รบกวนขอความคิดเห็นครับผม
เรียนคุณนันท์และทุกท่านครับผม

ผมขอรบกวนขอความคิดจากท่านผู้เชี่ยวชาญที่นี่ครับผม สืบเนื่องจากคำถามในเวป sogr ที่มาจากลิ้งhttp://www.sogr.biz/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=sogrbiz&thispage=&No=346050&WBntype=1
ข้อคำถาม Opinion No. 5 (ของคุณธิติพงษ์)ดังข้อมูลผมคัดลอกมาดังนี้ครับ

ผมไปเจอเพื่อนกลุ่มหนึ่งนะครับเขานับถือพุทธ แล้วเขาศัทธาหลวงพ่อเกษมวัดสามแยก ที่เพชรบูรณ์เขาบอกว่าให้ทำตามพระไตรปิฎกเท่านั้นถึงจะได้บุญ มีการให้เอาพระพุทธรูปออกจากบ้านให้หมด ถึงจะโอนบุญ เบิกบุญ จ่ายบุญ หวังว่าพี่หนึ่งและทุกท่านคงเคยทราบข่าวนี้มาบ้างแล้ว พี่หนึ่งและทุกท่านมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรบ้างครับ ขอความเห็นหน่อยครับ

ขอบพระคุณล่วงหน้าครับผท ยิ้มๆๆๆๆๆคร้าบ


ชื่อผู้ส่ง : โก้ ถามเมื่อ : 28/10/2008
 


ขออนุญาต แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรกครับ ( เป็นความคิดเห็นเท่านั้นน่ะ ไม่มีถูก หรือผิดครับ
- ด้วยส่วนตัวไม่มีโอกาสได้ศึกษาตามพระไตรปิฎก แต่มุมมองเรื่องการเอาพระพุทธรูปออกหรือจะเอาไว้นั้น ไม่น่าจะมีผลต่อเรื่องความเชื่อมั่นต่อสิ่งที่นับถืออยู่ เพราะถึงจะมีหรือไม่มี นั้นล้วนอยู่ที่ภายในใจเท่านั้น แต่ในกรณีนี้ อาจจะเป็นกุศโลบายเพื่อไม่ให้เกิดการยึดติดในพระพุทธรูป เพียงแต่ถ้าใจนั้นมีความเข้าใจถึงเนื้อหาของพระไตรปิฎกก็คงจะเน้นอยู่ที่การปฏิบัติเพื่อให้ถึงภายใน หรือเพื่อให้เกิดปัญญา แล้วที่นี้ ถ้าในบ้านมีพระพุทธรูป อยู่ เวลาเห็นก็อาจจะเป็นสิ่งเตือนสติถึงเนื้อหาที่ปฏิบัติอยู่หรือเป็นเครื่องระลึกถึง
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 28/10/2008
ต่ออีกนิด ได้บุญหรือไม่ได้ คงอยู่ที่การปฏิบัติมากกว่าการมีหรือไม่ มีพระพุทธรูปครับ .......
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 28/10/2008
คุณนีโอตอบไปทางเดียวกับ...เทพไท้เทวาเลยค่ะ
อาจเป็นเรื่องใกล้ๆกัน แต่ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับหลวงพ่อเกษมดังนี้

มีหมอท่านนึงได้อ่านหนังสือ"ซุปเปอร์ริชชี่" เค้าก็มีความเชื่อเนื้อหาในระดับหนึ่งและอยากศึกษาเรื่องนี้ จึงพาไปพบ......ได้เฉพาะที่ที่ตัวเองรู้จักเท่านั้น
ไม่รู้ว่าบุญหรือกรรม หมอคนนี้ที่ผ่านมาจะแอนตี้" การเทศน์"ของพระตลอดเห็นว่าเป็นเรื่องเว่อร์เกินจริง แล้วเหมาว่าไม่มีอะไรที่น่าฟัง

พอมาพบเทพไท้เทวา.......ก็รู้สึกแล้วว่าคำสอนต่างๆ(ผ่านช่องทางนี้)ตัวเองรับได้.........ทีนี้ก็มาถึงถูกแนะนำให้สวดมนต์
หมอคนนี้ก็ตอบว่า....ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงเพราะที่บ้านไม่เคยมีหิ้งพระ หรือห้องพระ ไม่รู้ว่าสวดแล้วต้องหันหน้าไปด้านไหนทิศไหน

ท่านก็ตอบว่า หิ้งพระ/ห้องพระ มีหรือไม่มี ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญ
แล้วเวลากราบพระ....กราบไปตรงไหนก็ได้ สำคัญให้จิตรับรู้ว่านี่คือการกราบพระ

ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 28/10/2008
คุณโก้ครับ เมื่ออ่านกระทู้จบลง ผมประเมินตนเองอย่างนี้ครับ

1. ผมไม่เคยรู้จักหรือได้ยินเรื่องราวของหลวงพ่อเกษม มาก่อนเลย
2. ผมคาดเดาว่า ข้อความในส่วนสำคัญที่ว่า "ให้ทำตามพระไตรปิฎกเท่านั้นถึงจะได้บุญ มีการให้เอาพระพุทธรูปออกจากบ้านให้หมด ถึงจะโอนบุญ เบิกบุญ จ่ายบุญ" นั้น น่าจะเป็นคำพูดของคุณธิติพงษ์ ที่สรุปมาเล่าต่อ ซึ่งส่งผลให้ ที่มาที่ไป ความตรง หรือความลึก ของถ้อยคำ เราไม่อาจรู้ได้

ผมเลยไม่กล้าให้ความเห็นใดๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือพาดพิงถึงเจตนาใดๆ ของหลวงพ่อครับ

แต่หากจะเป็นความเห็น ที่จับความเฉพาะเนื้อหา ตามตัวหนังสือคำพูดของคุณธิติพงษ์ (ผมได้พยายามตามเข้าไปอ่านข้อความส่วนอื่น ตามลิ้งค์ที่ให้มา แล้วไม่สำเร็จ) ผมเองชอบคำตอบของคุณนีโอมากครับ สั้นกระชับ ตรงไปตรงมา ตรงประเด็น ชัดเจน ดีจริงๆ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง การเปรียบประโยชน์ของพระไตรปิฎก พระพุทธรูป และการเกิดบุญ

ขอเสริมนอกเรื่องครับว่า พุทธศาสนาในโลกนั้น ความจริงมีหลายนิกาย หลายวิธีปฏิบัติ หลายวิธีสื่อทางธรรม อยู่เหมือนกัน ที่เราอาจไม่คุ้นชิน หากได้ขยายมุมมอง โดยการศึกษาแบบแผน หรือแนวทางของนิกายอื่นๆ เช่น มหายาน ก็อาจพบเรื่องราวลักษณะนี้อยู่บ้าง ครับ แต่บางที มันเป็นเรื่องที่ต้องระวัง ในการตีความพลาด เลยทำให้เข้าใจผิดไปกันใหญ่ครับ

ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 29/10/2008
ขอบพระคุณคุณนีโอ คุณแฟนพันธุ์แท้ คุณนันท์ในความกรุณาครับผม
ผมซาบซึ้งในข้อคิดเห็นของทุกท่านจริงๆครับ ผมเองก็ไม่สามารถในข้อคำถามนี้เลย เลยต้องมารบกวนทุกท่าน
คุณนันท์ครับตามลิ้งค์ http://www.sogr.biz/
อยู่ในกระทู้ชื่อ (น้องใหม่โชคดีที่สุด).. รบกวนคุณนันท์ลองอ่านดูเล่นๆก็ได้ครับ ผมเองก็สุดความสามารถในเรื่องนี้จริงๆ พี่หนึ่งท่านก็เช่นกันเลยบอกให้ผมลองมาโพสท์ลงที่นี่ และเป็นไปตามความคิดผมจริงๆ ทุกท่านเก่งและน่ารักจังเลยในข้อตอบที่ให้เราตั้งที่ความสบายใจ ผมขอแสดงความเคารพจากหัวใจเลยครับผม
ชื่อผู้ตอบ : โก้ ตอบเมื่อ : 29/10/2008
- ขอบคุณเช่นกันครับที่ให้โอกาสแสดงความคิด ( อาจจะน้อยนิดแต่ก็ช่วย ๆ กันครับ )
ชื่อผู้ตอบ : นีโอ ( วิชยะ คุ้มสุด ) ตอบเมื่อ : 29/10/2008
คุณโก้ ครับ ได้ตามเข้าไปอ่านแล้วครับ โดยเฉพาะความเห็นของคุณโก้เอง ซึ่งผมคิดว่าเป็นมุมมองต่อคำถามนี้ที่เยี่ยมยอดเช่นกัน ที่ชอบเป็นพิเศษคือ ประโยคที่ว่า

"ทุกคนมีเวลา ในการเรียนรู้ของตนเอง"

มุมมองของผม เรื่องทำนองนี้ มันไม่เป็นอะไรหรอกครับ มันไม่มีผิดหรือถูก ให้เราเผลอไปวิเคราะห์ หรือตัดสิน

ผมชอบสิ่งที่คุณ Karn เคยพูดเอาไว้หลายครั้งว่า . . ทุกคน ทุกจิตวิญญาณ รวมทั้ง คุณโก้ ตัวผมเอง และเพื่อนๆ ของคุณธิติพงษ์ ก็กำลังเรียนรู้ไปกับแง่มุม หรือรายละเอียดต่างๆ บนเส้นทางที่กำลังเดินไปนี้ ได้ด้วยกันทั้งนั้น และเสมอ . . ครับ

ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 29/10/2008
เรียนคุณนันท์
สิ่งหนึ่งที่โชคดีสุดในชีวิตผมคือ การที่ได้มีโอกาสเข้ามาต่อเติมความรู้และได้รับสิ่งดีงามจากหมู่มวลกัลยาณมิตรทุกท่าน

คุณนันท์ครับบทเรียนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาทำให้ผมภูมิใจที่จะหนีบหนังสือไว้ให้แน่นๆๆๆขึ้นอีกครับ สุขใจจังครับ

ผมขอซึมซับ คำพูดของคุณ Karn ด้วยคนครับ ถ้าคุณ Karn ผ่านมาอ่าน ผมแอบมีมโนภาพไว้ว่าจะได้นอนยิ้มเอกเขนกอ่านหนังสือที่คุณ Karnเขียน พร้อมลายเซนที่ปก ในบรรยากาศกลิ่นหมอกไอหนาว(ถิ่นล้านนาบ้านผม)และหลับสบายไปพร้อมกับเรื่องราวในหนังสือ....ยิ้มๆๆๆๆๆครับผม
ชื่อผู้ตอบ : โก้ ตอบเมื่อ : 29/10/2008
รบกวนเรียนคุณนันท์อีกนิดครับผม แฮะๆ

"ทุกคนมีเวลา ในการเรียนรู้ของตนเอง"
คือประโยคของท่านพี่หนึ่ง(ดร.วรัญญา)ครับ ที่ทำให้ผมเริ่มต้นแชร์ความคิดเห็นในเรื่องนี้ที่บอรด์ sogr ด้วยความรู้สึกอบอุ่นมั่นคง โดยที่ผมได้ขอนำประโยคนี้ของพี่หนึ่งยกมาเป็นหลักยึด น้องขอขอขอบพระคุณ(สำนึกรู้คุณ)พี่หนึ่งมาณ.ที่นี้ครับผม

ขอให้คุณนันท์และทุกๆท่านหลับฝันดีคร้าบบบ ยิ้มๆๆๆ
ชื่อผู้ตอบ : โก้ ตอบเมื่อ : 29/10/2008
dear คุณนันท์ และ คุณโก้ครับ
ขอบคุณจริงๆนะครับที่ให้มิตรภาพและความนึกถึงผมในแง่ที่มีประโยชน์ ผมผ่านมาบ้างในที่นี้ แต่ไม่บ่อยนักเพราะ ชีวิตกำลังอยู่ในช่วงที่ผมเรียกเล่นๆว่า "ทำนา" ครับ ไม่นานนี้เอง ผมรู้สึกถึงสัญญานบางอย่างที่มาบอกว่ามันถึงเวลา เกี่ยวข้าวและลอกคราบแล้ว จริงๆแล้วผมมีมโนภาพและฝันจะได้สัญญานนี้มานานแล้วครับ หลายปีที่ผ่านมา ผมเฝ้าจับสัญญาน วิ่งหา พยายามไล่ล่า ฮึดสารพัด เฝ้ารออยู่ปีแล้วปีเล่า รอจนเลิกรอ และเริ่มออกเดินทางเปลี่ยนแปลงความคิดตนเองไปลองใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆตามโอกาสเอื้ออำนวย แต่อย่างไรก็ตามวันหนึ่งในวันที่ไม่คิดว่าสิ่งที่รอจนลืมแล้วนั้นจะเกิดขึ้นได้ สัญญานบางอย่างก็มาทำให้รู้ว่า สิ่งที่รอคอย ปรารถนาและใฝ่ฝันนั้น ตอนนี้จู่ๆมันมาอยู่ตรงหน้าแล้วครับ ไม่ไกล แต่ก็ไม่ใกล้ เมื่อเป็นเช่นนี้ รวมกับการประมวลความคิดที่ไหลมาเอง ทั้งจากประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมาในเวทีที่เลือกชอบแบบบันดาลใจและทั้งจากเวทีที่เลือกไปตามเหตุผลที่ใช้แต่ความคิด ผมจึงทำอะไรอื่นไม่ได้อีกนอกจาก "ตัดสินใจ" ที่จะรวมพลังความสามารถทั้งหมดที่ผมพอจะมีแล้ว "ตั้งมั่น" ทะยานไปหามันโดยไม่ยอมเสียพลังงานไปกับความลังเลหรือเรื่องคลางแคลงใจอื่นๆอีก ช่วงสองสัปดาห์มานี้ ชีวิตผมเปลี่ยนไปมากครับ ผมลืมวันคืน บางครั้งรู้สึกโดดเดี่ยว บางครั้งรู้สึกอบอุ่นอย่างมาก ผมเสียอะไรไปหลายอย่างรวมทั้งความมั่นใจ แต่ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกว่าได้พลังที่ดีบางอย่างซึ่งอธิบายยากมา และสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณประสบการณ์และการเดินทางที่ผ่านมาทั้งสิ่งที่เคยคิดว่ามีค่ามากๆ และสิ่งที่ไม่มีค่าครับ ผมขอบคุณทั้งสองแบบนั้นเพราะตอนนี้ผมพบว่าสองแบบที่เคยคิดต่างนั้นจริงๆแล้วไม่ต่างกันเลยเพราะ ทุกๆอย่างนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามมันได้ช่วยกันสร้างให้ผมเจอสัญญานที่รอคอยในวันนี้ ซึ่งสิ่งนี้จริงๆแล้วมันเป็นเพียงแค่จุดเริ่ม ของการเริ่มก้าวใหม่ก้าวแรกด้วยซ้ำครับ แต่อย่างไรก็ดี ผมยินดีที่รู้สึกถึงมันได้และผมยินดีที่จะทุ่มเทแรงกำลัง เอื้อมมือไปหยิบมันให้ได้ครับ

จะว่าไป จริงๆแล้ว ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สัญญานนี้จริงแท้แค่ไหน ผมจะทำได้ไหม หรือนี่คือกฏแห่งแรงดึงดูดอย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็นครับสำหรับผม เพราะผมไม่ได้คิดว่ามันจะยากหรือง่ายครับ นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมครับ ตอนนี้หากให้เปรียบเปรยผมก็รู้แค่ว่า ลูกเทนนิสลอยออก จากหน้าไม้ฝ่ายตรงข้ามแล้ว มันยังไม่ข้ามเน็ทมา แต่เรารู้ว่ามันจะไปตรงไหน (เวลาแข่งเรารู้แบบนั้นครับ) ดังนั้น ผมจึงเลือกและโยกตัวเตรียมวิ่งไปทางนั้น ผมคิดไว้แล้วด้วยว่าจะตีมันยังไง ตีไปทางไหน วางเท้าตรงไหน และต่อไปอีกสอง-สามช๊อตต่อมา ผมจะคอนโทรลเกมส์มาทางไหน และได้แต่มนั้นได้ด้วยวิธีไหน ผมขอเปรียบเปรยอย่างนี้ครับ และตอนนี้ที่ทำก็คือการวิ่งไปตามที่คิดเพื่อที่จะเล่นมัน นี่คือสิ่งที่ผมตั้งชื่อว่า การลอกคราบ ครับ

แชร์ซักหน่อยครับ หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ
อย่างไรก็ตาม คิดถึงสิ่งต่างๆและมิตรภาพที่ดีในที่นี้เสมอครับ
ชื่นชมคุณนันท์ และ "สิ่งที่เรามีร่วมกัน" ครับ

พิเศาสำหรับคุณโก้ครับ มโนภาพของคุณโก้ คือเกเตอเรตครับ
thank u mak mak !
ชื่อผู้ตอบ : Karn ตอบเมื่อ : 31/10/2008
ขอร่วมแสดงความยินดีกับคุณ Karnด้วยคนค่ะ

มีเรื่องเรียนถามคุณโก้ค่ะ
ที่บอกว่าถิ่นล้านนานี่.....จังหวัดอะไรคะ???
และมีเรื่องรบกวนถามดังนี้ค่ะ
ตอนนี้มีหนังสือ"ศาสตร์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวย"แล้ว กำลังมีคิวใกล้ๆที่จะอ่านเล่มนี้......และได้แวะไว้ที่เว็บฯ sogr มาบ้าง หากว่าต้องการดูเทปบันทึกรายการที่คุณหนึ่งถูกสัมภาษณ์(สุริวิภา) คุณโก้ช่วยอนุเคราะห์หาวิธีให้ได้มั้ยคะ??(นอกเหนือจากหาดูจากเว็บฯของรายการฯเพราะมันสะดุดมากไม่ต่อเนื่อง)

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 31/10/2008
รู้สึกดีและอยากส่งกำลังใจให้กับทุกๆ ช็อต ที่กำลังเกิดขึ้นนับต่อจากนี้ไปด้วยครับคุณ Karn
แล้วส่งข่าวสารจากสัญญานนั้น มาถึงกันบ้างนะครับ
ชื่อผู้ตอบ : นันท์ วิทยดำรง ตอบเมื่อ : 01/11/2008
หนึ่งได้ส่งเทปไปให้คุณแฟนพันธุ์แท้ แล้วนะคะ ขออภัยในความล่าช้าค่ะ

ขอขอบคุณ คุณโก้ ผู้ประสาน และ ขอบพระคุณ คุณนันท์ เจ้าของพื้นที่ มากๆๆๆๆ ค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : หนึ่งค่ะ ตอบเมื่อ : 30/11/2008
น้องเค้าบอกว่าเทปมาถึงสัปดาห์ที่แล้ว
พึ่งมีโอกาสไปเอาที่ออฟฟิศวันนี้ ขอบคุณมากค่ะ

ได้รับวันพระจันทร์ยิ้มม.....พอดีเลยค่ะ
ชื่อผู้ตอบ : แฟนพันธุ์แท้ ตอบเมื่อ : 01/12/2008
English for you download
แบบเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง English for you Golden slot เป็นแบบเรียนที่สามารถพัฒนาผู้เรียนได้ดี เพราะสามารถฟัง ฝึกพูดได้ด้วยตัวเอง รวมถึงมีเอกสารประกอบซึ่งทำให้เราสามารถตามบทเรียนจากบทสนทนาได้ บทเรียนจะเริ่มตั้งแต่ระดับพื้นฐาน และเพิ่มระดับความยากขึ้น ปัจจุบันหาซื้อแบบเรียนไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังมีไฟล์อัพโหลดออนไลน์ให้เราได้ดาวน์โหลดไปใช้ฝึกภาษากันเป็นการส่วนตัว
ชื่อผู้ตอบ : apiya ตอบเมื่อ : 08/03/2018


คำตอบ  
ชื่อผู้ตอบ  
E-mail  
Security Code