนใจมากนัก (ฮา) อายุแค่ยี่สิบกว่าๆ แต่มีคนมาเรียกป้า เรียกลุง แล้วเก็บมาภูมิใจนี่ ไม่ใช่ผมแน่ๆ ครับ (ฮา)

หนังสือ "เปลี่ยนชีวิตได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย" ที่พูดถึงกันอยู่นี้ ผมเองก็ยังไม่ได้ไปซื้อหามาเก็บไว้เลยครับ (โปรดสังเกต ผมใช้คำว่าซื้อหามา"เก็บ"ไว้ แทนที่จะใช้ว่า ซื้อหามา"อ่าน" เพราะระยะหลังนี่ เน้นซื้อมาเก็บ มากกว่าที่จะเน้นซื้อมาอ่าน) แต่ดูชื่อหนังสือแล้ว ต้องยอมรับว่าตั้งชื่อได้น่าสนใจมาก

มันคล้ายๆ กับที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าเป็น "Paradox" คือเป็นคำพูด หรือข้อความที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกับความรู้สึกของคนทั่วไป หรือดูจะเป็นข้อสรุปที่ดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกัน เท่าที่ผมนึกออก ก็เคยมีคนเขียน และหรือพูด เอาไว้ในประเด็นอื่นๆ อยู่บ้างเหมือนกัน เช่น :-

"กฎแห่งการใช้ความพยายามให้น้อยที่สุด" (ของ ดีพัค โชปรา)
"สูงสุด คืนสู่สามัญ" (สำนวนของโก้วเล้ง)
"ที่ที่ปลอดภัยที่สุด ก็คือที่ที่อันตรายที่สุด" (สำนวนของโก้วเล้ง เช่นกัน)
"พลังแห่งการดำเนินชีวิตแบบเนิบช้า" (เป็นชื่อหนังสือเล่มหนึ่ง จำชื่อได้ไม่ค่อยแม่นนัก แต่ทำนองนี้ เนื้อหาชี้ให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของ "ความช้า" ทำนองภาษิตไทยที่ว่า "ช้าเป็นการ นานเป็นคุณ" อะไรในทำนองนี้ ที่มันดูขัดความรู้สึก คือ ความช้าเป็นพลังได้อย่างไร และในยุคดิจิตอลนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนพูดกันถึงแต่ "ความเร็ว" กันไปทั้งนั้น)
"อะไรที่เราต่อต้านมันจะคงอยู่ แต่อะไรที่เราจ้องดูมันจะหายไป" (จากหนังสือ "สนทนากับพระเจ้า")
"บางครั้งเราต้องเข้าสู่สงคราม เพื่อยุติสงคราม" หรือ "บา
งครั้งเราต้องใช้ความรุนแรง เพื่อยุติความรุนแรง" (จากหนังสือ "สนทนากับพระเจ้า" เช่นกัน)
ฯลฯ

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า มันจะทำนองเดียวกันกับหลักการของ "Dialectic" (หรือที่มีผู้บัญญัติว่า "วิภาษวิธี") หรือไม่ ซึ่งเป็นหลักการที่พยายามหาคำตอบ ด้วยการวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ เปรียบเทียบ สรรพสิ่ง ที่มีลักษณะของ "เอกภาพด้านตรงข้าม" (อย่างที่ในหนังสือ "สนทนากับพระเจ้า" กล่าวไว้ในทำนองว่า มันต้องมีด้านที่เลว เพื่อเป็นตัวอ้างอิงได้ว่า ด้านที่ดีเป็นอย่างไร)

ก็เพียงแต่จะแตกหน่อ ต่อยอด ให้คิดกันเล่นๆ ครับ

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 25/12/2008
ขอแตกหน่อด้วยครับ ผมมักเรียก หน่อของผมแบบนี้ว่า เป็นระบบ 2 in 1 ซึ่งผมเคยใช้สังเกตและเรียนรู้การดำรงอยู่ของคนหรือสิ่งต่างๆ

ถ้าเป็นคนก็เช่น คนที่มีบุคลิกเข็มแข็งแต่นุ่มนวล หรืออ่อนนอกแข็งใน อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ใช้ความสงบสยบเคลื่อนไหว อ่อนไหวแต่ไม่ไหวหวั่น สวยแต่ดุ ตลกหน้าตาย หวานเป็นลมขมเป็นยา ฯลฯ อะไรทำนองนี้

ข้อสังเกตุของผมคือ สิ่งใดที่มีระบบ 2 in 1 ที่ตรงกันข้ามกันอยู่ในตัว และรักษาพลังงานทั้ง 2 ด้านได้อย่างสมดุล มักประสบความสำเร็จหรือเกิดศักยภาพอย่างสูงเสมอๆ แม้แต่โกวเล้ง ก็เป็นพวกชอบใช้หลักนี้แฝงอยู่ในงานเขียนของเขาเสมอ ผมเองเคยตั้งเป็นทฤษฎีโดยเทียบเคียงว่า น่าจะเป็นเรื่องเดียวกับหลักการแห่งเต๋า เช่นเมื่อมีขาวเลยมีดำ เมื่อมีมืดเลยมีสว่าง มีสูงเลยมีต่ำ มีความสวยเลยมีความน่าเกลียด มีสุขเลยมีทุกข์ ปกครองโดยไม่ปกครอง กระทำโดยไม่กระทำ เป็นต้น

ขอแถมอีกเรื่อง ที่ผมเคยตั้งเป็นข้อสังเกตแบบสนุกๆ ไว้ในอีกจำพวกหนึ่ง อันนี้พวกสาวๆ น่าจะแสดงความเห็นด้วยหรือคัดค้านได้เช่น ผู้ชายหน้าตาหล่อแววตาหวานๆ หน้ามลๆ แต่ถ้าแต่งตัวหรือมีบุคลิกให้ดิบๆ หรือเซอๆ หน่อย สาวๆ มักจะชอบ อาจเพราะดูไม่เลี่ยนหรือเบื่อง่าย หรือถ้าผู้ชายที่ดูดิบๆ หรือหน้าตาน่าเกลียด จะมีเสน่ห์มาก ถ้าพอพูดออกมาแล้วช่างสุภาพอ่อนโยน มีบุคลิกนุ่มนวล . . อันนี้จริงหรือเปล่าไม่แน่ใจนะครับ

ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 25/12/2008
จริงครับจริง ผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาไม่หล่อ มักมีภรรยาสวย (ฮา) ขนาดมีคนชมว่าลูกสาวสวย ยังออกตัวว่า ก็งั้นๆ สู้แม่เขาไม่ได้ (ฮา ด้วยความสะใจ)

โบราณท่านถึงได้มีสำนวนว่า "คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง" (แต่สมัยนี้ ต้องต่ออีกประโยคหนึ่ง คือ "เงินทองเป็นฝ่ายชนะทุกที!...ฮา)



ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 26/12/2008
แหมคุณแฟนพันธุ์แท้ มีการพาดพิงด้วย

"คิดว่าน่าจะประมาณ35 up น่ะ
ประมาณคุณคนขอนแก่น อะไรประมาณเนี่ย......อิอิ"

แต่ก่อนฟังเพลง30ยังแจ๋ว รู้สึกเลยว่าคนอายุ30 ต้องแก่แน่ๆ พอมาเจอกับตัวดูเหมือนจะไม่ใช่เลยนะ (หรือไม่ยอมรับก็ไม่รู้) ยังรู้สึกหนุ่มฟ้ออยู่เลย

เวลาในชีวิตค่อนข้างจำกัด ได้แต่มาอ่าน จะเขียนทีก็คงต้องตั้งใจเดี๋ยวปล่อยไก่ท่ามกลางปราชญ์

เอ๊ะ!เผลอใช้คำพูดพลังงานต่ำไปอีกแล้ว คุณนิกช่วยด้วย

ชื่อผู้ตอบ : คนขอนแก่น ตอบเมื่อ : 26/12/2008
35up นี่ มีเรื่องเล่าค่ะคุณคนขอนแก่น
มีลูกค้าที่มาฝึกอบรมท่านนึง ดูแลตัวเองดีมาก พอทราบอายุก็ตกใจ
เลยอยากให้คนที่ชอบทายแม่นๆ(ชอบทายความคิด ,อาขีพ,ภูมิหลัง ของคนดีนักแล) ก็ขอให้เค้าทายอายุคุณลูกค้าคนนี้หน่อย

เค้าก็อึ้งๆ แล้วก็ค่อยๆบอกว่า....คง35up(ด้วยความกลัวหน้าแตกอย่างเห็นได้ชัด)
ความจริงหมอ(ลูกค้าเป็นหมอ) อีก1ปีจะ50 ค่ะ
เลยไม่ทราบว่าเรื่องราวคุณคนขอนแก่น คล้ายๆแบบนี้มั้ยคะ????
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 26/12/2008
อาจารย์วสันต์คะ
คุณแฟนพันธฺแท้ต้องมีภาระพาใครบางคนพบ"เทพไท้เทวา"
นี่หมายความว่า......ต้องทำใจให้พร้อมที่จะเจอคน"หน้าตาดิบดิบ"
ถูกต้องมั้ยคะ???........อื๋อออ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 26/12/2008
ไม่คุยเรื่องอายุแล้วขัดกับหนังสือ "ร่างกายที่เหนืออายุขัย จิตใจที่ไร้กาลเวลา" อายุไม่ใช่มีแค่อายุทางชีววิทยา.... อิ อิ

อ.วสันต์ ครับ หนังสือ 5 books change the world อีกเล่มคืออะไรครับ ดูไม่ออก
1the secret
2A brief story of time
3world is flat
4an inconvenient truth
5.........................
ชื่อผู้ตอบ : คนขอนแก่น ตอบเมื่อ : 27/12/2008
อีกเล่มหนึ่ง คือหนังสือ "คู่มือมนุษย์" ของท่านพุทธทาส ครับ คุณคนขอนแก่น

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 28/12/2008
คุณแฟนพันธุ์แท้ครับ เรื่องการที่ต้องทำใจให้พร้อม เมื่อพบหน้ากันครั้งแรก นั้น ก็คงต้องทำใจกันให้พร้อมไปด้วยกันทั้งสองฝ่ายแหละ (ฮา) แม้บางคนอาจจะไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่ว่าเขา (หรือเธอ)อาจเป็นคนหน้าแปลกๆ (ฮา)

ชื่อผู้ตอบ : วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์ ตอบเมื่อ : 28/12/2008


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code